จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 281 คนที่ไม่มีความสำคัญ
รถเพิ่งจะจอดลง ข้างหลังก็ปรากฏรถสิบกว่าคันขึ้นมาแล้ว กั้นขวางไว้ทั้งหน้าและหลัง และมีอันธพาลเป็นจำนวนมากก้าวลงมาจากรถ แต่ละคนล้วนแต่ย้อมผม สักรอย ในมือถืออาวุธด้วย
มองดูคร่าวๆแล้ว มีมากกว่าร้อยคน
สีหน้าของท่านทวดเศร้าหมอง
“เจ้ารองน่ะเจ้ารอง นี่ถ้าแกไม่ทำให้แม่ของแกตาย แกก็คงไม่ยอมรามือสินะ”
เจียงชื่อขมวดคิ้วแล้ว
จำนวนคนค่อนข้างเยอะนิดหน่อย ถ้าหากมีเพียงแค่เขาคนเดียวก็ยังดี ง่ายต่อการฝ่าวงล้อม ถ้าหากพาแค่ซูสวนคนเดียวก็ได้ ปกป้องคนหนึ่งด้วยการฝ่าวงล้อมก็สามารถทำได้
ปัญหาก็คือ นอกจากซูสวนแล้ว ยังมีท่านทวดที่อายุเยอะ และฉีเจิ้นที่สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
ต่อให้เจียงชื่อสุดยอดมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถแยกร่างไปทำหลายๆอย่างได้
หนึ่งคนปกป้องสามคน มันไม่สามารถทำได้เลย อีกฝ่ายมีคนมากกว่า 100 คน ก็มีโอกาสที่จะโดนลอบโจมตี
จำใจยอม
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกแล้ว
“มีน อยู่ไหม?”
“อยู่!”
“สถานการณ์ของฉันในตอนนี้คุณก็เห็นแล้ว มีวิธีจะหาคนมาช่วยได้ไหม?”
“หาคนมาช่วยน่ะไม่มีปัญหา เพียงแค่ที่นี่ไม่ใช่ที่จีน หาคนมาช่วยจะต้องใช้เวลาสักหน่อย 10นาที พี่ใหญ่ขอเพียงแค่คุณสามารถยืนหยัดได้10นาที ผมก็สามารถจัดเตรียมคนไปได้”
10นาทีเหรอ?
เจียงชื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ วางสายไปแล้ว
ในเวลานี้ คนที่อยู่ตรงกันข้ามกระจายกันออกไป ฉีหยางเดินถือไม้เบสบอลออกมาแล้ว ชี้ไปที่รถของพวกเขาแล้วพูดว่า “ไอ้แก่ ไอ้วัณโรค รีบไสหัวแล้วไปตายซะ! ”
ประตูรถเปิดออก
ท่านทวดเอนตัวออกมาครึ่งตัว “เจ้ารอง จัดการกับคนชราคนหนึ่ง แกจำเป็นจะต้องต่อสู้กันใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ? ”
“เหอะๆ” ฉีหยางยักไหล่ “ผมก็ไม่อยากทำ แต่ใครจะไปรู้ว่าพวกคุณจะสุดยอดกันขนาดนี้ ผมส่งนักฆ่ามากกว่า 12คนล้วนแต่ถูกจัดการได้ภายในไม่กี่นาที”
“ไม่มีวิธีอื่น ผมก็ทำได้เพียงพาคนมาให้เยอะหน่อย”
ท่านทวดยิ้มอย่างเยือกเย็นพร้อมพูดว่า “เจ้ารอง แกไม่กลัวเหรอว่าฆ่าฉันตายแล้ว คนในตระกูลเห็นเป็นเอกฉันท์เดียวกัน ต่อต้านที่จะให้นายเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่เหรอ?”
“ต่อต้าน?”
ฉีหยางหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง “คุณวางใจเถอะ พวกเขาจะไม่มีทางรู้ความจริงอย่างแน่นอน พรุ่งนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์จะลงข่าวแค่ว่า ‘ท่านทวดแห่งเครื่องประดับดาวฤกษ์เสียชีวิตท่ามกลางการทะเลาะวิวาทของแฟนบอล จะไม่มีทางรู้เลยว่าผมเป็นคนทำ’
ในใจของท่านทวดรู้สึกแย่มาก
คิดไม่ถึงเลยว่าลูกชายของเธอเพื่อที่จะจัดการกับเธอ จะต้องทำกันถึงขั้นนี้
ฉีหยางก็ไม่พูดจาไร้สาระ โบกมือ
“ก้าวกันเข้าไป!”
ทันใดนั้น คนกว่าร้อยคนก็เบียดเสียดเข้าไปยังรถของพวกเขา
เจียงชื่อรีบดึงท่านทวดเข้ามาในรถ ปิดหน้าต่างอย่างแน่นหนา พูดอย่างใจเย็นว่า “อีกฝ่ายมีคนเยอะมาก รถไม่สามารถต้านทานไว้ได้”
“ผมจะออกไปคิดหาวิธีเพื่อยืดเวลา พวกคุณอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่ห้ามออกไปนะ เข้าใจไหม”
กลุ่มคนมองไปยังเจียงชื่อ
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาคนเดียวจะทำอะไรได้?
ถึงแม้เขาจะต่อสู้เป็นแค่ไหน อีกฝ่ายตั้ง 100 กว่าคนจะหาโอกาสมาจู่โจมคนที่อยู่ในรถไม่ได้เลยเหรอ?สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้ แม้ว่าจะแจ้งความก็มาไม่ทัน
ตายสถานเดียว
ไม่มีทางที่จะรอดได้
เจียงชื่อผลักประตูแล้วเดินออกไป ทันใดนั้นก็กระโดดขึ้นหลังคารถ พูดกับฉีหยางว่า : “ฉีหยาง แกนี่มันเศษสวะจริงๆนะ ทำได้เพียงอาศัยคนที่เยอะเพื่อมารังแกคนน้อยเหรอ ?”
ฉีหยางยิ้มอย่างเย็นชา ไม่สนใจเลย
เจียงชื่อพูดต่อไปว่า “แกคิดว่าตัวเองจะชนะแล้วเหรอ?จากที่ฉันดูแล้ว กลุ่มคนพวกนี้ที่แกหามา ล้วนแต่เป็นพวกที่กินดื่มได้ แต่ไม่มีความสามารถอะไรสักอย่าง”
“เรามาลองพนันกันดูเป็นไง?พนันเลยว่า แกมีลูกน้องเยอะขนาดนี้ ล้วนแต่ไม่สามารถฆ่าฉันให้ตายได้”
ฉีหยางหัวเราะฮ่าๆ “แกอยากจะยืดเวลาเหรอ?ขอโทษนะ ฉันไม่สนใจในตัวแก คนที่ฉันต้องจัดการคือสองคนนั่นที่อยู่ในรถ!”
เขาไม่ได้โง่เลยสักนิด
แค่พริบตาเดียวก็มองความคิดของเจียงชื่อออกแล้ว
เจียงชื่อส่ายหัวอย่างจนใจ “เคยเจอคนขี้ขลาด แต่ไม่เคยเจอคนที่ขี้ขลาดขนาดนี้ ฉีหยาง เรื่องที่แกดื่มเหล้าแต่ดื่มสู้ฉันไม่ได้ก็ถือว่าช่างมัน แม้แต่ชกต่อยก็สู้ฉันไม่ได้ ไม่เพียงแค่สู้ไม่ได้ แม้แต่ความกล้าที่จะชกต่อยก็ไม่มี ต่อไปก็อย่าเรียกแกว่าฉีหยางเลย เปลี่ยนชื่อ “ไอ้ขี้ขลาดฉี” น่าจะเหมาะสมกว่านะ
“แก!!!” ความโกรธของฉีหยางถูกจุดประกายในทันที
“ได้ ในเมื่อแกอยากตาย ฉันก็จะสนองความต้องการของแก”
“เพื่อนๆ จัดการไอ้สารเลวคนนี้ให้ตายก่อนแล้วค่อยจัดการคนในรถ!”