จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 219 ใครทำผิดก็ต้องได้รับผิด
ติงเฟิงเฉิงพยักหน้า “เอาเถอะ ไป ฉันจะกลับบ้านไปกับแก ไปพูดกับเจียงชื่อดู”
“เฮ้ ฉันต้องกลับไปประชุมแล้วนะ..”
“จะไปประชุมอะไรอีกล่ะ?ท้ายสุดตอนท้ายก็การประชุม ก็เป็นท่านปู่ติงที่ตัดสินใจอยู่ดี?นำเสนอไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น มาช่วยพี่รองแก้ปัญหาสิ สำคัญกว่าตั้งเยอะ!”
ติงเฟิงเฉิงดึงติงเฟิงเหยนขึ้นรถด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
หมู่บ้านอพาร์ทเม้นหมิงเยี่ยน เลขที่ 33
รถได้จอดลง
ติงเมิ่งเหยนและติงเฟิงเฉิงเดินเข้าไปในบ้าน ซึ่งถูกซูฉินเห็นเข้า
“เมิ่งเหยน ทำไมวันนี้กลับมาเร็วนักล่ะ?เอ้…เฟิงเฉิงก็มาด้วยเหรอ?”
ติงเฟิงเฉิงถามอย่างกังวลว่า “คุณป้า เจียงชื่ออยู่บ้านไหมครับ?”
“อยู่นะ แต่ยังไม่ตื่นเลยจ่ะ”
“พระอาทิตย์ส่องขนาดนี้แล้วยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”ติงเฟิงเฉิงผลักติงเมิ่งเหยน “เร็วเร็วเร็ว รีบไปปลุกเขาตื่นได้แล้ว”
ติงเมิ่งเหยนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับไปนั่งบนเตียง
เธอผลักเจียงชื่อ “ไม่ต้องแกล้งทำแล้ว ตอนเช้านายไม่ตื่นขึ้นมาแล้วหรือไงกัน?เห็นติงเฟิงเฉิงก็รีบทำเป็นนอนเชียวนะ”
เจียงชื่อยิ้มออกมา
“ใครแกล้งหลับกัน?”
“ผมก็แค่ง่วง เลยอยากไปนอนต่อ”
ติงเมิ่งเหยนถาม “ติงเฟิงเฉิงรออยู่ข้างนอก นายจะลุกไม่ลุก?”
เจียงชื่อกล่าวเบาๆ “ไม่ลุก ไม่เจอ”
“ห๊ะ?”
“เธอไปบอกเขาไป ว่าผมรู้ว่าเขามาหาทำไม แต่มีคำพูดหนึ่งที่ว่า‘ใครทำผิดก็ต้องได้รับผิด’เขาก่อเรื่องขึ้นมา เขาก็ต้องเป็นคนแก้ปัญหาเอง ผมจะไม่เข้าไปยุ่ง”
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจ พร้อมกับเดินออกไปบอกติงเฟิงเฉิงในสิ่งที่เขาพูด
ในใจของติงเฟิงเฉิงนั้นลุกเป็นไฟ แต่เขาไม่ได้สนใจมากนัก พร้อมกับตรงดิ่งไปที่ประตูและตะโกนว่า “เจียงชื่อ ฉันขอแนะนำว่าอย่าให้มันมากเกินไปนะ!”
เจียงชื่อหาวพร้อมกับหลับตาและพูดว่า “เมิ่งเหยน เกิดอะไรขึ้นน่ะ?เช้าขนาดนี้ทำไมมีเสียงหมามาเห่าได้?”
ติงเฟิงเฉิงนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขาพุ่งเข้าไปพร้อมกับชกหน้าของเจียงชื่อ แต่เมื่อคิดได้ว่าเขาจะร้องขออะไร เขาก็ได้แต่อดกลั้นมันเอาไว้
เขาระงับความโกรธพร้อมกับพูดว่า “เจียงชื่อ ฉันรู้ดีว่านายคงไม่พอใจกับการกระทำของฉันเท่าไหร่ ฉันเอาเครดิตนายไป ฉันสำนึกผิดแล้ว แต่นายก็คงไม่สามารถดูฉันตายได้หรอก ฉันจะโดนด่ามันก็ไม่สำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญก็คืออีกฝ่ายจะเอาแผ่นจารึกของตระกูลติงไป!มันเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษเราทิ้งเอาไว้ให้เชียวนะ เป็น‘หน้าตา’ของตระกูลติงของเรา ถ้าแผ่นจารึกโดนยึดไปแล้ว ก็ไม่ใช่ฉันคนเดียวนะที่ต้องอับอาย แต่เป็นคนของตระกูลติงทั้งหมด!เมิ่งเหยนเองก็จะไม่สามารถเงยหน้าเงยตาสู่สังคมได้!”
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้า “ใช่แล้ว เจียงชื่อ เพื่อเห็นแกแผ่นจารึกของตระกูลติงแล้ว นายช่วยเขาหน่อยเถอะ”
ติงเฟิงเฉิงกล่าวเสริมอีกว่า “นายวางใจ ฉันไม่ให้นายช่วยเสียเปล่าหรอก ชีวิตและความตายไม่ได้ให้เงินสิบล้านเพื่อเป็นค่าเชิญหรอกเหรอ?ฉันไม่เอาเลย ให้นายหมดเลย?”
สำหรับติงเฟิงเฉิงที่ไม่รู้จักพอ นี่คงเป็นสิ่งสัมปทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว
แต่…
เจียงชื่อหันกลับมา พร้อมกับถามอย่างเกียจคร้านออกไปว่า “หมายความว่า นายไม่ได้มาขอร้องฉันเพราะตัวนายเอง แต่มาขอร้องเพราะเกียรติยศและความอายขายขี้หน้าของตระกูลติงงั้นเหรอ?”
“ใช่!”
“อืม เนื่องจากว่ามันเป็นเกียรติและความอับอายของตระกูลติง งั้นก็ดูเหมือนว่านายจะไม่มีคุณสมบัติมากพอนะ”
ติงเฟิงเฉิงตะลึง “เจียงชื่อ นายหมายความว่าอะไร?”
เจียงชื่อไอ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ พูดสิ่งที่น่าตกใจมากที่สุดออกมา
“ฉันหมายความว่า เนื่องจากเป็นเกียรติยศและความอับอายของตระกูลติง ก็ควรจะให้หัวหน้าครอบครัวเป็นคนมาหาฉันไม่ใช่เหรอ?”
“นาย ให้ท่านปู่ติงมาที่นี่ดีกว่า”