จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 866 ให้สายฟ้าแรงกว่านี้หน่อย
ฟางเหยียนเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของเต๋ายอดเซียน และเกรงว่าเรื่องจะไม่น่าง่ายขนาดนั้น แต่เนื่องจากเขาไม่พูด ตนเองจึงยากที่จะถาม รู้แต่ว่าการดึงพลังทิพย์ออกมานั้นมันเป็นเรื่องยาก!
ฟางเหยียนนั่งลงตามคำแนะนำของเต๋ายอดเซียน และจัดวางสมบัติเบญจธาตุตามลำดับของห้าสำนักหยินเหมินอันดับแรกคือหินเหล็กนิลของสำนักกุ่ยกู๋ ขลุ่ยวิเศษของสำนักฉิวหลง น้ำไร้หน้าของสำนักไร้หน้า ตราประทับเทียนซือของสำนักเทียนซือ และสุดท้ายคือเกราะเทพมังกรของแก๊งเก้ามังกร
สมบัติทั้งห้าถูกวางไว้ในรูปแบบของดาวห้าแฉก ฟางเหยียนนั่งขัดสมาธิอยู่ท่ามกลางดาวห้าแฉก มือขวาถือหลิงสือสีเขียว ส่วนมือซ้ายถือหลิงสือสีแดง หลังจากนั้น ฟางเหยียนก็มองไปที่เต๋ายอดเซียน และกำลังจะเอ่ยปากถาม แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มด้วยสีหน้าราบเรียบ
และเขาหยิบกระบอกยาวสีดำออกมา แม้จะอยู่ภายใต้ผ้าสีดำเข้ม แต่กระบองยาวก็ส่องแสงระยิบระยับและแพรวพราวมากขึ้นเรื่อย ๆ
“จอมพล กระบองนี้เรียกว่ากระบองดำอุกกาบาต มันทำจากอุกกาบาตเหล็กจากโลกภายนอก ใช้มันเพื่อระดมพลังแห่งฟ้านั้นดีที่สุดแล้ว”
กระบองดำอุกกาบาต!
อุกกาบาตเหล็กจากโลกภายนอก!
นี่มันไม่เหมือนหินเหล็กนิลของสำนักกุ่ยกู๋หรือ?
ไม่มีใครรู้ว่ากระบองดำอุกกาบาตนี้จะทำให้เรื่องซับซ้อนมากยิ่งขึ้น!
เต๋ายอดเซียนรู้ว่าฟางเหยียนมีความสงสัย จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จอมพล พูดตามตรงแบบไม่ปิดบัง กระบองดำอุกกาบาตนี้อาจารย์ของผมได้มาด้วยความบังเอิญในสถานที่ต้องห้ามแห่งหนึ่ง แต่เขาก็สูญเสียไปมากเช่นกัน นี่เป็นวัตถุที่ขัดกับมติของสวรรค์ เดิมทีตั้งใจว่าจะไม่นำออกมาใช้จนชั่วชีวิต แต่วันนี้ มันควรจะบรรลุภารกิจของมัน”
“ถ้าเช่นนั้นก็รบกวนคุณแล้ว”
“จอมพลไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว หากองค์กรสัตว์เพลิงที่ทำร้ายประเทศและประชาชนไม่ถูกกำจัด แล้วพวกเราจะอยู่อย่างสงบสุขได้อย่างไร? เดิมทีภูเขาทิพย์ของผมนั้นเป็นดินแดนที่เงียบสงบ แต่ถ้าดูตามช่วงเวลาที่ผ่านมา คราวนี้ภูเขาทิพย์นี้ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เพราะมีคนที่มีความทะเยอทะยาน! จอมพลช่วยพวกเราวางแผนเพื่อความสงบสุขของพวกเรา ถ้าผมไม่ช่วยทำอะไรสักนิด มันก็จะดูไร้เหตุผลไปหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ผมสามารถทำได้มีเพียงแค่นี้”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เต๋ายอดเซียนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จอมพล พูดตามตรงไม่ปิดบังคุณ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้วิธีนี้ เพราะพลังทิพย์ที่ซ่อนอยู่ในหลิงสือทั้งสองชิ้นของคุณนั้นทรงพลังมากเกินไป มีเพียงการหาวิธีใหม่เพื่อที่จะสามารถแก้ปัญหา ดังนั้นปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามชะตากรรมเถอะ”
“จอมพล ยังมีอีกเรื่อง ตามบันทึกโบราณ ผู้ที่เปลี่ยนชะตากรรมนั้น สวรรค์ไม่อาจให้อภัย เพราะเป็นการขัดต่อมติสวรรค์ จะทำให้ฟ้าดินลงโทษ ดังนั้นจอมพลคุณยินยอมที่จะลองไหม?”
