จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 33 รู้มั้ยว่าผู้ชายของฉันเป็นใคร?
บทที่ 33 รู้มั้ยว่าผู้ชายของฉันเป็นใคร?
เฉิงไห่สีหน้าไม่ค่อยดี อารมณ์ของพี่ฮัวเป็นยังไงตัวเขานั้นรู้ดี จะกล้านั่งลงกินดื่มเฉยๆ ตรงนี้ได้ยังไง?
แต่ว่าเขาก็ดูออก ว่าเจียงชื่อนั้นโมโหแล้ว
“คุณชายใหญ่ อย่ามีเรื่องเลย คุณไม่รู้ฐานะของพี่ฮัว อย่าไปขัดใจเธอเลย”
เจียงชื่อถาม ด้วยสีหน้านิ่งเฉย “เธอคือเจ้าของตึกเหรอ?”
เฉิงไห่ส่ายหน้า
เจียงชื่อถามอีก “แล้วเธอเป็นพนักงานประจำสำนักงานหรือเปล่า?”
เฉิงไห่ส่ายหน้าต่อ
เจียงชื่อหัวเราะ “ไม่มีเหตุผลอะไร งั้นทำไมต้องให้เงินเธอล่ะ?”
เฉิงไห่ถอนหายใจ “คุณไม่รู้ ละแวกนี้เธอเป็นคนคุมหมด ถ้าใครไม่ให้เงินเธอ ร้านก็ถูกเธอพังทันที แจ้งตำรวจไปก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ตำรวจไล่คนออกไป ผ่านไปสองสามวันก็จะมีคนมาสร้างความวุ่นวายมากกว่านี้อีก ทำได้แค่จ่ายเงินเพื่อความปลอดภัย คุยกับคนพวกนี้ไม่รู้เรื่องหรอก”
หรือพูดได้ว่า ที่จริงแล้วพี่ฮัวมีฐานะคือ ‘คนเรียกเก็บค่าคุ้มครอง’
ทางฝั่งโน้น พี่ฮัวเห็นว่าเฉิงไห่ไม่ใช่แค่ไม่ไปหยิบเงิน แต่กลับนั่งลง แล้วยังจะดื่มเบียร์กินกับแกล้มอีก ทันใดนั้นก็โมโหทันที
“ไอ้ตาแก่เฉิง ให้นายไปหยิบเงินมาแล้วนายมัวไปทำอะไรอยู่?”
ขณะที่เฉิงไห่เตรียมตัวลุกขึ้น ก็ถูกเจียงชื่อรั้งไว้ ไม่สนใจพี่ฮัวเลย
พี่ฮัวสาวขาโหดที่เป็นที่รู้จักดีในละแวกนี้ ใครเจอเธอแล้วกล้าไม่ไว้หน้าบ้าง? นี่เป็นครั้งแรกที่โดนเมินแบบนี้
เธอตบสมุดบัญชีลงบนโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปอย่างเหี้ยมๆ
ไม่ทันถามอะไร ก็จะง้างมือตบ
“ไอ้แก่อย่างแก กล้าเมินฉันงั้นเหรอ? คอยดูฉันจะตีแกให้ตาย!”
มือที่ง้างขึ้นได้แค่ครึ่งนึง เจียงชื่อก็ได้สาดเบียร์ใส่หน้าพี่ฮัว
เมื่อเป็นฉากนี้ ใจของเฉิงไห่ก็ร้าวแล้ว เขาพูดขึ้นรัวๆ “แย่แล้ว แย่แล้ว คราวนี้แย่แน่ๆ ”
พี่ฮัวถึงกับอึ้ง
เธอยืนหนึ่งในละแวกนี้มาตลอด ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเธอแบบนี้
“นาย นายกล้าสาดใส่ฉันเหรอ?”
ยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น เจียงชื่อก็ตบบ้องหูเธอไปหนึ่งที
พี่ฮัวกุมหน้าที่โดนตบไว้ แล้วเซถอยหลังไปหลายก้าว
“นายยังกล้าตบฉัน?”
