จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 40 รายชื่อ
บทที่ 40 รายชื่อ
ติงเมิ่งเหยนกับซูฉินเตรียมจะเกลี้ยกล่อมในเวลาเดียวกัน แต่กลับถูกติงฉี่ซานหยุดไว้
“พวกเธอก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ให้เวลาเขาสองวันก็เป็นการยอมอ่อนข้อที่สุดของฉันแล้ว พวกเธอพูดมากอีกประโยคหนึ่ง พรุ่งนี้ก็ไปหย่าให้ฉันซะ”
คำพูดมาถึงขั้นนี้ ก็ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
เจียงชื่อลุกขึ้นยืน เดินไปทางประตูอย่างนิ่งสงบ ติงเมิ่งเหยนลุกขึ้นตามไปทันที
ทั้งสองคนมาถึงนอกห้อง
ติงเมิ่งเหยนพูดเสียงสะอึกสะอื้น “เจียงชื่อ คุณพ่อของฉันโกรธไปชั่วขณะถึงได้พูดคำเหล่านั้น นายอย่าเก็บเอาไปใส่ใจให้มาก”
เจียงชื่อพยักหน้า “ฉันรู้”
“นายก็อย่าไปสนใจเรื่องการเดิมพันมากเกินไป แม้ว่าจะทำไม่สำเร็จ พวกเรายังสามารถขอโทษต่อคุณปู่ได้ ขอร้องการให้อภัยจากท่าน ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องหย่าร้าง”
เจียงชื่อยิ้ม “ลูกผู้ชายอกสามศอก พูดอะไรแล้วจะไม่รักษาคำพูดได้อย่างไรกัน? ”
“นาย…จะไปจากฉันจริงๆ หรือ? ”
เงียบไปสักพัก
เจียงชื่อใช้แววตามุ่งมั่นจ้องไปที่ติงเมิ่งเหยน “ฉันสัญญากับเธอด้วยชีวิต จะไม่จากเธอไปอย่างแน่นอน ยังคงเป็นคำถามนั้น เมิ่งเหยน เธอเชื่อใจฉันไหม? ”
ติงเมิ่งเหยนกัดริมฝีปาก หยักหน้าอย่างหนักแน่น
“งั้นสองวันถัดไป ก็จะได้รู้ผล”
พูดไป เจียงชื่อก็ควักกระดาษแผ่นหนึ่งจากในกระเป๋าเสื้อออกมายัดไว้ในมือติงเมิ่งเหยน ไม่ได้พูดอะไรก็หมุนกายจากไป
ติงเมิ่งเหยนมองไปที่เงาหลังที่จากไปของเจียงชื่อ ไม่อาจสงบนิ่งได้อยู่นาน
กลับถึงห้องนอน เธอเปิดกระดาษแผ่นนั้นที่เจียงชื่อทิ้งไว้ให้ บนนั้นเขียนไว้หนึ่งบรรทัด : รีบเขียนจดหมายเชิญให้สิบบริษัทใหญ่ในรายชื่อทันที เชิญพวกเขาเข้าร่วมประชุมโครงการเงินลงทุน กำหนดเวลาเป็นสองวันหลังจากนี้
รายชื่อ ก็คือรายชื่อบริษัทคู่ค้าที่เตรียมจะดึงเงินลงทุนด้วยฉบับนั้นที่คุณปู่ติงจ้งมอบออกมา
ติงเมิ่งเหยนรับรายชื่อออกมาพลิกทันที เขียนจดหมายเชิญให้พวกเขาทีละคน
……
ในเวลาเดียวกันนั้น ภายในคฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส
ติงเฟิงเฉิง ติงจื่อยวี่ ถังแหวนโม่ทั้งสามคนนั่งอยู่รอบโต๊ะ รับประทานอาหารเย็นกันอย่างมีความสุข
ติงเฟิงเฉิงเคี้ยวเนื้อวัวไปก็พูดไปด้วยว่า “เจียงชื่อที่สมควรตายคนนั้น ปล่อยให้มันอวดดีมานานขนาดนี้ ในที่สุดก็หาโอกาสจัดการมันให้ตายได้แล้ว! ”
ถังแหวนโม่แค่นเสียงเหยียดหยามเสียงหนึ่ง
เขายังคงจำได้ว่าครั้งที่แล้วเรื่องพิธีรับช่วงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ครั้งนั้นเจียงชื่อทำให้เขาอับอายไปถึงบ้าน โกรธจนไม่ออกจากบ้านไปหลายวัน บัญชีนี้ในที่สุดก็มีโอกาสชำระแล้ว
