จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 137 ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย
บทที่ 137 ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย
ซุนจวิ้นเฟิงมองเจียงชื่อพลางว่า “อ้อ ฉันเข้าใจละ นายคงไม่คิดจะพาคุณหนูติงไปขึ้นรถไฟฟ้าหรอกใช่ไหม? มันก็ใช่ รถไฟฟ้าทั้งสายมูลค่าพันกว่าล้าน แพงกว่ารถหรูฉันเยอะมากเลย ฮะฮะ”
“เพียงแต่ว่า…ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานพอดี เจียงชื่อ นายคิดจะให้เมียสวยๆคนนี้ไปขึ้นในรถไฟฟ้า ยืนเบียดเสียดกับพวกผู้ชายเนื้อตัวเหม็นนั่น ใจนายทนได้หรือไง?”
“นายเองก็เป็นผู้ชาย จะมีศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายหน่อยไม่ได้หรือไง?”
เจียงชื่อสีหน้าเรียบเฉย ไม่มองซุนจวิ้นเฟิงเลยสักนิด เขาหยิบกุญแจรถออกมาเงียบๆ
“เมิ่งเหยน ไปกันเถอะ”
“อืม!”
เจียงชื่อจูงมือติงเมิ่งเหยนจากไป
ซุนจวิ้นเฟิงยืนสบถไล่อยู่ด้านหลัง “ไอ้ขยะ ยังกล้ามาโอ้อวดต่อหน้าฉันอีก? ไม่ลองส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง แกมันเป็นตัวอะไรน่ะ?”
เขาหยิบกุญแจรถออกมา กำลังจะเดินไปเปิดประตูรถ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้านหลังตน
“หือ?”
ซุนจวิ้นเฟิงหันกลับมามอง พบเห็นข้างถนนจู่ๆก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันมองรถคันหนึ่งอย่างเพ้อฝัน
“รถคันนั้นมัน…รถโรลส์รอยซ์รุ่นลิมิเต็ด?!”
ซุนจวิ้นเฟิงที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญเรื่องรถ มองแวบเดียวก็แยกแยะชนิดของรถคันนั้นออก
คนที่สามารถขับรถแบบนี้ แค่สองคำเลย เศรษฐีผู้ดี
รถแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนก็สามารถมีได้ ต่อให้มีเงินก็ไม่แน่ว่าจะขับได้ รถโรลส์ลอยซ์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของฐานะ
ยิ่งไปกว่านั้นเป็นรุ่นลิมิเต็ดด้วย?
เทียบกับรถคันนั้นแล้ว รถ BMW X6รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของตัวเองนี่ดูไม่ได้เลย เหมือนกับเก็บมาจากกองขยะยังไงยังงั้น
ด้วยฐานะของเขา ชาตินี้คงไม่มีทางขับรถระดับนั้นได้หรอก
ซุนจวิ้นเฟิงขมวดคิ้ว พูดพึมพำกับตัวเองว่า “บ้านติงมีคนขับรถแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?”
เขาส่ายหัว
เป็นไปไม่ได้ คนบ้านติงไม่มีทางทำได้แน่
ต่อให้เป็นติงจ้งซึ่งเป็นเจ้าตระกูล ก็ขับได้แค่รถเบนท์ลีย์เท่านั้น ไม่มีทางขับรถโรลส์ลอยซ์รุ่นลิมิเต็ดนี่ได้แน่
ใครกันนะ?
พอเห็นรถโรลส์ลอยซ์คันนั้นจอดรอที่กั้นทางรถไฟเปิดขึ้นอยู่ข้างทาง ซุนจวิ้นเฟิงรีบดึงนามบัตรในตัวออกมาหนึ่งใบวิ่งเข้าไปหา
คนรวยระดับนั้นไม่ใช่จะเจอได้ง่ายๆ
ต้องคว้าโอกาสนี้ทำความรู้จักให้ได้
บางทีเพราะให้นามบัตรไปใบหนึ่งแล้ว อาจจะได้โอกาสใหญ่มากก็ได้ เรื่องแบบนี้มีออกจะบ่อย
ซุนจวิ้นเฟิงวิ่งไปข้างรถโรลส์ลอยซ์นั่นเร็วปานพายุ เคาะกระจกอย่างเคารพนบนอบ
กระจกรถเลื่อนลง
ซุนจวิ้นเฟิงรีบโค้งหัวคำนับอย่างจริงจังหนึ่งครั้ง
“ท่านที่เคารพสวัสดีครับ กระผมซุนจวิ้นเฟิง ประธานกรรมการบริษัทอสังหาริมทรัพย์อวี่ก้วน อยากขอโอกาสทำความรู้จักท่านสักหน่อย หากรบกวนอันใดไป ได้โปรดอภัยให้ด้วยนะขอรับ”
ระหว่างพูด เขาโค้งคำนับพลางยื่นนามบัตรไปให้
“นี่นามบัตรของกระผม ขอท่านได้โปรด…”
พูดไปได้ครึ่งคำ ซุนจวิ้นเฟิงก็ตะลึง ยืนบื้ออยู่กับที่ สองมือถือนามบัตรค้างไม่รู้จะทำยังไง ทั้งตกใจทั้งสงสัย
เพราะเขาเห็นคนขับรถโรลส์ลอยซ์คันนั้นคือเจียงชื่อ!
เจียงชื่อที่เป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียจนๆคนนั้น!
เจียงชื่อที่ยากจนโดนเขาหัวเราะเยาะคนนั้น!
เจ้าขยะเจียงชื่อที่อาศัยกินนอนบ้านเมียคนนั้น!
“เจียงชื่อ?”
“เจียงชื่อ!”
ซุนจวิ้นเฟิงถามตะกุกตะกัก “แก แกทำไม มาอยู่บนรถคันนี้?”
เจียงชื่อหัวเราะ “นี่มันรถผม ผมไม่อยู่บนรถแล้วจะให้ไปอยู่ไหน? ‘หรือว่าผมไม่ควรอยู่บนรถ แต่ควรไปอยู่ใต้รถ?’ ผมไม่ใช่อาตู้ซะหน่อย”(เป็นเพลงของนักร้องจีนอาตู้)
ซุนจวิ้นเฟิงพูดไม่ออกตอบไม่ถูก ไม่รู้ควรจะพูดยังไงดี