เจียงชื่อพูดอย่างเย็นชา “ขยะสังคมแบบเธอ สมควรโดน”
“ดี ดีมาก ดีมากๆ ไอ้น้อง นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร? นายรู้มั้ยว่าละแวกนี้ใครคุม? กล้าตบฉัน นายตายแน่ๆ วันนี้นายอย่าคิดจะมีชีวิตรอดออกไปเลย”
เจียงชื่อหัวเราะแล้วถาม “ฉันก็อยากจะรู้จริงๆ ผู้หญิงแย่ๆ อย่างเธอ ไปเอาความกล้าจากไหนมาคุม?”
พี่ฮัวหัวเราะก๊าก “ถ้าฉันพูดนายก็อย่าตกใจจนฉี่ราดล่ะ ฉันเป็นผู้หญิงของหัวล้านหลง!”
หัวล้านหลง?
เป็นชื่อที่คุ้นหูมากๆ เลย เจียงชื่อจำได้ว่าเมื่อวานไอ้บ้านั่นเรียกเก็บเงินซูสวนอย่างชุ่ยๆ สุดท้ายก็ถูกเขาสั่งสอนไป
คิดไม่ถึงว่าพี่ฮัวจะเป็นผู้หญิงของหัวล้านหลง
เห็นท่าทีชะงักของเจียงชื่อ พี่ฮัวก็เข้าใจผิดว่าเขากลัว
“ทำไม กลัวเหรอ? สายไปแล้ว!”
“ละแวกนี้เป็นเขตของหัวล้านหลง มีใครกล้าไม่ฟังที่เขาพูด?”
“ส่วนฉันพี่ฮัว เป็นผู้หญิงที่หัวล้านหลงรักที่สุด นายกล้าตบฉัน ยังคิดจะมีชีวิตรอดออกไปอีกเหรอ?”
เจียงชื่อส่ายหน้าอย่างอึดอัด “งั้นเหรอ? เธอเป็นผู้หญิงของหัวล้านหลงจริงๆ เหรอ? ทำไมฉันไม่เชื่อล่ะ?”
“นายคอยดู ฉันจะโทรหาหัวล้านหลงเดี๋ยวนี้”
พี่ฮัวควักโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ไม่กี่วินาทีก็ต่อติด เธอร้องไห้พลางฟ้องว่าตัวเองถูกรังแก อยากให้หัวล้านหลงมาคืนความยุติธรรมให้เธอ และพังร้านนี้ซะ
หลังจากวางโทรศัพท์ พี่ฮัวก็พูดอย่างโหดเหี้ยม “นายคอยดู ไม่ถึงสามนาที ผู้ชายของฉันก็จะมาอัดนายให้ตายเลย!”
จากนั้น เจียงชื่อก็แค่นั่งลงแล้วกินกับดื่มเบียร์ของตัวเองต่อ ไม่ได้มีความกลัวเลยสักนิด
แต่เฉิงไห่กระวนกระวายจะตายแล้ว
เขาอยู่ที่เมืองเจียงหนานมาหลายปี หัวล้านหลงฐานะเป็นยังไงเขารู้ดี วันนี้ร้านของเขาแย่แน่ๆ ส่วนจะมีชีวิตรอดไปมั้ยนั้นก็เป็นอีกปัญหานึง
“คุณชายใหญ่ คุณไปยั่วคนใหญ่คนโตเข้าแล้วไง”
“ทำไมยังกินลงอีกห้ะ?”
“รีบหนีเถอะ ตระกูลเจียงมีคุณเป็นผู้สืบทอดอยู่คนเดียว อย่ามาตายที่นี่เลย”
เจียงชื่อยิ้มแต่ไม่พูด
สุดท้าย ด้วยความเร็วไม่ถึงสามนาที คนหัวล้านกลุ่มใหญ่ก็กรูเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด ทุกคนไม่ได้สวมเสื้อ ในมือถือท่อนเหล็ก แต่ละคนมีท่าทีที่ดุร้าย
ที่เดินนำหน้า คือหัวล้านหลง
เมื่อวานถูกคนสั่งสอนมา อารมณ์โกรธข้างในยังหาที่ระบายไม่ได้ แล้วใครไม่ลืมหูลืมตามาแกล้งผู้หญิงของเขาในเวลาแบบนี้กัน?
