จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 317 ขาที่เรียวยาวเรียบเนียน
เขาชอบทรมานทั้งกายและใจของคนอื่น ไม่เว้นแม้กระทั่งครอบครัวของเขา ครั้งหนึ่ง ชายคนหนึ่งเคยถูกทรมานจนทนรับไม่ได้และในที่สุดก็แขวนคอตายที่บ้าน
ซึ่งครอบครัวของชายคนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะทำพิธีศพ แต่ต้องรีบนำไปขุดหลุมแล้วรีบฝังเองทันที
นี่ก็คือความน่ากลัวของเจี่ยจ้าน และนี่ก็คือความน่ากลัวของกลุ่มหมอกแดง
ในเวลานี้ คนอื่นๆ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาก็ได้ล้อมรอบเจียงชื่อกับติงเมิ่งเหยนไว้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ใบหน้าที่สดในและหุ่นอันงดงามของติงเมิ่งเหยน
โดยเฉพาะขาที่เรียวยาวและเรียบเนียนของเธอ ช่างเป็นที่ดึงดูดสายตาของพวกเขาเลยจริงๆ
ผู้ชายทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็กลืนน้ำลาย
พวกเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้มาก่อน แม้แต่ดาราในทีวียังเทียบเธอไม่ได้
ต้องเอาเธอคนนี้กลับไปให้ได้!
นี่คือความคิดของทุกคนในหมอกแดง
แต่แล้ว……
ท่ามกลางการยั่วยุของฝ่ายตรงข้าม เจียงชื่อกลับนั่งอยู่อย่างเฉยเมยและไม่ได้มองดูเงินบนพื้นที่พวกเขาโยนมาเลย
เจี่ยจ้านมองไปที่เจียงชื่ออย่างดูถูกแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เหมือนแกจะไม่พอใจนะ?”
คนอื่นๆ เบิ้ลรถส่งเสียงดังออกมาเพื่อจะข่มขู่เขา
สถานการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้น เจียงชื่อมีเพียงคนเดียว แต่อีกฝ่ายมีมากกว่ายี่สิบคน ถ้ามีเรื่องกันจริงๆ แล้วเขารู้สู้ได้ยังไง?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ติงเมิ่งเหยนก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะโทรแจ้งตำรวจ
แต่เธอยังไม่ทันได้กดโทรออก มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่ขับวนอยู่ก็เร่งเข้ามาแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือของเธอไป จากนั้นทำท่าดมกลิ่นโทรศัพท์ของเธอ
“หอมจริงๆ เลย ของดีจริงๆ ลูกพี่ครับ เรารีบลงมือกันดีกว่า ผมทนไม่ไหวแล้วครับ”
เจี่ยจ้านยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร นอกจากการเล่นกับผู้หญิงแล้ว เขายังสนุกกับการ ‘รังแก’ ผู้ชายอีกด้วย
จากนั้นเขามองไปที่เจียงชื่อแล้วพูดว่า “แกยังไม่รู้จักข้าใช่ไหมล่ะ? จะบอกให้นะ ข้าคือเจี่ยจ้าน ลูกพี่ของหมอกแดง!”
“ข้าเพิ่งให้โอกาสแกไป ให้แกทิ้งแฟนไว้ที่นี่ และรับเงินของข้าแล้วไปให้พ้น”
“แต่แกไม่ยอมเองนะ”
เจี่ยจ้านส่ายหัวแล้วพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้น อย่าหาว่าไม่เกรงใจก็แล้วกัน คืนนี้ข้าไม่เพียงแต่จะเล่นเมียแก แต่ข้าจะเล่นแกด้วย”
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ชอบผู้ชายหรอก แต่ข้าจะตัดเอ็นร้อยหวายของแกทิ้ง แล้วเอาเมียแกต่อหน้าแก”
“ไม่เพียงแค่ข้าคนเดียวที่เล่นเมียแก พี่น้องของข้าทุกคนก็จะเล่นเมียแกด้วย”
“ต่อให้แกจะดิ้นรนก็ไร้ประโยชน์ เพราะตอนนั้น เส้นเอ็นข้อมือกับเส้นเอ็นข้อเท้าของแกขาดหมดแล้ว แกจะดิ้นได้เหมือนกุ้งเต้นเท่านั้น ไม่มีปัญญาทำอะไรได้หรอก!”
จากนั้นเจี่ยจ้านก็หัวเราะออกมาดังๆ
“เป็นยังไง? รู้สึกสิ้นหวังแล้วใช่มั้ยล่ะ?”
“สิ้นหวังก็ร้องไห้ออกมาสิ ตะโกนร้องเรียกความช่วยเหลือดังๆ เลย!”
ที่ผ่านมาเจี่ยจ้านมักจะใช้คำพูดเหล่านี้ในการข่มขู่เหยื่อ และทุกครั้งเหยื่อที่ถูกกระทำก็จะตกใจจนร้องไห้และคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา
ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีนี้กับเหยื่อคนใหม่
เขาคิดว่าเจียงชื่อจะเป็นอย่างที่คิด
ทว่า……
ดูเหมือนเจียงชื่อจะกลายเป็นหินพระพุทธรูปไปแล้ว เขานั่งอยู่กับที่อย่างไม่ขยับตัวไปไหน
แต่ไม่เชิงว่าในตัวเขาจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
เพราะอย่างน้อยตอนนี้ดวงตาทั้งคู่ของเจียงชื่อกลายเป็นสีแดงไปแล้ว และลมหายใจของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหาร
เป็นกลิ่นอายแห่งการสังหารของเทพแห่งสงครามชูร่า
เมื่อเห็นเจียงชื่อยังคงนิ่งเฉย เจี่ยจ้านก็เริ่มรู้สึกโกรธ ทำไมไม่เหมือนดั่งที่คิดไว้?
“ให้ตายสิ แกกล้าเมินเฉยต่อข้าเหรอ?”
“ไม่ยอมพูดจาใช่ไหม?”
“ไปตัดเส้นเอ็นแขนขามัน แล้วลากคอเมียมันมาเดี๋ยวนี้!”
“กูจะดูว่ามันเป็นใบ้จริงหรือไม่?!”