จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 210 เทพแห่งสงครามเวสเตอร์แลนด์
หลังจากที่ติงเมิ่งเหยนออกจากโรงแรม เธอนั้นไม่ได้เดินไวนัก แต่กลับเดินช้าลงอยู่บนถนน
ก้าวไปสองก้าวก็หยุดนิ่งลง
มองย้อนกลับไป เพื่อดูว่าเจียงชื่อนั้นได้ตามมาหรือไม่
แต่เมื่อหันกลับไป ก็พบแต่ความว่างเปล่า เมื่อเห็นว่าไม่มีแม้แต่ใครสักคนตามมา เธอก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ พร้อมกับเบะริมฝีปาก
“เจียงชื่อคนชั่ว เจียงชื่อเวร เจียงชื่อคนเลว”
“ไปอยู่กับหลิงเหยาของนายเลยไป ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว!”
เธอหันกลับและเดินไป
แต่เมื่อก้าวออกไปเพียงแค่สองก้าว เธอก็ได้หยุดลง พร้อมกับหันหลังกลับมาด้วยสายตาที่สิ้นหวัง รู้สึกน้อยใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา
ขณะนั้นเอง เจียงชื่อก็วิ่งออกมาตามที่ติงฉี่ซานได้พูด และเดินไปทางที่ติงเมิ่งเหยนได้ออกไป
“เมิ่งเหยน!”
เมิ่งเหยนที่กำลังโกรธอยู่นั้น ก็ลืมตาขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
แต่แล้วเธอจงใจที่จะแสร้งทำเป็นโกรธมาก เธอหันหลังกลับแล้วเดินไปข้างหน้า แต่เธอไม่ได้ไปเร็วเกินไป ในใจของเธอแทบจะรอไม่ไหวที่ให้เจียงชื่อตามทัน
เธอคิดในใจอย่างเงียบๆ
“สาม”
“สอง”
“หนึ่ง”
ตึก ตึก ตึก เสียงเดินนั้นตามมาอยู่หลายก้าว เจียงชื่อได้วิ่งมาจนถึงด้านหลังของเธอแล้ว พร้อมกับเอื้อมมือไปจับที่แขนของเมิ่งเหยนเอาไว้
“เมิ่งเหยน ไม่ต้องโกรธแล้ว ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับหลิงเหยาทั้งนั้น”
“เหอะ!นายไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ แล้วทำไมต้องมาบอกฉันล่ะ?ฉันไม่อยากจะสนใจนายแล้ว”
“อืม..เมิ่งเหยน ผมรู้ว่าคุณเข้าใจผิด แต่เธอเป็นถึงดาราดัง ผมเป็นแค่พนักงานกระจอกๆ เธอจะมาสนใจผมทำไม?”
ติงเมิ่งเหยนยังคงไม่สนใจ เดินต่อไปข้างหน้าอย่างดื้อรั้น
เจียงชื่อนั้นตกตะลึง
ไม่ได้อธิบายไปจนหมดแล้วเหรอ?ทำไมยังจะเดินไปอีก?
เขาตะลึงแล้วไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไร
เทพแห่งสงครามชูร่าแห่งเวสเตอร์แลนด์นี้ ไม่มีทางที่จะได้ตัวสาวน้อยผู้นี้เลย เขาจึงรีบร้อนเป็นอย่างมาก
ติงเมิ่งเหยนเดินไปสองก้าวพร้อมกับมองย้อนกลับมา จึงได้เห็นเจียงชื่อยืนเกาแก้มอยู่ ทั้งโมโหทั้งตลก ใบหน้าของเธอไม่สามารถที่จะแสร้งทำได้อีกต่อไป เธอหัวเราะเยาะอย่างมีความสุข
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายนี่มันบ้องตื้นจริงๆ”
เจียงชื่อก็เพิ่งจะมารู้ว่าโดนหลอกให้แล้ว “โอเค คุณหลอกผม?”
“ใครหลอกนายกัน?นายไปกับหลิงเหยาของนายเลยไป จะมาหาฉันทำไม?ฉันไม่ได้เป็นดาราดังสักหน่อย”
เจียงชื่อยิ้มออกมา และเดินตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจับติงเมิ่งเหยนมาไว้ในอ้อมกอดของเขาแล้วมองเข้าไปในดวงตาของเธอ “เมิ่งเหยน คนที่ผมรักคือคุณ ไม่ใช่ดาราดังนะ”
ลมเย็นกลางคืนพัดผ่าน แต่เมิ่งเหยนกับรู้สึกร้อนระอุไปทั่ว
ใบหน้าของเธอก็ร้อนเป็นอย่างมาก
“น่า..น่ารำคาญ”
เมิ่งเหยนแสร้งทำเป็นสะบัดมือออก แต่ก็ถูกเจียงชื่อดึงเข้ามากอดไว้แน่น
“เมิ่งเหยน”
“หืม?”
“ผม…ขอจูบคุณได้ไหม?”
“ห๊ะ?”ใบหน้าของติงเมิ่งเหยนนั้นแดงราวกับแอปเปิลสุก ตั้งแต่แก้มไปถึงคอ “นี่มัน…ที่สาธารณะนะ ไม่ดีหรอก”
ไม่รอให้เธอพูดจบ เจียงชื่อประกบปากเข้าไปอย่างแนบแน่น
ภายใต้ค่ำคืนที่สงบ ทั้งสองกอดกันอย่างแน่น ณ เวลานี้ ความรักที่ฝังลึกในหัวใจของกันและกันได้แผ่ออกมาในที่สุด
กลิ่นหอม โชยมาเตะจมูก
หลังจากที่ได้จูบกัน ใบหน้าของติงเมิ่งเหยนก็แดงฉาน “เรา ไปรับพ่อกันไหม?”
เจียงชื่อส่ายหัว “พ่อบอกว่าท่านจะกลับเองน่ะ บอกว่าไม่ต้องสนใจเขา”
“อืม งั้น…งั้นพวกเรากลับกันเถอะ”
“โอเค”
ทั้งสองจับมือกันจนมาถึงลานจอดรถ ติงเมิ่งเหยนเปิดประตูและกำลังจะขึ้นรถ ทันใดนั้นเองเจียงชื่อก็เกิดความสงสัยขึ้นมา
เขาจ้องมองไปที่รถเป็นเวลานาน พร้อมกับถามว่า “นี่ไม่ใช่รถปอร์เช่หรอกเหรอ?เมิ่งเหยน นี่คุณซื้อรถใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ติงเมิ่งเหยนยิ้มออกมา “นายลืมไปแล้วเหรอว่ารถฉันเสียน่ะ ?ยังซ่อมอยู่เลย ปอร์เช่คันนี้เป็นของพี่ชายคนรองน่ะ ช่วงนี้เขาอยู่แต่บ้าน รถก็เลยอยู่แต่ที่บริษัท ฉันก็เลย‘ยืม’เอามาขับก่อน”