จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 25 ถึงตาพวกนาย?
บทที่ 25 ถึงตาพวกนาย?
ตอนกลางคืน พอกินข้าวเย็นเสร็จ พ่อตาติงฉีซานก็เรียกเจียงชื่อมาที่โซฟา
“เจียงชื่อ รู้ไหมทำไมฉันถึงเรียกนายมา?”
เจียงฃือส่ายหน้า
ติงฉีซานแสดงท่าทางผิดหวัง “เรียกนายมาก็เพื่อที่จะเตือนนาย มีเวลาก็หางานทำ อย่าทำตัวว่างไปวันๆ นายเองก็เห็นแล้ว เมิ่งเหยนไม่ใช่แค่สวย ตอนนี้ยังได้งานใหญ่แบบนี้อีก ยิ่งอยู่ยิ่งไปได้ไกลแล้ว”
“แล้วนายล่ะ? ทั้งวันไม่ทำอะไร ให้ผู้หญิงเลี้ยง มันใช่เรื่องมั้ย?”
“ตอนนี้นายไม่เหมาะกับเมิ่งเหยนเลย!”
เมิ่งเหยนเดินมา สีหน้าไม่พอใจ
“พ่อคะ ทำไมพ่อถึงว่าเจียงชื่อแบบนี้?”
“ฉันพูดยังไง?” ติงฉีซานทำหน้าจริงจัง “ที่ฉันพูดก็เป็นแต่ความจริง ตอนนี้เธอเป็นคนรับผิดชอบงานใหญ่แบบนี้ อนาคตจะได้เงินเป็น100ล้าน ดูแล้วก็จะเจริญก้าวหน้าขึ้น เป็นสิ่งที่คนไม่ได้เรื่องแบบนี้จะเทียบได้หรอ?”
“พ่อคะ!”
“ยังไงซะเธอในตอนนี้ ก็ไม่ใช่คนที่เจียงชื่อจะเทียบได้” ติงฉีซานใช้นิ้วชี้เจียงชื่อ “ฉันจะทำตามที่เวลากำหนดไว้ แต่ฉันจะบอกนายไว้ก่อน ช่วงนี้ฉันเองก็จะหาผู้ชายดีๆให้ลูกสาวฉัน ถ้านายลุกขึ้นไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาขัดทางลูกฉัน เข้าใจมั้ย?”
เจียงชื่อทำหน้านิ่ง ไม่พูดอะไร
“หึ นายคิดเองดีๆเถอะ” ติงฉี่ซานลุกขึ้นเดินเข้าไปห้องนอก
ติงเมิ่งเหยนนั่งข้างๆเจียงชื่อ ถามอย่างไม่เข้าใจ: “ทำไมไม่ให้ฉันพูดความจริง? ถ้าพ่อฉันรู้ว่านายเป็นคนทำให้ได้งาน ต้องมองนายเปลี่ยนไปแน่เลย”
เจียงชื่อยิ้มแล้วพูด: “ไม่จำเป็น ยังไงซะผมก็อาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อนได้มันมา พ่อไม่มีทางชอบหรอก”
“แต่…”
เจียงชื่อหยุดเธอไว้ รีบพูดก่อน: “เมิ่งเหยน เธอวางใจเถอะ ผมวางแผนไว้แล้ว ยังไงสักวันหนึ่ง ผมจะแสดงความสามรถของผมให้เห็น”
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจ “หวังว่าวันนั้นอย่าไกลเกินไป นายเองก็ได้ยินแล้ว ว่าพ่อต้องวางแผนการไปพบผู้ชายเยอะแยะแน่ๆเลย”
ทั้ง2กำลังคุยอยู่ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของติงเมิ่งเหยนก็ดังขึ้น”
ติงเฟิงเฉิงโทรมา
ติงเมิงเฉิงขมวดคิ้ว ปกติแล้วเธอก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับติงเฟิงเฉิง โทรมาแบบนี้ตกลงหมายความว่ายังไง?
