จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 290 เขาก็คือเทพแห่งสงครามชูร่า
หากเป็นคนธรรมดาไม่มีทางหลีกเลี่ยงกระสุนปืนในระยะสั้นๆ เช่นนี้ได้อย่างแน่นอน ความเร็วรวดเร็วอย่างมาก!
แม้ว่าเป็นเทพแห่งสงครามชูร่า เขาก็เป็นคน ไม่ใช่เทพ
ซูสวนตกใจจนร้องกรี๊ดออกมา กังวลว่าเจียงชื่อจะถูกยิงตาย
แต่……
ช่วงเวลาที่หวังทงยกมือขึ้นลั่นไก เจียงชื่อได้เตรียมตัวไว้แล้ว ก้าวไปทางข้างๆอย่างเบาๆครึ่งก้าว กระสุนลอยเฉี่ยวผ่านเสื้อผ้าของเขาอย่างปาฏิหาริย์
ทันใดนั้นดังปัง พุ่งเขาทำลายในกำแพงแล้ว
หวังทงอึ้งไปครู่หนึ่ง “เฮ้ย เด็กน้อย ฝีมือใช้ได้เลยนะ ”
เขาไม่ให้โอกาสได้พูดอธิบาย ปังปังปัง ยิงหลายนัดติดต่อกัน แต่เจียงชื่อก็เหมือนกับเล่นมายากลยังไงอย่างนั้น กระสุนทุกนัดล้วนแต่เฉียดร่างกายของเขาไป อย่าคิดว่าจะยิงโดนเขาได้แม้แต่นัดเดียว
ความแข็งแกร่งนี้ คนที่ได้ยินเข้าก็จะต้องตกใจมาก
หวังทงถึงจะตระหนักได้ว่าเหตุการณ์มันไม่ปกติ จึงรีบให้ลูกสมุนเข้ามาช่วยยิง
ปินกระบอกเดียวจัดการเขาไม่ได้ ปืนสี่ห้ากระบอกมาร่วมยิงด้วยกันก็คงจะได้แล้วมั้ง?ไม่เชื่อหรอกนะ หรือว่าเจียงชื่อจะมีเวทมนตร์คาถางั้นเหรอ?
แต่ตอนที่พวกเขากำลังจะลั่นไกนั้น เจียงชื่อก็โค้งเอวลงหยิบหินกรวดที่อยู่บนพื้นขึ้นมา พูดอย่างเนิบๆว่า “ลูกศรไร้ซึ่งขนจางชิง”
“ใคร?”
หวังทงและพวกมีสีหน้าที่สับสน
เจียงชื่อส่ายหน้าอย่างจนใจ “มีเวลาว่างก็อ่านหนังสือให้มากๆหน่อย ไม่สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนโง่อย่างพวกแกได้จริงๆ”
ชู่วๆๆๆ กรวดสามสี่เม็ดลอยออกไปแล้ว
แต่ละเม็ดก็ลอยกระแทกเข้าไปยังบนมือของคนสามสี่คนที่อยู่ตรงข้าม ทันใดนั้นมือของแต่ละคนก็พิการแล้ว แม้แต่จะจับก็จับไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องลั่นไกเลย
เพี๊ยะๆๆๆ ปืนสามสี่กระบอกล้วนตกลงบนพื้นแล้ว
หวังทงคำรามพูดว่า “ได้ แกกล้าโจมตีตำรวจ?แกรู้ไหมว่านี่มันมีโทษหนักนะ?ฉันจะ……”
ไม่ได้รอให้เขาพูดจบ กลุ่มตำรวจจำนวนมากก็เดินออกมาจากในซอย
คนที่นำทีมมาก็คือกัปตันตำรวจ——เซี่ยเมิ่งจื้อ
เขาเพิ่งจะรับสายจากห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูง บอกว่าที่นี่มีการก่ออาชญากรรมเช่น การขายอวัยวะ บีบบังคับให้ผู้หญิงขายบริการ ผู้บริหารระดับสูงก็ตกอยู่ในอันตรายด้วย
ตกใจจนเขาจะต้องรีบนำกำลังตำรวจเข้ามา
จริงๆแล้วซอยนี้ก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากสถานีตำรวจ ก็แค่ถนนไม่กี่สายเท่านั้น นักเลงกลุ่มนี้คิดว่า ‘หากอยู่ใกล้ๆก็จะไม่เป็นที่สังเกตหรือจุดสนใจ’ที่ที่ยิ่งอันตรายก็จะเป็นที่ที่ปลอดภัย
แต่ก็ทำให้ตำรวจสะดวกอย่างมากที่จะมายังที่เกิดเหตุ
อย่างรวดเร็ว เซี่ยเมิ่งจื้อก็ให้คนล้อมที่เกิดเหตุทั้งหมดไว้ เขาเองก็ตกใจจนแทบจะทรุดลงตรงหน้าของเจียงชื่อแล้ว
ถึงแม้จะไม่เคยเจอเจียงชื่อ แต่โทรศัพท์เมื่อตะกี้ก็รู้ได้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นผู้บริหารระดับสูงเขตเจียงหนานที่ชอบโผล่หน้าออกมาแค่แว่บๆแล้วหายตัวไป
เซี่ยเมิ่งจื้อกำลังอยากจะเอ่ยพูด ก็ถูกเจียงชื่อหยุดเอาไว้แล้ว
เขาถามว่า “ขอบคุณกัปตันตำรวจ เมื่อกี้ตำรวจท้องที่นายนี่พูดอะไรนะพลังมังกรก็ไม่อาจสยบคนพาลได้ ในท้องที่แห่งนี้ต้องฟังตามคำสั่งของเขา ถึงแม้คุณจะมา เขาก็ไม่กลัว ตอนนี้พนักงานในท้องที่มีอำนาจมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
เซี่ยเมิ่งจื้อตกใจจนใบหน้าซีดขาว หันหน้าไปมองหวังทงแว่บหนึ่ง พูดตามความจริงว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว จริงๆแล้วเขาไม่ใช่ตำรวจเลยด้วยซ้ำ”
“ห๊ะ?”
เซี่ยเมิ่งจื้อพูดอธิบาย “ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นตำรวจในท้องที่มาระยะหนึ่ง แต่เพราะว่าละเมิดกฎและวินัย ก็เลยถูกไล่ออกจากการเป็นสมาชิกและถูกลิดรอนหน้าที่ของตำรวจ ตอนนี้หวังทง เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป ”
“งั้นเสื้อผ้าของเขา?”
“เขาแอบเอามาจากการเป็นตำรวจก่อนหน้านี้ของตัวเขาเองครับ”
เจียงชื่อยิ้มแล้ว ที่แท้หวังทงคนนี้ก็แค่อาศัยการเป็นตำรวจก่อนหน้าเพียงช่วงหนึ่ง มาแอบอ้างเป็นตำรวจที่นี่ เพื่อปกป้องคนของตัวเอง
‘การคุ้มกัน’คนของตัวเองนี้ ใช้การไม่ได้เลยจริงๆ
หวังทงก็ไม่คิดว่าเจียงชื่อแค่โทรศัพท์ออกไปก็เรียกเซี่ยเมิ่งจื้อมาที่นี่ได้แล้ว