เต๋ายอดเซียนต้องพูดเรื่องนี้ออกมา เขาจำเป็นต้องบอกฟางเหยียน นี่เป็นเรื่องของการขัดต่อมติสวรรค์ และเขาต้องเตรียมใจให้พร้อม!
ฟางเหยียนพูดอะไรไม่ออกชั่วขณะ!
ตอนนี้เขายังมีทางเลือกอีกหรือ?
“ผู้อาวุโส ผมยังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?”
“มันก็ใช่! ไม่มีทางเลือกแล้ว!” เต๋ายอดเซียนยิ้มเยาะเย้ย “ในเมื่อจอมพลไม่กลัว แล้วผมจะกลัวอะไร?”
หลังจากนั้น เต๋ายอดเซียนปักกระบองดำอุกกาบาตไว้ที่ด้านหลังฟางเหยียนทันที
ฟางเหยียนมีสีหน้ามึนงง และกำลังจะถาม ทันใดนั้นเต๋ายอดเซียนก็พ่นเลือดออกมาจากปาก เลือดสาดกระเด็นใส่ฟางเหยียนเต็ม ๆ
ร่างของฟางเหยียนเต็มไปด้วยเลือด พายุทอร์นาโดที่เกิดจากฟ้าแลบฟ้าร้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับสึนามิที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า
เต๋ายอดเซียนไอหลายครั้ง “พลังแห่งสวรรค์ ทุกคนที่อยู่ในสถานที่นี้ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ฟาดลงมา บูชาสายฟ้า”
ฟู่……
เลือดพ่นออกมาจากปากเต๋ายอดเซียนอีก เขาเดินเซไปหลายก้าว และเกือบจะล้มบนพื้น!
ฟางเหยียนรู้สึกตกใจมาก และต้องการจะพูด แต่เต๋ายอดเซียนส่ายศีรษะเพื่อหยุดเขาไว้ และกล่าวว่า “จอมพล เมื่อค่ายกลฟ้าร้องเปิดใช้งานแล้ว คุณรีบกลั้นหายใจทันที และไม่ต้องทำอะไรเลย ให้ชี่คงที่อยู่ที่จุดตันเทียน ปรับการหายใจของคุณ และจงจำเอาไว้ อย่าต่อต้านพลังทิพย์ที่อยู่ในหลิงสือทั้งสองชิ้น ปล่อยให้พวกมันไหลเวียนอยู่ในเส้นลมปราณของคุณ แล้วสุดท้ายคุณก็รวบรวมพวกมันไว้ใช้”
ฟางเหยียนพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
เปรี้ยง!
สายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้า ทำให้ต้นไม้ใหญ่ขนาดสองคนโอบราบเป็นหน้ากลอง!
“ไม่สามารถต้านพลังแห่งฟ้าได้!” เต๋ายอดเซียนกล่าวพึมพำกับตนเองแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เปรี้ยง!……
ฟ้าแลบที่ส่องประกายระยิบระยับในค่ำคืนที่มืดมิด เหมือนกับแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านค่ำคืนที่มืดมิด และเพียงชั่วพริบตาเดียวก็สว่างไปทั่วท้องฟ้า!
“จอมพล เตรียมตัวให้พร้อม โอกาสมาถึงแล้ว!”