“ฮาโหล พี่รอง หาฉันมีอะไรหรอ?”
“ก็ไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ก็แค่จะมาบอกเธอ การประชุมของพรุ่งนี้เธอไม่ต้องมาแล้ว”
ติงเมิงเฉิงสตั้นไป
“พี่หมายความว่าไง?”
“ยังไม่เข้าใจหรอ? สัญญานี้เซ็นเป็นชื่อของบริษัทติงหรง ทางตระกูลมีอำนาจในการรับผิดชอบงานนี้ ไม่ต้องให้เธอมาร่วมด้วย เธออ่ะ ถูกถีบออกไปแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้”
“อย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้สิ นี่คือการตัดสินใจของคุณปู่ คนที่จะมาดูแลโครงงานนี้คือพี่ใหญ่ อ๋อ ใช่สิ คุณปู่ยังใจดีให้เธอหยุดงาน2วัน อยู่พักที่บ้านดีๆเถอะ ฮ่าๆๆๆ”
ตู้ดๆๆๆ…..
ติงเฟิงเฉิงวางสาย เหลือไว้เพียงความโกรธ
“โอ้ยๆๆๆ!!!” ติงเมิ่งเหยนตะโกนมา3ครั้ง
เจียงชื่อส่ายหน้า “ผมบอกแล้ว คนที่ใจดีมักถูกรังแก เธอใจดีเมตตา และยังอยากจะให้คนทางตระกูลดูแลจัดการเอง สุดท้ายเขาตรงกว่า ไม่ต้องปรึกษา ก็แย่งไปเลย และยังถีบเธอออกอีก คนในตระกูลติง บริษัทของตระกูลติง ไม่เคารพเธอเลยสักนิด”
ติงเมิ่งเหยนผิดหวังมาก
นี้เป็นคร้งแรก ที่เธอรู้สึกเกลียดคุณปู่
คนไม่ใช่เทวดานางฟ้า ถึงแม้ติงเมิงเฉิงจะใจดียังไง ถูกทำถึงขั้นนี้ก็ทนไม่ไหว
“ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้?”
“ไม่ได้ ฉันจะไปพูดกับพวกเขาด้วยเหตุผล!”
เจียงชื่อดึงเธอไว้ “ไม่ต้องไป”
“ทำไมล่ะ? หรือว่าสัญญาที่เราเซ็นมาจะให้ไปง่ายๆแบบนี้? คุณปู่ยอมให้ผลประโยชน์กับพี่ใหญ่ แต่กลับไม่ยอมผลประโยชน์เล็กน้อยสักนิดกับฉันคนที่เซ็นสัญญานี้มา นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ”
เจียงชื่อพูด: “เธอใจเย็นก่อนเรื่องนี้ไม่ต้องใจร้อน”
“ทำไมต้องห้ามใจร้อน?”
“เพราะว่านอกจากเธอแล้ว คนตระกูลไม่ว่าจะเป็นใครก็อย่าหวังว่าจะได้งานนี้ไป”
ติงเมิ่งเหยนนิ่งไป “แต่ว่าสัญญาก็เซ็นแล้ว ถ้าทางกรมผังเมืองจะกลับใจก็ไม่ทันแล้ว”
สัญญาก็ส่วนสัญญา เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน”
“เมิ่งเหยน เธอก็วางใจเถอะ งานนี้ต้องเป็นเธอที่ทำ คนอื่นแย่งไปไม่ๆด้”
“คุณปู่ให้เธอหยุด2วันหนิ?งั้นก็ดี เราออกนอกเมืองกันคืนนี้ นั่งเครื่องบินไปเที่ยวเป็นไง?”
ติงเมิ่งเหยนงง “นี่…..”
“ฟังที่ผมพูดไม่มีผิดแน่ ไปเถอะ”
เจียงชื่อดึงติงเมิงเฉิงไว้ แล้วก็ออกจากเมืองเจียงหนาน
…….