ติงจื่อยวี่มีความไม่แน่ใจเล็กน้อยเอ่ยขึ้น “แต่ว่าดูการแสดงออกในที่ประชุมวันนี้ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเจียงชื่อดูเหมือนจะมีความมั่นใจกันล่ะ? ไม่ใช่ว่าเกิดความผิดพลาดอะไรหรอกนะ? ”
“เกิดความผิดพลาดอะไร? “ติงเฟิงเฉิงกระหยิ่มยิ้มย่องพูดขึ้น “พี่หญิงใหญ่ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ชัดเจนถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลติง นับตั้งแต่หลังจากได้โครงการของกรมโยธาธิการและผังเมืองมาแล้ว ตระกูลติงก็กลายเป็นศัตรูของทั้งเมือง ทุกคนเฝ้าภาวนาให้ตระกูลติงปล่อยไก่ ไม่มีบริษัทใหญ่บริษัทไหนยินดีช่วยเหลือตระกูลติงเลยสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้เงินลงทุนเลย เจียงชื่อคนนั้นหนึ่งไม่มีเงิน สองไม่มีคน จะพูดชักชวนให้บริษัทที่มีเจตนาร้ายเหล่านั้นยอมนำเงินมาลงทุนทางตระกูลติงอย่างไร? ”
ถังแหวนโม่ก็กล่าวตอบ “จุดนี้ฉันเห็นด้วยกับเฟิงเฉิง อีกทั้งเจียงชื่อยังไร้ยางอายคิดจะให้คนตระกูลฉางมาขอโทษ เหอะๆ เป็นคนปัญญาอ่อนคิดเพ้อฝันจริงๆ ถึงแม้จะเป็นฉัน พยายามอย่างสุดความสามารถก็ทำได้เพียงให้ตระกูลฉางทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กแล้วก็จบกันไป ฝืนใจไม่ไปสืบสาวเรื่องเจ็บหนักของฉางจ้ายชูน เจียงชื่อคนนั้นมีความสามารถอะไร ไม่เพียงแค่ทำให้คนเขาลืมความแค้นทิ้งไป ทั้งยังสามารถทำให้คนเขามาขอโทษถึงหน้าประตู? เขาเป็นเทพเซียนหรือปีศาจ? ”
ทั้งสองเรื่องนี้ ไม่ว่าเรื่องไหนก็ยากราวกับปีนขึ้นฟ้า คิดจะทำให้สำเร็จในเวลาเดียวกัน ความน่าจะเป็นแทบจะเป็นศูนย์
ยิ่งไปกว่านั้น เจียงชื่อคนนั้นยังอวดอ้างคำโตว่าใช้เพียงเวลาสองวัน
ถังแหวนโม่กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ฉันกล้ารับรอง เจียงชื่อไม่มีทางทำหน้าที่สำเร็จ ที่ต้องการเวลาสองวัน นั่นก็เพื่อที่จะซื้อตั๋วหลบหนี พวกนายรอดูเถอะ สองวันถัดจากนี้ เจ้าโง่เง่านี่จะต้องหายไปอย่างไร้ร่องรอยแน่นอน”
ติงเฟิงเฉิงรีบร้อนพูดขึ้น “พี่เขย พี่ปล่อยให้เขาหนีไปไม่ได้นะ! ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” ถังแหวนโม่กล่าว “ฉันจะจัดคนไว้ที่สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่งของทั้งเมืองเพื่อขวางเอาไว้ เจียงชื่อติดปีกก็ยากที่จะหนีรอด สองวันจากนี้ ฉันจะให้มันคุกเข่าโขกหัวให้ฉันต่อหน้าทุกคน เล่นงานมันให้ตาย มันกล้าทำให้ฉันขายหน้า ฉันจะทำให้มันทิ้งชีวิต! ”
ทั้งสามคนยกแก้วเหล้าขึ้น
“เพื่อการตายของเจียงชื่อในอีกสองวัน หมดแก้ว! ”
……
ลมหนาว ความมืดยามค่ำคืน เงาร่างเดียวดายบนถนน
รถซูเปอร์คาร์สุดหรูคันหนึ่งจอดอยู่ริมถนน ประตูรถเปิดออก มู่หยางอีก้าวเท้ามาข้างหน้า ทำความเคารพแบบทหารครั้งหนึ่ง
“ลูกพี่ ฉันมารับพี่แล้ว”
