จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 43 คนใหญ่คนโต
บทที่ 43 คนใหญ่คนโต
ตัวแทนของบริษัทยักษ์ใหญ่นั่งลง บนใบหน้าของทุกคนต่างเขียนคำว่า ‘หยิ่งยโส’ สองคำนี้ไว้ เห็นได้ว่าในใจของพวกเขาดูถูกตระกูลติงตระกูลระดับสองเล็กๆ นี้
หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว ติงจ้งกระแอมเบาๆ เสียงหนึ่ง อยากจะเปิดปากแต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากที่ไหน
เพราะตั้งแต่แรกเริ่มเขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนใหญ่คนโตเหล่านี้จะมา ดังนั้นจึงไม่ได้เตรียมตัวว่าจะต้องพูดอะไร แอบเหลือบมองไปที่เจียงชื่อรอบหนึ่ง ในใจยิ่งเพิ่มความสงสัยขึ้นไปอีก
เจียงชื่อมีความสามารถอะไร ถึงได้เชิญคนเหล่านี้มาได้แล้ว?
กลับเป็นถังแหวนโม่เป็นผู้เริ่มถามขึ้น “ขออภัยที่ฉันต้องถามสักคำ วันนี้ทุกท่านทำไมถึงมาที่ตระกูลติงของพวกเราได้? ”
พันคู่กล่าวอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าตระกูลติงของพวกนายเขียนจดหมายเชิญ เชิญให้พวกเรามาหรอกหรือ? ทำไม นายที่เป็นเจ้าบ้านกลับย้อนมาถามแขกเสียเล่า? ”
ถังแหวนโม่ฟังแล้ว หัวเราะแหยๆ ใช้สายตาดูหมิ่นมองไปที่เจียงชื่อ
“เช่นนั้นก็พูดได้ว่า ทุกคนมุ่งมาทางเมิ่งเหยน แต่ไม่ได้มุ่งมาทางเจียงชื่อ? เหอะๆ เจียงชื่อ สุดท้ายนายก็อาศัยผู้หญิงคนหนึ่งถึงได้บรรลุเป้าหมาย อ่อนหัดจริงๆ ”
คำพูดนี้เป็นการต่อว่าเจียงชื่อ แต่เหล่าประธานกรรมการได้ฟังเข้าหูแล้วกลับรู้สึกไม่สบายอย่างมาก มีความรู้สึกว่าชี้ต้นหม่อนด่าต้นไหม
พันคู่ใช้สายตาเย็นชามองถังแหวนโม่ “นายเป็นใคร? ”
ถังแหวนโม่ตอบกลับอย่างเย่อหยิ่ง “รองผู้บัญชาการของเขตตะวันออก”
“รองผู้บัญชาการ? ” พันคู่พูดอย่างดูถูก “ทรัพยากรโลจิสติกส์เขตตะวันออกของพวกนายมีครึ่งหนึ่งที่เป็นบริษัทของพวกเราเสนอให้ ต่อให้ผู้บัญชาการของพวกนายมาแล้วก็ยังต้องเกรงใจต่อฉัน นายจะมาแสดงท่าทางอะไรต่อหน้าฉันกัน? ”
ถังแหวนโม่สีหน้าพลันไม่น่ามอง ต่อหน้าพันคู่ เขาไม่มีค่าพอให้พูดถึง
เดิมที่เขาคิดจะเยาะเย้ยเจียงชื่อสองสามประโยค คิดไม่ถึงว่ากลับไปล่วงเกินพันคู่เข้า คิดจะอธิบายสักสองประโยค แต่กลับถูกพันคู่เหยียดหยาม
พันคู่กวาดตาสำรวจทั่วทั้งในที่นี้ พูดอย่างเย็นชาว่า “การประชุมวันนี้ไม่น่าจะต้องใช้คนมากขนาดนี้มั้ง? คนที่ไม่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็ออกไปทั้งหมดเถอะ”
คนตระกูลติงมองกันและกัน ก้มหัวต่ำจากไปอย่างเชื่อฟัง
สุดท้าย ตระกูลติงเหลือเพียงติงจ้งและติงเมิ่งเหยน เจียงชื่อ ถังแหวนโม่พวกเขาไม่กี่คน
พันคู่ชี้ไปที่ถังแหวนโม่ “ไม่ได้ยินคำที่ฉันพูดหรือ? คนที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกไปให้ฉันซะ! ”
