จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 324 เซี่ยเมิ่งจื้อ
เช้าวันใหม่ ณ สำนักงานของผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนาน
เจียงชื่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเหม่อลอย ส่วนคนที่ยืนอยู่ด้านล่างคือกัปตันตำรวจเซี่ยเมิ่งจื้อ
ยังจำได้ว่าตอนที่เจียงชื่อกลับจากมิลานพร้อมกับซูสวน พวกเขาถูกล้อมโดยกลุ่มคนร้ายที่ค้าขายชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า ‘ดอกเตอร์สือ’
หลังจากที่ชายผู้นั้นถูกเซี่ยเมิ่งจื้อนำตัวไปสอบสวน ซึ่งในตอนนี้ก็มีความคืบหน้าแล้ว
เซี่ยเมิ่งจื้อนำรายงานการสอบสวนวางไว้บนโต๊ะ
เจียงชื่ออ่านไปด้วยและฟังรายงานจากเซี่ยเมิ่งจื้อไปด้วย
“รายงานผู้บริหารระดับสูงครับ คนที่ชื่อ ‘ดอกเตอร์สือ’ ชื่อจริงชื่อว่าสือจื่อซินครับ จากกาสอบสวน เราได้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเขาเป็นลูกชายคนที่สองของสือควน ผู้เป็นประธานสมาคมการแพทย์ของเขตเจียงหนาน และเป็นน้องชายของสือเหวินปิ่งครับ”
“เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรธุรกิจใต้ดินที่ผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่จะเป็นการค้าชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์และธุรกิจการค้ามนุษย์เป็นหลักครับ”
“หน้าที่หลักของสือจื่อซินก็คือการผ่าตัดเอาอวัยวะที่มีมูลค่าออกจากตัวของมนุษย์ เช่นหัวใจ ตับ ม้าม ปอด กระเพาะอาหาร ไต และอวัยวะอื่นๆ แล้วส่งต่อให้กับกลุ่มธุรกิจใต้ตินเพื่อนำไปขายในราคาสูงครับ”
เจียงชื่อพยักหน้า ซึ่งทั้งหมดแทบจะเป็นไปตามการคาดการณ์ของเขาจริงๆ
หลังจากที่อ่านเอกสารรายงานทั้งหมดเสร็จ เขาก็พบว่ารายงานที่มีอยู่นั้นได้โยงไปถึงตัวของสือจื่อซินคนเดียวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้พูดตระกูลสือเลย
“ทำไมสมาคมการแพทย์ของตระกูลสือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยเหรอ?”
เซี่ยเมิ่งจื้อตอบตามความเป็นจริงว่า “จากผลการสอบสวนและหลักฐานที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราพบแค่ว่าสือจื่อซินคนเดียวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดินนี้ ส่วนคนอื่นๆ ในตระกูลสือเรายังไม่พบหลักฐานในการมีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องนี้เลยครับ”
“ด้วยความระมัดระวัง กระผมยังไม่กล้าสันนิษฐานถึงผู้กระทำความผิดคนอื่นๆ ดังนั้นในรายงานนี้กระผมจึงไม่ได้เขียนถึงคนอื่นๆ ของตระกูลสือครับ”
เจียงชื่อขมวดคิ้ว
ตระกูลสือไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยเหรอ? เรื่องทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของสือจื่อซินคนเดียว?
ทำไมมันฟังดูแปลกๆ?
ตระกูลสือเป็นผู้บริสุทธิ์จริง หรือว่าเก็บกวาดหลักฐานได้ดี จึงทำให้ยากที่จะตรวจสอบ?
เจียงชื่อออกคำสั่งอีกครั้ง “ตามสืบต่อไป ต้องหาหลักฐานให้ชัดเจนว่าตระกูลสืออยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้หรือไม่”
“รับทราบครับ!”
“แล้วก็ เซี่ยเมิ่งจื้อ อย่าทำให้คนตระกูลสือรู้ตัวในระหว่างที่คุณสอบสวนนะ”
“รับทราบครับ”
“คุณลงไปก่อน”
เซี่ยเมิ่งจื้อหันหลังแล้วเดินออกไปจากออฟฟิศเพื่อสืบหาหลักฐานต่อ ว่าธุรกิจใต้ดินนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาคมการแพทย์ของตระกูลสือหรือไม่
ในอีกด้านหนึ่ง
ณ บ้านเล็กๆ ที่เปิดไฟสลัวในสมาคมการแพทย์ของตระกูลสือ
เจ้าบ้านตระกูลสือ สือควนนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือสือเหวินปิ่งลูกชายคนโตของเขา
ทั้งคู่ดูเหมือนกำลังเครียดกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
สือเหวินปิ่งพูดว่า “พ่อครับ ผมพยายามเต็มที่แล้ว ครั้งนี้เรื่องของน้องชายผมมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยนะครับ เขาถูกตรวจสอบโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ช่วยเราไม่ได้จริงๆ เราไม่มีทางที่จะประกันตัวออกมาได้ แม้แต่จะขอเข้าพบยังทำไม่ได้เลยครับ เพราะมีคนคอยเฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง!”
สือควนถอนหายใจอย่างไม่หยุด
“แล้วแกคิดว่าทำไมครั้งนี้เรื่องมันถึงร้ายแรงขนาดนี้ล่ะ?”
“เมื่อก่อนเคยเกิดขึ้นเรื่องที่คล้ายกับครั้งนี้มาก่อนแล้ว แต่ปัญหาไม่ได้ใหญ่มากนัก เราแค่ใช้เงินก็สามารถประกันตัวออกมาได้ แต่ทำไมครั้งนี้ถึงถูกฝ่ายผู้บริหารระดับสูงจับจ้องเล่นงานได้?”
สือเหวินปิ่งคร่ำครวญแล้วพูดว่า “เรื่องของน้องชายที่เกิดขึ้นครั้งนี้มันจัดการยากจริงๆ ครับ นอกจากนี้ เพราะเกิดเรื่องขึ้นกับเขา เราก็จะต้องหยุดการส่งสินค้าเพื่อเลี่ยงปัญหาไปสักพักหนึ่ง ฉะนั้นช่วงนี้เราคงหาอวัยวะที่ดีไม่ได้ ในช่วงบ่ายวันนี้คุณหลินก็จะมาแล้ว พวกเรารับปากไปแล้วว่าจะทำการผ่าตัดให้เขา ถึงเวลาถ้าเราไม่มีอวัยวะให้เขา เราจะทำยังไงครับ? ”
“คุณหลินเป็นคนที่มีฐานะสูงมาก ถ้าเราผิดใจกับเขา ตระกูลสือของเราคงต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากแน่เลยครับ”