เหอะๆ เวลานี้เขาจะฆ่าผู้ชายที่ไม่ลืมหูลืมตาคนนั้น
เมื่อมาถึงข้างหน้าร้าน ทันใดนั้นพี่ฮัวก็ถลาเข้าไป แล้วใช้ส่วนที่นุ่มนิ่มที่สุดของร่างกายแนบร่างของหัวล้านหลง “พี่หัวล้าน พี่ต้องแก้แค้นให้ฉันนะ ฉันไม่เคยโดนดูถูกขนาดนี้มาก่อนเลย พี่ดู มันสาดเบียร์ใส่หน้าฉัน ฮรือๆๆ ……”
หัวล้านหลงโกรธจัด “ไอ้ชั่วตัวไหนมันไม่ลืมหูลืมตากันห้ะ? แม้แต่ผู้หญิงของหัวล้านหลงอย่างฉันยังกล้ารังแก? วันนี้ฉันจะต้องถลกหนังมันออกมาให้ได้!”
พี่ฮัวชี้มาทางร้าน “ก็ไอ้ตาแก่เฉิงกับไอ้หนุ่มคนนั้น”
หัวล้านหลงปัดมือ “พังร้านนี้ซ่ะ แล้วไปลากไอ้สองตัวนั้นออกมามัดไว้”
“ครับ!!!”
ลูกน้องกลุ่มหนึ่งเดินแกว่งท่อนเหล็กเข้าไปในร้าน ใจของเฉิงไห่เต้นตึกตักๆ เหมือนจะหลุดออกมา ตกใจจนมือเท้าเย็นเฉียบ
จากนั้น เจียงชื่อก็ลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อน แล้วยื่นมือไปตบบ่าเฉิงไห่
“ลุงเฉิง ดื่มต่อกินต่อ ทั้งหมดนี้ผมเอง”
เขาจัดแจงเสื้อเล็กน้อย แล้วเดินออกไปยังประตูใหญ่
เมื่อลูกน้องเหล่านั้นกรูเข้ามาที่หน้าร้าน ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะพังร้าน ก็เหลือบไปเห็นเจียงชื่อ แต่ละคนก็ตกใจจนสีหน้าเหมือนขี้เถ้า ท่าทีเกรี้ยวกราดนั้นหายไปในทันที
แม้กระทั่ง มีบางคนที่ใจไม่ค่อยดี ก็ตกใจจนต้องทรุดลงพื้นไป
ผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าน่ากลัวขนาดไหน เมื่อวานพวกเขาก็ได้เห็นเองกับตาแล้ว จัดการเขา? เหอๆ เรื่องล้อเล่นบ้าอะไรกัน? ไม่โดนเขาฆ่าก็ถือว่าบุญแล้ว
หัวล้านหลงเห็นลูกน้องหยุดฝีเท้า จึงตะคอก “พวกแกทำอะไรกัน? ไอ้พวกโง่ยืนแข็งเป็นท่อนไม้อะไรตรงนั้น?”
ลูกน้องคนนึงหันกลับมาพูด “ละ ลูกพี่ เรื่องนี้กะ…กลัวว่าจะทำไม่ได้ครับ”
“หือ? แกพูดบ้าอะไร? มีอะไรที่หัวล้านหลงอย่างฉันจัดการไม่ได้?”
“ลูกพี่ ลูกพี่ก็อาจจะจัดการไม่ได้จริงๆ ”
“ไสหัวไป ไอ้***!”
หัวล้านหลงสบถคำหยาบออกมา และผลักลูกน้องออกไป จากนั้นตนก็เดินไปยังด้านหน้าสุด แล้วเงยหน้าขึ้น สบตากับเจียงชื่อ
เพียงชั่วครู่ ‘ความสง่าผ่าเผย’ บนตัวของหัวล้านหลง ก็มอดหายไปทันที แข้งขาสั่นอย่างไม่รู้ตัว
“เป็น……นาย?”
หัวล้านหลงรู้สึกแย่ ในเมืองเจียงหนานนี้คนที่เขากลัวจริงๆ มีอยู่ไม่กี่คน และเจียงชื่อก็คือหนึ่งในนั้น
ช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้ วันนี้ก็เจอเขาอีกแล้ว
เจียงชื่อถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “นายจะพังร้านฉันเหรอ? แล้วยังจะมัดฉันด้วยเหรอ?”
หัวล้านหลงรีบยิ้มรับ “อะไรนะ? มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ? ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย ท่านอย่าล้อผมเล่นเลยครับ”