ถังแหวนโม่สีหน้ายิ่งไม่น่ามอง เขาอยู่ที่ตระกูลติงคนเห็นคนต้อนรับ ยังไม่เคยพบกับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าจู้จี้กับพันคู่จริงๆ ลุกขึ้นยืนเดินไปทางด้านนอก
ติงเฟิงเฉิง ติงจื่อยวี่เมื่อเห็นว่าถังแหวนโม่ถูกไล่ไปแล้ว จึงรีบลุกขึ้นจากไป
ตอนผ่านข้างกายเจียงชื่อ ถังแหวนโม่ในใจไม่สบอารมณ์ เอาความโกรธทั้งหมดระบายใส่ไปที่เจียงชื่อ ตวาดใส่เขาว่า “ไม่ได้ยินคำพูดของประธานกรรมการพันหรือไง? ยังไม่ไสหัวออกมาให้ฉันอีก! ”
เจียงชื่อยิ้มเย็น “เมื่อครู่ฉันดูจากภายนอกแล้วเพียงได้ยินประธานกรรมการพันให้นายไสหัวไปนะ? ”
ถังแหวนโม่กัดฟันดังกรอด โกรธจนแทบอยากจะขึ้นไปต่อยเขาสักหมัด
ติงจ้งเห็นถังแหวนโม่โกรธจนแทบจะไม่ไหว รีบช่วยเขาพูดสองสามประโยค “เจียงชื่อ นายรีบออกไป ที่นี่ให้ฉันกับเมิ่งเหยนอยู่ต่อก็ได้แล้ว”
“อ้อ” เจียงชื่อลุกขึ้นยืน เตรียมที่จะออกไป ฉับพลันหันกลับมาพูดกับพันคู่ว่า “เช่นนั้นประธานกรรมการพัน เรื่องที่ดินที่หนานเฉิงฉันคิดว่าอีกไม่กี่วันค่อยพูดคุยกันเถอะ”
หืม?
พันคู่ชะงักไปครู่หนึ่ง มองไปที่เจียงชื่อสักหลายรอบ
คนที่สามารถรู้เรื่องนี้ได้มีแค่ไม่กี่คน อีกทั้งวันนี้ที่พันคู่มาที่นี่ที่สำคัญก็เพื่อเรื่องที่ดิน
เขาตระหนักได้ว่าเจียงชื่อไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน รีบเปิดปากพูดขึ้น “น้องชายท่านนี้ฉลาดปราดเปรื่อง มั่นคงน่าเชื่อถือ อยู่ต่อประชุมด้วยกันเถอะ”
อึก…
ถังแหวนโม่เกือบจะกระอักเลือด เจียงชื่อพูดในสิ่งที่ทำให้คนฟังไม่เข้าใจออกมาประโยคหนึ่ง ทำไมถึงได้ฉลาดปราดเปรื่อง มั่นคงน่าเชื่อถือเสียแล้ว? ไม่น่าเชื่อถือไปสักหน่อยไหม?
เจียงชื่อได้ประโยชน์แล้วยังแสดงออกน่าสงสาร จงใจถามติงจ้งว่า “เช่นนั้นคุณปู่ สรุปแล้วผมควรออกไปหรือควรจะอยู่ต่อดีล่ะ? ”
นี่ทำให้ติงจ้งโมโหอย่างยิ่ง
พันคู่ก็บอกให้เขาอยู่ต่อแล้ว ติงจ้งยังจะพูดอะไรได้อีก? นี่เจียงชื่อตั้งใจทำให้ติงจ้งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ติงจ้งกัดฟันพูด “แหวนโม่พวกนายออกไปก่อน เจียงชื่อนายอยู่ต่อ”
เจียงชื่อไหวไหล่ พูดกับถังแหวนโม่อีกครั้งว่า “นายก็ได้ยินแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากออกไป แต่มันไม่มีทางเลือกจริงๆ นี่ พี่เขยใหญ่ พวกนายไม่กี่คนก็ไปอยู่ข้างนอกรับลมก่อน รอสักพักฉันประชุมเสร็จแล้วจะออกมาอยู่ด้วย”
ดวงตาของถังแหวนโม่ต่างก็แดงแล้ว กระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรง หันหน้าจากไป
มาถึงนอกห้องประชุม ถังแหวนโม่ตะโกนไปทางด้านล่างบันได จากนั้นก็ทุบต่อยราวบันได
“เจียงชื่อ ไอ้สารเลว ช้าเร็วต้องมีสักวันที่ฉันจะทำให้แกตาย! ”
“ทำฉันโกรธแทบตายแล้วๆ! ”
ติงเฟิงเฉิงรีบขึ้นมากล่อมว่า “พี่เขย พี่ระงับความโกรธไว้ เจียงชื่อก็อวดดีได้สักพัก เชื่อฉัน ไม่ถึงสิบนาที มันก็ต้องจบเห่! ”
ถังแหวนโม่ขมวดคิ้ว “เพราะอะไร? ”