“อืม”
เจียงชื่อนั่งบนรถ จากไปอย่างสง่าผ่าเผย
บนรถ มู่หยางอีพูดขึ้น “ลูกพี่ นายให้ฉันจัดการเรื่องที่เหลือทิ้งไว้ของตระกูลฉาง ฉันขอปากมากถามสักคำ ต้องการทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กแล้วให้จบกันไป หรือว่ากำจัดทั้งตระกูลฉางอย่างเด็ดขาดไปเลย? ให้พวกเขาหายไปจากโลกนี้”
เจียงชื่อกล่าวน้ำเสียงเฉยชา “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง”
“อ้อ? ลูกพี่อยากจะจัดการพวกเขาอย่างไร? ”
“สองวันหลังจากนี้ ให้หัวหน้าตระกูลฉางพาพ่อบ้านไม่กี่คน ไปเยี่ยมเยียนขอโทษที่บ้านตระกูลติง”
มู่หยางอีหัวเราะเสียงดัง “จุ๊ๆ ลูกพี่นายนี่รู้จักเล่นนะ ไม่มีปัญหา เรื่องนี้มอบไว้ให้ฉันได้เลย”
“อีกอย่างช่วยฉันจัดการอีกเรื่องหนึ่ง”
“ลูกพี่พูดมาได้เลย”
เจียงชื่อหยิบเอารายชื่อฉบับหนึ่งออกมา วางไว้บนเบาะรถ “บนรายชื่อนี้มีสิบบริษัทยักษ์ใหญ่ พรุ่งนี้นายให้คนไปเยือนทั้งหมดสักรอบหนึ่ง ใช้ชื่อของฉันทำให้พวกเขาดำเนินการลงทุนกับโครงการปรับแก้ของตระกูลติง”
“อันนี้ก็ง่าย” มู่หยางอีเก็บใบรายชื่อขึ้นมา “พอดีกับที่พวกเขาก็กลับมาแล้ว ก็ให้พวกเขาไปจัดการเรื่องนี้แล้วกัน”
เจียงชื่อกล่าวต่อไป “ใช่แล้ว เวลาก็คือแบบนี้ สองวันจากนี้ ให้ประธานกรรมการของทั้งสิบบริษัทไปที่ตระกูลติงด้วยตัวเอง เข้าร่วมประชุมการลงทุน ลงนามสัญญาที่นั่น”
“ไม่มีปัญหา”
ในเวลาที่ทั้งสองพูดคุยกัน รถก็มาถึงอาคารสำนักงานใหญ่ของผู้บริหารระดับสูง
เจียงชื่อก้าวเดินไปข้างใน
ตั้งแต่รับช่วงผู้บริหารระดับสูงเป็นต้นมา เขาก็ไม่ค่อยได้มาอาคารสำนักงานใหญ่ อีกทั้งน้อยนักที่จะปรากฏตัวที่ห้องทำงาน เรื่องน้อยใหญ่ทั้งหมดโดยทั่วไปล้วนมอบให้มู่หยางอีเป็นตัวแทนจัดการ
ขึ้นลิฟต์แล้ว มาถึงชั้นสิบหก
ประตูลิฟต์เปิดออก สองคนคนหนึ่งนำหน้าคนหนึ่งตามหลังเดินออกมา เข้าไปที่ห้องทำงานผู้บริหารระดับสูงของเจียงชื่อ
นี่คือห้องทำงานสุดหรูขนาดเกือบสองร้อยตารางเมตรห้องหนึ่ง มีทั้งห้องทำงานส่วนตัวขนาดเล็ก อีกทั้งห้องประชุมงานขนาดใหญ่ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ยังครบครัน
ในเวลานี้ มีชายรูปลักษณ์ต่างกันสิบสองคน แต่ทั้งหมดล้วนมีความแน่วแน่ดุจเหล็กกล้ารออยู่ในห้องประชุมใหญ่
สิบสองคนนี้ ก็คือกองทองสิบสองปีนักฉัตรที่ในตะวันตกเพียงได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว
“ทำความเคารพ! ”
การเคลื่อนไหวของทั้งสิบสองคนพร้อมเพรียงกัน จากการเคลื่อนไหวและลักษณะท่าทางสามารถเห็นได้ถึงอารมณ์เคารพเลื่อมใสต่อเจียงชื่อ
เจียงชื่อพยักหน้า ไปยืนอยู่ด้านหน้าทุกคน
“พี่น้องทุกคน พวกเราได้พบกันอีกครั้ง”
“ลูกพี่!!! ”
สิบสองคนพุ่งเข้ามาพร้อมกัน กอดกับเจียงชื่ออย่างแนบแน่นด้วยกัน ความผูกพันของเพื่อนพี่น้องนั้นปลดปล่อยออกมา