ฟางเหยียนกลั้นหายใจและพยักหน้าเล็กน้อย ในขณะที่เขาหลับตา ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นสายฟ้ากลายเป็นมังกรยักษ์ และมังกรยักษ์มาพร้อมกับสายฟ้า ทะยานผ่านหมอก โน้มตัวลงมา!
บูม!
เปรี้ยง!
เขารู้สึกว่าได้เกิดระเบิดขึ้นที่ด้านหลังตนเอง และแรงมหาศาลนั้นก็ทำให้เขาล้มลง!
“จอมพลไม่ต้องกังวล นี่คือสายฟ้าที่กระตุ้นให้เกิดค่ายกลฟ้าร้อง อีกสักครู่มันจะดีขึ้นเอง”
เป็นดังที่เต๋ายอดเซียนกล่าว หลังจากที่ค่ายกลฟ้าร้องสำแดงพลานุภาพ ก็กลับมาสงบลงอย่างรวดเร็ว และถึงแม้จะหลับตา เขาก็รู้สึกว่าบริเวณโดยรอบระยิบระยับ ราวกับว่ามีแสงจ้าส่องอยู่รอบตัวเขา ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
สายฟ้าฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีค่ายกลฟ้าร้องเป็นเกราะกำบัง แต่ขณะนี้ฟางเหยียนยังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย!
ค่ายกลฟ้าร้องนั้นใช้พลังสายฟ้ามากมาย แต่พลังที่เหลือส่วนใหญ่นั้นโจมตีไปที่ตัวฟางเหยียน ซึ่งเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แล้วเขาจะต้านความพิโรธของท้องฟ้าได้อย่างไร?
เต๋ายอดเซียนถอยห่างออกไป และเฝ้ามองสายฟ้าที่ล้อมรอบค่ายกลฟ้าร้อง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไมยังไม่พออีก?”
ถ้าหากฟางเหยียนได้ยินประโยคนี้ เขาคงตะโกนด่าเต๋ายอดเซียนแน่นอน!
สายฟ้าฟาดมากมายขนาดนี้ เขายังบอกว่าไม่เพียงพอ คนที่เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้นแล้วยังจะทำให้เรื่องนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่ และหากไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็จะไม่สามารถเข้าใจได้!
“หรือมันจะผิดเวลา?” เต๋ายอดเซียนกล่าวพึมพำกับตนเอง “แต่มันก็น่าจะใช่ ฟ้าผ่าลงมาแล้ว สายฟ้าก็ก่อตัวเป็นรูปร่างแล้ว จะผิดเวลาได้อย่างไร? ถ้ามีปัญหาก็คงจะเป็นปริมาณสายฟ้ายังไม่เพียงพอแน่นอน ต้องเป็นปริมาณสายฟ้าไม่เพียงพอ!”
“จอมพล คุณยืนหยัดอีกสักครู่ โอกาสถูกต้องแล้ว แต่ปริมาณสายฟ้ายังไม่เพียงพอ”
เสียงตะโกนนี้ ทำให้ฟางเหยียนรู้สึกโมโหจนอยากจะด่า!
ถูกสายฟ้าล้อมรอบ แล้วใครเล่าจะสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้?
เต๋ายอดเซียนพูดได้สวยหรู กลับบอกว่าปริมาณยังไม่เพียงพอ!
ใช่!
วิชาเพลิงสวรรค์ของฟางเหยียนสามารถระดมสายฟ้ารอบตัวได้ แต่มันไม่ใช่สายฟ้าที่ฟาดลงมาจากพลังแห่งฟ้า ซึ่งทั้งสองนั้นมีความแตกต่างโดยพื้นฐาน
นอกจากนั้นยังมีความแตกต่างอย่างมากในด้านพลังงานและการทำลายล้าง เช่นเดียวกับหลอดไฟขนาดเล็กและหลอดไส้
นี่คือสายฟ้า พลังแห่งฟ้าที่แท้จริง มันจะล้อเล่นได้อย่างไร!
เปรี้ยง!
สายฟ้าฟาดลงมาอีกครั้ง และทั่วท้องฟ้าก็สว่างไสวขึ้นมา!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เต๋ายอดเซียนก็กล่าวด้วยความตื่นเต้น “ใช่ ใช่ ใช่แล้ว ฟาดลงมาให้แรงอีก!”
