จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 22 ผู้หญิงไม่ยอมเคราและคิ้ว
บทที่ 22ผู้หญิงไม่ยอมเคราและคิ้ว
ติงเฟิงเฉิงกำลังเตรียมตัว หันไปเห็นเจียงชื่อ ติงเมิ่งเหยนก็อยู่ ก็หัวเราะออกมา
“ฉันดูไม่ผิดใช่ไหม? พวกเธอ2คนมาทำอะไรที่นี่? มาชมวิวหรอ?”
เจียงชื่อมองไป “นายมาทำอะไร พวกฉันก็มาทำอะไร”
“ฮ่าๆๆ พวกเธอก็มาร่วมงานนี้? น่าตลกจัง ทำไมถึงมาได้?”
“เจียงชื่อ หรือว่าอยากจะใช้แม่ทัพคนนั้นช่วย?”
“ฉันจะบอกนานนะ งานประมูลไม่ใช่งานรำลึก ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!”
ติงจ้งยกมือขึ้น: “ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ว่ายังไงเมิ่งเหยนก็คือคนของตระกูลติง เธอมาร่วมงานก็ไม่ได้ทำให้ตระกูลติงเสียหายอะไร มีคนเพิ่ม1คนก็มีพลังขึ้น1”
“ปู่ครับ ผมแค่กลัวว่าจะสร้างปัญหามากกว่า”
ติงจ้งขมวดคิ้ว เหมือนกำลังคิดอะไร พูดกับเมิ่งเหยน: “เฟิงเฉิงพูดถูก เมิ่งเหยนกลับไปก่อนเถอะ ตระกูลติงมีฉันกับเฟิงเฉิงก็พอแล้ว ถ้าเกินว่าท่านรองเห็นผู้หญิงเป็นคนมา อยากจะคิดว่าตระกูลติงเราไม่ได้ตั้งใจงั้นก็จะแย่เลย”
ในใจของติงเมิ่งเหยนเศร้า ผู้หญิงมางานแปลว่าไม่มีความตั้งใจหรอ?
นี้มันเป็นเหตุผลอะไรกัน?
เจียงชื่อยิ้มแล้วพูด: “ถ้าคุณปู่คิดว่าเมิ่งเหยนมาแล้วจะทำให้ตระกูลติงเสียผลประโยชน์ งั้นเมิ่งเหยนมาเพื่อบริษัทของตัวเอง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณอยู่แล้ว”
“ห๊ะ?” ติงเฟิงเฉิงยิ้ม : “บริษัทย่อย? ไอ้โรงงานเล็กๆที่มีคนไม่ถึงแม้แต่20คน คนโง่เท่านั้นแหละที่จะมอบงานนี้ให้เธอ! กลับไปเถอะ ยัยโง่”
ติงจ้งยกมือขึ้น แสดงให้เขาเงียบ
“ในเมื่อพวกเธอยืนยันที่จะยอมขายหน้า งั้นฉันก็ไม่สนใจแล้ว แต่จำคำที่นายพูดไว้ การมาลองเมิ่งเหยนมาเพื่อโรงงานย่อยของตระกูลติงเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทหลัง และตระกูลติง”
“สัญญา”
จานนั้น ทั้ง2ฝ่ายก็ไม่คุยกันเลย
ติงเมิงเฉิงกังวลมาก กล่าวโทษเจียงชื่อ: “นายบ้าไปแล้วหรอ? บริษัทนั้นเป็นแค่บริษัทเล็กๆที่ตอนนั้นคุณปู่ให้พ่อไว้ ไม่มีคนไม่มีอะไรเลย ก็แค่บริษัทที่รอล้ม เพราะว่าพ่อรู้สึกว่าไม่มีความเจริญอะไร ก็เลยเลือกที่จะไปทำงานที่สำนักงานการประปา เอาบริษัทนั้นให้ฉันทำอะไรก็ทำ”
“บริษัทบ้านๆนี่นะ อย่าว่ากรมโยธาธิการ แม้แต่กรมอะไรก็คงไม่มองหรอก จะบอกนายนะ บริษัทนั้นไม่ต่างอะไรกับบริษัทกระเป๋าหรอก ตอนนี้ยังไม่มีงานสักชิ้นที่ทำเสร็จเลย ก็แค่ใช้รอใช้หุ้นของตระกูลติงก็เท่านั้นแหละ”
“นายให้ฉันใช้บริษัทแบบนี้ในการร่วมเสนอราคา นี่ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม?”
เจีนงชือไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าใช้สายตาที่แน่วแน่มองติงเมิ่งเหยน
“เชื่อผมสิ”
“ถึงแม้บริษัทนั้นจะใช้งานไม่ได้ แต่ผมดูออก เธอเก่ง”
“แต่เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิง อยู่ในตระกูลติง เธอไม่เคยถูกใช้งานเลย คุณปู่ก็มักจะเลือกแต่ติงเฟิงเฉิง ความสามารถของเธอจึงไม่ได้ใช้มันออกมา”
“แค่ได้งานนี้ เธอก็จะได้ทำงาน ทำให้ตระกูลติง ทำให้คุณปู่เห็นความสามารถของเธอ!”
ติงเมิ่งเหยนดีใจมาก
นี้เป็นปมนึงในใจของเธอ ทั้งๆที่เป็นคนมีความสามารถ แต่เพราะว่าเป็นผู้หญิง ก็เลยไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคุณปู่”
ถ้าครั้งนี้สำเร็จจริงๆ เธอก็อาจจะใช้โอกาสครั้งนี้ ทำให้บริษัทนี้ใหญ่ขึ้น ทำให้ใหญ่กว่าของบริษัทหลัก
แต่ปัญหาคือ เป็นไปได้ไหม?
นอกจากว่าท่านรองกัวช่างจะบ้าไปแล้ว ไม่อยากนั้นทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่เรื่องที่คิดไปเอง
ติงเมิงเฉินพูดอย่างขอบคุณ: เจียงชื่อ ขอบคุณนายนะ ที่นายชวยฉันคิดถึงขนาดนี้ ฉันพอใจแล้ว ไม่ว่าวันนี้จะสำเร็จไหม ฉันก็ดีใจ”
เจียงชื่อพูดอย่างหนักแน่: “เชื่อผมสิ และก็เชื่อในตัวเธอ ทุกอย่างต้องสำเร็จแน่นอน”
ในระหว่างการพูด ติงเฟิงเฉิงก็ลุกขึ้น หยิบเอกสารขึ้นแล้วเดินผ่านพวกเธอไป
“พวกเธอ2คนก็อย่าฝันกลางวันเลย”
“การเสนอราคาครั้งนี้เป็นของๆฉันอยู่แล้ว พวกเธออ่ะ กลับบ้านไปได้แล้วฮ่าๆๆๆ”
ติงเฟิงเฉิงหัวเราะแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน
ตอนนี้มือของติงจ้งเป็นแต่เหงื่อ มองที่หน้าประตูด้วยความตื่นเต้น ก่อนหน้านี้คนที่เข้าไปไม่เคยมีใครอยู่เกิน1นาทีเลย ไม่รู้ว่าติงเฟิงเฉิงจะ……
ในขณะที่ติงจ้งกำลังนึกถึงทุกความเป็นไปได้อยู่ ติงเฟิงเฉิงก็ออกมา
ตั้งแต่เดินเข้าไปแล้วเดินออกมา ทั้งหมดแค่ไม่กี่วิ!
สั้น
สั้นที่สุด
ในขณะนี้ เป็นคนที่ใช้เวลาสั้นที่สุด ทุกคนต่างมองด้วยสายตาเยาะเย้ย
“ฮ่าๆๆ นี้คือบริษัทไหนเนี่ย เพิ่งเข้าไปก็ถูกไล่ออกมา น่าอายจริงๆเลย?”
“เหมือนว่าจะเป็นตระกูลติงที่อยู่เขตซูหังเก่าหนิ ไม่ว่าจะพูดยังไงตระกูลติงก็เป็นตระกูลที่มีฐานะ ทำไมถึงถูกไล่ออกมาดูเหมือนจะน่าอายไปหน่อยนะ”
ดูท่าแล้วคงจะไม่สุภาพ?”