ติงเฟิงเฉิงเอ่ย “ง่ายมาก พี่เขยคิดให้ละเอียดสิ คนใหญ่คนโตของสิบบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ทำไมถึงมา? พวกเขาจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นเจียงชื่อที่เชิญมา เพียงแค่ได้รับจดหมายเชิญของติงเมิ่งเหยน ฝืนให้เกียรติไว้หน้าตระกูลติงของพวกเราถึงได้มา จากท่าทางหยิ่งยโสของพวกเขาก็เห็นได้ว่า แท้จริงแล้วก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับการประชุมครั้งนี้ ยิ่งไม่ได้เอาตระกูลติงมาใส่ใจ”
ถังแหวนโม่ชะงักนิ่ง “คนเขาไม่ให้ความสำคัญกับนาย นายยังมีความสุขอยู่อีก? ”
“ไม่ใช่…” ติงเฟิงเฉิงเกาหัว พูดขึ้น “ความหมายของฉันคือ คนเหล่านี้มาที่นี่เพื่อแสดงบารมีโดยเฉพาะ ไม่ได้มีแผนที่จะลงทุนอยู่แล้ว ก็พูดได้ว่า ประชุมการลงทุนครั้งนี้จะคว้าเงินไม่ได้สักแดงเป็นแน่ คนเขามาก็มาเป็นขั้นตอนเท่านั้น รอจนการประชุมเสร็จสิ้น ไม่มีเงินแม้สักแดงเดียว พวกเราก็ไม่ใช่ว่ามีเหตุผลเดิมให้เจียงชื่อไสหัวไปจากตระกูลติงหรือ? ถึงเวลานั้นไม่มีฐานะลูกเขยตระกูลติงอีก พี่อยากจะจัดการมันให้ตายอย่างไร ก็จัดการให้ตายอย่างนั้น! ”
ถังแหวนโม่พยักหน้าต่อเนื่อง เรื่องนี้พูดจนใจเขาสบายขึ้นมา
……
ภายในห้องประชุม ติงจ้งเลือกสรรปั้นแต่งคำพูดชั่วขณะ ฝืนเปิดสภาพการณ์ที่น่าอึดอัดนี้
ประธานกรรมการบริษัทฉางชิงแวนหยวนเหอตัดบทขึ้น “ไม่ต้องทำสิ่งที่ปั้นแต่งเหล่านั้น เข้าประเด็นสำคัญเลยเถอะ เวลาของคนเช่นพวกเรามีค่ามาก ไม่มีเวลาพิรี้พิไรกับคุณ”
“อ้อ ได้สิ” ติงจ้งพูดเข้าประเด็นสำคัญ “ทุกท่านต่างทราบว่าตระกูลติงของพวกเราได้โครงการปรับแก้ของกรมโยธาธิการและผังเมืองมา เพียงแต่เงินทุนของพวกเราตระกูลติงไม่เพียงพอ ต้องการความช่วยเหลือของทุกท่านจึงจะสามารถจัดการเงินลงทุนเริ่มแรกสำเร็จ…”
พันคู่ตัดบทว่า “เรื่องนี้พวกเรากระจ่างแจ้งดี ไม่ต้องพูดไร้สาระ พูดออกมาตามตรงว่าพวกคุณขาดเงินอีกเท่าไหร่ก็พอแล้ว”
ตรงขนาดนี้เชียว?
ติงจ้งกลืนน้ำลาย ขบคิดอยู่นาน ไม่รู้ว่าต้องพูดจำนวนตัวเลขอย่างไรให้เหมาะสม
พูดน้อยแล้วกลัวจะไม่พอ พูดมากไปก็กลัวคนใหญ่คนโตเหล่านี้ตกใจจนหนีไป
“พูดมาตามตรง อย่ามาดีดลูกคิดรางแก้วกับพวกเรา”
ติงจ้งพยักหน้า พูดกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “บริษัทของพวกเราต้องการ…เงินลงทุนเริ่มแรกสามร้อยล้าน”
สามร้อยล้าน แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวเลขเล็กๆ
ในที่นั้นไร้เสียง
ติงจ้งคิดว่าตนเองพูดออกมามากเกินไป รีบร้อนกล่าว “จริงๆ แล้วตัวเลขนี้ยังสามารถเจรจากันได้ ตระกูลติงของพวกเรายังสามารถ…”
พันคู่พูดอย่างเย็นชา “สามร้อยล้าน? เงินเล็กน้อยเท่านี้ตระกูลติงของพวกคุณยังหยิบออกมาไม่ได้? ตระกูลเล็กก็คือตระกูลเล็ก”
เขาแค่โบกมือ “เงินลงทุนเริ่มแรก ฉันเหมาทั้งหมดแล้ว การประชุมนี้แยกย้ายได้”