จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 332 เส้นประสาทอัมพาต
ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถฟังออกว่าคำพูดของหลินเจียหรงนั้นกำลังพูดถึงสองพ่อลูกตระกูลสืออยู่
สือควนกับสือเหวินปิ่งแทบจะขุดหลุมแล้วมุดเข้าไปเอง เพราะพวกเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้วจริงๆ
โดยเฉพาะสือควน เขาทั้งรู้สึกขายหน้าและรู้สึกโกรธมาก
เดิมทีวางแผนไว้เป็นอย่างดี ตั้งใจจะโยนมันฝรั่งร้อนให้กับหอการแพทย์ตระกูลซิน เพื่อให้กิจการที่สืบทอดมานานนับร้อยปีของหอการแพทย์ตระกูลซินล้มละลาย
แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีก้างขวางคอโผล่ออกมากลางคันแบบนี้?
ที่มากไปกว่านั้นคือแพทย์มือใหม่อย่างเจียงชื่อกลับมีทักษะทางการแพทย์ที่เหนือกว่าพวกเขา และเทคนิคทางการแพทย์ลับที่สือควนคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระนั้นก็ได้แสดงให้เห็นกับตาแล้ว
ช่างเป็นวันที่สุนัขไม่รับประทานจริงๆ!
หลินเจียหรงผู้เป็นลูกค้าสำคัญแต่กลับถูกสือควนผลักไสไปที่หอการแพทย์ตระกูลซินด้วยฝีมือของเขาเอง แต่สุดท้ายแล้วยังเป็นเหตุทำให้หอการแพทย์ตระกูลซินได้ลูกค้าที่สำคัญคนนี้ไป แค่คิดก็รู้สึกน่าโมโหมากแค่ไหนแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ในสายตาของหลินเจียหรง ตำแหน่งของตระกูลสือของพวกเขายังถูกดิ่งลงเหวอีกด้วย
ด้วยสถานะของหลินเจียหรง ถ้าเขาตั้งใจจะทำจริงๆ เขาอาจสามารถดึงตระกูลสือสมาคมการแพทย์ของพวกเขาลงจากอันดับหนึ่งของวงการอุตสาหกรรมนี้ได้
น่าเจ็บใจจริงๆ!
ขโมยไก่ไม่สำเร็จและยังต้องเสียข้าวสารไปด้วย ความรู้สึกแบบนี้มันช่างแย่จริงๆ
หลินเจียหรงพูดอย่างประชดประชัน “ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ารักษาไม่ได้ แต่ยังรับปากว่าจะทำการเปลี่ยนไตที่เหมาะสมให้ได้อย่างแน่นอน สุดท้ายแล้วก็ปัดความรับผิดชอบให้คนอื่นอย่างกะทันหัน”
“นี่เหรอ อันดับหนึ่งของวงการแพทย์?”
“มีแต่จะทำให้วงการแพทย์เสื่อมโทรมมากกว่า!”
ถึงแม้คนพูดจะไม่ได้รู้สึกอะไร แต่คนฟังเริ่มสังเกตถึงอะไรบางอย่างแล้ว หลังจากนั้นเจียงชื่อขมวดคิ้วขึ้นทันที
เขามองไปที่สองพ่อลูกตระกูลสือแล้วถามลอย ๆ ว่า “ยังไงครับ คุณสือควนยังมีวิธีหาไตมาได้ด้วยเหรอครับ?”
สือควนถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ
แม้เจียงชื่อจะถามลอย ๆ และไม่น่าเกี่ยวข้องกับคดีที่ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ แต่เขาก็ยังตอบอย่างระมัดระวังว่า “ก็ตอนแรงทางโรงพยาบาลในเมืองบอกว่ามีของ แต่สุดท้ายบอกผมกะทันหันว่าไม่มีของแล้ว ผมถึงทำอะไรไม่ได้ไงครับ”
“อ้อ? แบบนี้นี่เอง?”
“ก็นั่นน่ะสิ”
สือควนตอบอย่างไร้พิรุธเลย แต่เจียงชื่อรู้ว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้จี้ถามต่อ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เจียงชื่อมั่นใจมากขึ้นก็คือ คดีของดอกเตอร์สือนั้นไม่ใช่คดีเดี่ยวอย่างแน่นอน สือควนกับสือเหวินปิ่งต้องรู้เรื่องการขายอวัยวะมนุษย์ของเขาอยู่แล้ว และแม้กระทั่งอาจเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังก็เป็นไปได้
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการหาหลักฐานได้อย่างไร?
เรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เจียงชื่อรู้ดีว่าสองพ่อลูกตระกูลสือนั้นมีพิรุธ แต่เขายังนิ่งเฉยและไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา ซึ่งทำเหมือนเขาไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยบกับคดีนี้เลย
และสิ่งนี้จึงทำให้สองพ่อลูกตระกูลสือปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้
จากนั้นสือควนกับสือเหวินปิ่งประสานมือทั้งสองข้างของตน
“ขอแสดงความยินดีกับคุณหลินที่รักษาโรคร้ายนี้ได้นะครับ เออ คือว่า พวกเรายังมีงานต้องทำต่อที่ตระกูลสือ จึงจะไม่อยู่รบกวนต่อแล้วนะครับ”
“งั้นเราขอตัวก่อนนะครับ”
“สวัสดีครับ”
สองพ่อลูกตระกูลสือหันหลังเดินจากไปทันทีโดยที่ไม่รอให้คนอื่นพูด
ทั้งสองรีบขึ้นรถแล้วขับออกไปทันทีเหมือนกับสุนัขจรจัดที่กลัวถูกเฆี่ยนตี
หลินเจียหรงตวาดอย่างไม่พอใจ
“บ้าบออะไรกัน?”
“ทักษะทางการแพทย์ไม่ดีก็แล้วไป แต่นี่ยังไม่มีจรรยาบรรณอีกด้วย”
“ให้คนพวกนี้เป็นผู้นำในวงการแพทย์มันจะดีได้ยังไงกัน?”
หลินเจียหรงมองไปที่เจียงชื่อแล้วพูดต่อ “สำหรับผมแล้ว หมอเทวดาเจียงต่างหากถึงจะมีคุณสมบัติที่จะนั่งในตำแหน่งผู้นำของวงการแพทย์นี้!”
เจียงชื่อส่ายหัวแล้วยิ้มตอบ “ผมเรียนแพทย์ยังไม่ถึงเดือนเลยครับ ประสบการณ์ยังน้อย ที่ผมสามารถรักษาโรคของคุณหลินได้ก็เพราะเรื่องบังเอิญเท่านั้นครับ คุณไม่ต้องยกยอผมขนาดนั้นก็ได้ ผมยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ”
หลินเจียหรงยกนิ้วโป้งให้เขา
“ชื่นชอบหรืออดสูล้วนไม่เก็บใส่ใจ มีความรู้ความเข้าใจในความสามารถของตน หมอเทวดาเจียงช่างเป็นแพทย์อัจฉริยะจริงๆ เลยนะครับ!”
“คุณหมอซินครับ คุณโชคดีจริงๆ เลยนะครับที่มีสามีที่ดีขนาดนี้”