ในคำพูดเหล่านี้ ติงเฟิงเฉิงก็ก้มหน้าจนเดินมาถึงที่ติงจ้งอยู่
“ตกลงยังไงกันแน่!” ติงจ้งถาม
ยิงเฟิงเฉิงทำหน้าสงสาร: “ผมเข้าไปแล้วแนะนำตัวเอง บอกว่าชื่อติงเฟิงเฉิง แล้วท่านรองก็ถามว่าเป็นบริษัทติงหรงของเขตเก่าซูหังใช่ไหม ปมตอบว่าใช่ จากนั้นเขาก็บอกว่า ออกไปได้แล้ว”
“นี่……..”
ติงจ้งพูดอะไรไม่ออก คำพูดนี้ดูแปลกเกินไป ตระกูลติงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับท่านรองเลย พูดตามหลักแล้วเป็นเพราะแก้แค้นก็ไม่ใช่
งั้นเพราะอะไร…..
ติงจ้งมองติงเฟิงเฉิง ตอนนี้เขาคงจะไม่พูดโกหก อีกอย่างเพิ่งเข้าไปแค่ไม่กี่วิ ก็น่าจะไม่ได้พูดอะไรมาก
“งั้นเป็นเพราะอะไร ที่ทำให้ท่านรองได้ยินชื่อตระกูลติง ก็ไล่ออกมาเลย?
ติงเมิงเกยนเองก็งง
เจียงชื่อยิ้ม จริงๆแล้วสาเหตุง่ายๆ งานครั้งนี้เป็นของคนตระกูลติง
แต่ว่า คนๆนั้นไม่ใช่ติงเฟิงเฉิง
ติงเฟิงเฉินเห็นเจียงชื่อยิ้มก็พูดอย่างโมโห: “นายยิ้มอะไร? ฉันไม่สำเร็จนายเลยดีใจใช่ไหม? นายคิดว่าฉันไม่ได้ พวกแกจะได้งั้นหรอ? งานครั้งนี้ ตระกูลติงไม่ได้แล้ว แค่พวกแกเข้าไปแล้วพูดชื่อตระกูลติง ก็จะถูกไล่ออกมา!”
“อ๋อ? มันก็ไม่แน่นอนหรอก” เจียงชื่อพูดอย่างนิ่งๆ: “เขาอาจจะไม่ได้อะไรกับตระกูลติง แต่กลับไม่ชอบนายก็ได้”
“จะบ้าหรอ! เจียงชื่อ นายคิดจริงๆหรอว่าฉันไม่กล้าตีนาย?”
ติงจ้งตะโกนเสียงดัง: “พอแล้ว ยังอายไม่พอใช่ไหม?”
แล้วก็ถอนหายใจยาวๆ ติงจ้งพูดกับติงเมิ่งเหยน: “เมื่อกี้เธอเองก็เห็นแล้ว ท่านรองกรมดูเหมือนจะไม่ชอบตระกูลเรา ครั้งนี้คงจะไม่ได้แล้วล่ะ ปู่ว่า เธอก็ไม่ต้องเข้าไป ให้คนอื่นหัวเราะ ไป กลับบ้านเถอะ”
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้า กำลังเตรียมลุก เจียงชื่อก็ดึงไว้
“คุณปู่ ผมว่าปู่พูดไม่ถูกนะ”
“ปู่รู้ได้ยังไงว่าท่านรองไม่ชอบตระกูลติง? จากที่ผมดูแล้ว เป็นปู่มากกว่าที่ไม่ชอบเมิ่งเหยน ปู่คิดว่าเรื่องที่ผู้ชายทำไม่ได้ผู้หญิงก็ทำไม่ได้แน่นอน?”
“งั้นปู่ก็ลืมตาดูไว้ดีๆนะ เรื่องที่ติงเฟิงเฉิงทำไม่ได้ เมิ่งเหยนจะทำได้ได้ยังไง!”