เช้าวันรุ่งขึ้น คนที่มีหน้ามีตาของตระกูลติงต่างก็มากันหมด
ติงจ้ง ติงเฟิงเฉิง ติงจื่อยวี่ ถังแหวนโม่ก็มา ยังมีการปูพรมแดง จัดกระเช้าดอกไม้ ต้อนรับคนจากทางกรม
ตอนเวลา9โมงเช้า ท่านรองกัวก็พาคนมาถึงที่บริษัทติงหรง พาคนทั้งคณะเข้าไปในห้องประชุม
พอต่างนั่งกันหมดแล้ว ติงจื่อยวี่ก็ลุกขึ้น: “ท่านรอง ฉันคือลูกสาวคนโตของตระกูลติง—ติงจื่อยวี่ ในการเป็นผู้ดูแลโครงการครั้งนี้ ฉันอยากจะอธิบายการวางแผนงานในครั้งนี้ของบริษัทเรากับท่าน และและร่วมปรึกษารายละเอียดของงาน”
กัวช่างขมวดคิ้ว “หยุด”
เขามองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้น: “ผมจำได้ว่าคนที่รับผิดชอบงานนี้คือคุณติงเมิ่งเหยน ไม่ใช่คุณ?”
ติงเมิงเฉิงรู้สึกอึกอัก
ติงจ้งพูดขึ้น: “2วันมานี้เมิ่งเหยนไม่สบาย ผมก็เลยหยุดให้เธอสัก2วัน ให้เธอพักผ่อน ให้จื่อยวี่ดูแลจัดการแทนเธอก่อน”
“คุณรองกัววางใจได้เลย การทำงานของจื่อยวี่นั้นดีกว่าเมิ่งเหยนแน่นอน อีกอย่าง สามีของจื่อยวี่ถังแหวนโม่คือรองผู้บัญชาการตะวันออกของจ้านยู่ เก่งกว่าสามีของเมิ่งเหยน มีความช่วยเหลือจากถังแหวนโม่ เชื่อว่างานนี้จะเสร็จเร็วขึ้นแน่นอน”
สีหน้าของกัวช่างเปลี่ยนไปทันที
“ถังแหวนโม่? ไม่รู้จัก อีกอย่าง เขาเป็นทหารเกี่ยวอะไรกับพวกเรากรมโยธาธิการและผังเมือง? เขารู้เรื่องการก่อสร้างหรอ?”
กัวช่างลุกขึ้น “ในเมื่อคุณติงเมิ่งเหยนไม่สบาย งั้นวันนี้ก็คงไม่ต้องต่อแล้ว ไว้วันไหนคุณติงเมิ่งเหยนหายป่วยแล้ว เราค่อยประชุมดันใหม่”
นี่คงจะเป็นท่าจะล้มแล้ว!
ติงจ้งตกใจจนรีบพูด: “ท่านรองกัวพูดแบบนี้จริงๆแล้วยังไงก็เป็นพวกเราตระกูลติงดูแล? หรือว่าพวกเราคนเยอะขนาดนี้ ก็สู้เมิ่งเหยนคนเดียวไม่ได้?”
กัวช่างเย้ย: “นายว่าไงล่ะ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าของคุณติงเมิ่งเหยน โครงการนี้จะให้ตระกูลติงหรอ? ฝันไปจริงๆ! คนที่อยากทำโครงการนี้เป็นแต่คนตระกูลผู้ดีเยอะแยะไป จะตกมาถึงพวกนายหรอ?”
พูดแทงใจทุกคำ
จริงๆแล้วสัญญาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลติงเลย พวกเธอเห็นแก่ติงเมิ่งเหยน
ติงจ้งพูดไม่ออก
จนถึงตอนนี้ เขาถึงรู้ว่าเขามองข้ามหลานสาวคนนี้ไป ว่าจริงๆแล้วเธอเก่งขนาดนี้