สีหน้าของฟางเหยียนเคร่งขรึม และพูดอะไรไม่ออก!
ตาแก่คนนี้ชั่วร้ายมาก!
ตำหนิส่วนตำหนิ ฟางเหยียนยังต้องสงบสติอารมณ์ ปรับการหายใจ และต้อนรับมาเยือนของสายฟ้า!
แต่!
หลังจากสายฟ้านั้นฟาดลงมาแล้ว ก็ไม่มีสายฟ้าฟาดลงมาอีกเลย!
สิ่งนี้ไม่เพียงสร้างความสับสนให้กับฟางเหยียน และเต๋ายอดเซียนก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ!
สิ้นสุดเช่นนี้แล้วหรือ?
เต๋ายอดเซียนคิดอยู่ในใจ “ล้มเหลวแล้วหรือ?”
หลังจากนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ท้องฟ้าที่สว่างก็กลายเป็นมืดมิดทันที นอกเหนือจากค่ายกลฟ้าร้องที่ฟางเหยียนสร้างขึ้นเปล่งประกายแล้ว ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
เงียบสงัด!
บริเวณโดยรอบเงียบสงัด!
เต๋ายอดเซียนขมวดคิ้วจนเป็นปม ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งเดียวที่เขารู้คือค่ายกลฟ้าร้องได้เปิดแล้ว แต่ไม่มีสายฟ้าเก้าครั้งตามที่คิด นี่มันผิดปกติจริง ๆ หรือจะถูกอาจารย์หลอก?
ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง แล้วมันเกิดข้อผิดพลาดขึ้นที่ขั้นตอนไหน?
ในขณะที่แสงของค่ายกลฟ้าร้องค่อย ๆ ดับลง ฝ่ามือของเขาเต็มด้วยเหงื่อ ถ้าหากแผนล้มเหลว ฟางเหยียนจะยังคงปลอดภัยอยู่อีกไหม?
ฟางเหยียนต้องการถามหลายครั้งแล้ว แต่เต๋ายอดเซียนไม่เอ่ยปาก เขาจึงทำได้เพียงอดกลั้นไว้
ความรู้สึกนี้อึดอัดเป็นอย่างมาก ราวกับว่าการให้ความหวังเล็กน้อยแก่คุณ แล้วสุดท้ายก็ทำลายความหวังทั้งหมด จนกลายเป็นความสิ้นหวัง!
เมื่อเวลาผ่านไปความอดทนของฟางเหยียนก็ค่อย ๆ หมดลง!
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าสีหน้าของเต๋ายอดเซียนนั้นน่าเกลียดเพียงใด!
ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ตื่นตระหนก ความกระวนกระวายและอารมณ์อื่น ๆ ซึ่งทำให้จิตใจเขารู้สึกหนักอึ้ง!
ฟางเหยียนถามตนเองว่า “มันล้มเหลวจริง ๆแล้วหรือ?”
ทันใดนั้น มีแสงสว่างส่องแวบเข้ามาในความมืด พริบตาเดียวท้องฟ้าก็สว่างขึ้น!
เต๋ายอดเซียนอุทานด้วยความประหลาดใจ “นี่ หรือนี่คือ…….”
เมื่อแสงสีขาวประกายผ่านไป ทั่วท้องฟ้าก็สว่างราวกับกลางวัน!
เสียงลมพัดที่รุนแรงคือสัญญาณเตือนว่าจะเกิดพายุฝน!
มันไม่ได้ล้มเหลว!
เพียงแค่ผิดเวลาเท่านั้นเอง!
สายฟ้าก่อนหน้านั้นเป็นแค่การเรียกน้ำย่อยเท่านั้น และสายฟ้าที่กำลังสะสมอยู่ในขณะนี้คือพลังแห่งฟ้าอย่างแท้จริง!
เต๋ายอดเซียนตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า “ใช่แล้ว แบบนี้แหละ ให้สายฟ้าแรงกว่านี้อีก!”