จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 56 คุ้มค่า
บทที่ 56 คุ้มค่า
“เข้าใจตอนนี้ก็ยังไม่สาย ต่อจากนี้ก็อย่าไปยุ่งกับคนจนอย่างเจียงชื่ออีก” เฉินจาวพูด
ข่าเมี่ยวรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด แล้วถาม “แต่พวกคุณทำผิดกฏหมาย คุณไม่กลัวคนข้างบนรู้เรื่องหรือ?”
เฉินจาว กางมือออก “คุณไม่พูด ฉันไม่พูด คนข้างบนจะรู้ได้อย่างไร? ยังมีใครที่สนับสนุนบริษัทเทียนติ่งแล้วรู้สึกเสียใจ(อีกทั้งยังมีใครกล้าไปหาเรื่องบริษัทเทียนติ่งล่ะ)”
ข่าเมี่ยวส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น ค่อยๆหยิบป้ายมาวางบนโต๊ะ
“เฉินจาว คุณรู้จักสิ่งนี้ไหม?”
“ห๊ะ นั่น…”
เฉินจาววางขาที่ไขว่ห้างอยู่ลง เข้าไปมองใกล้อย่างละเอียด ทั้งใบหน้าสลดลงในชั่วพริบตาเดียว
แน่นอนว่าเขารู้จักป้ายนี้ นั่นคือป้ายผู้บริหารระดับสูงเขตเจียงหนาน!
เฉินจาวเป็นเพียงพนักงานของศาล พูดอย่างตรงตรง เป็นเพียงพนักงานธรรมดาตัวเล็กๆ ในขณะอีกฝ่ายถือป้ายผู้บริหารระดับสูงเขตเจียงหนาน ฐานะทางสังคมของทั้งสองแตกต่างเหมือนฟ้ากับดิน
“ท่าน……ท่านคือ?”
ข่าเมี่ยวพูด: “โครงการของเจียงชื่อผู้บริหารระดับสูงให้ความสำคัญเป็นอย่างมากฉันถูกส่งมาจัดการเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของผู้บริหารระดับสูงที่นี่ใช้ไม่ได้ คุณเฉินจาวพูดถึงจะใช้ได้”
เฉินจาวตกใจกลัวจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว คุกเขาลงแล้วเอามือยันพื้นแล้วโน้มศีรษะลง
“พี่ใหญ่ ฉันผิดไปแล้ว ท่านอย่าพูดแบบนี้เลย”
“อยู่ต่อหน้าผู้บริหารระดับสูง คำพูดฉันเฉินจาวนับว่าอะไรล่ะ ยังจะคำพูดของฉันอีก คำพูดของฉันไม่นับประสาอะไรเลย”
“เนื่องจากโครงการนี้ผู้บริหารระดับสูงให้ความสำคัญตั้งแต่แรกเริ่ม ท่านก็พูดมาก่อนสิ แม้ว่าฉันจะมีร้อยหัวก็ไม่กล้าละเมิดความหมายของผู้บริหารระดับสูง”
ข่าเมี่ยวตั้งใจแกล้งเขา: “แต่นี่เป็นโครงการของบริษัทเทียนติ่ง ไม่ใช่คุณพูดว่าที่เขตเจียงหนานไม่มีใครกล้ายุแหย่บริษัทเทียนติ่งหรือ? หากผู้บริหารระดับสูงละเมิดบริษัทเทียนติ่งแล้ว จะไม่เป็นอันตรายหรอ?”
เฮ้ย!!!
เฉินจาวกำลังดุด่าอยู่ในใจ: บริษัทเทียนติ่งจะเทียบอะไรกับผู้บริหารระดับสูงล่ะ? ผู้บริหารระดับสูงอยากจะเล่นงานเขายังไงก็ทำได้!
เขาพูดอย่างสั่นๆ: “พี่ชาย ท่านอย่าเอาฉันไปหยอกล้อเลย บริษัทเทียนติ่งจะเก่งแค่ไหนก็ ไม่สามารถเทียบกับผู้บริหารระดับสูงได้”
“งั้นการตรวจสอบนี้……”
“ผ่านครับ ผ่านทั้งหมด!”
ข่าเมี่ยวยิ้ม “เรื่องนี้ผู้บริหารระดับสูงไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น…”
เฉินจาวตบที่อก “ท่านวางใจได้ ทางนี้ฉันจะไม่เปิดเผยความลับ”
“อือ งั้นก็ดี”
หลังจากทั้งสองคุยกันเสร็จแล้ว ก็เดินออกมาจากห้อง เมื่อมาถึงห้องโถง
ในขณะนี้เจียงชื่อ ซีเหมินจุ้นและคนอื่นๆต่างรอกันอยู่ที่ห้องโถงและคนของตระกูลติงเมื่อเห็นทั้งสองเดินออกมา ร้อนรนจนฝ่ามือก็มีเหงื่อออกมา
ซีเหมินจุ้นยิ้มและพูดกับเจียงชื่อ: “ผลการตรวจสอบออกมาแล้ว เจียงชื่อ คุณเตรียมตัวทีจะตายอย่างไร?”
เจียงชื่อยิ้มและไม่พูดอะไร
“เฉินจาวเดินมาถึงตรงหน้ากลุ่มคน กระแอมเบาๆ และเริ่มพูด: “เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาฉันกับคุณข่าเมี่ยวได้ตรวจสอบใบรับรองทรัพย์สินอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้ผลการตรวจสอบออกมาแล้ว”
มุมปากของซีเหมินจุ้นยกยิ้มขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดไว้
วันนี้เขาต้องการให้เจียงชื่อตายแบบไม่มีที่ฝังศพ
“ผลการตรวจสอบคือ……ผ่าน! ทรัพย์สินคุณข่าเมี่ยวทั้งหมดไม่มีปัญหา สามารถใช้ในการชำระหนี้ของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งได้”
เกิดความเงียบ
ไม่มีเสียงใด ๆ
ไม่กี่วินาทีต่อมา ติงเมิ่งเหยน ซูฉิน และคนอื่น ๆ ก็ส่งเสียงโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง!
ติงฉี่ซานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทรัพย์สินไม่มีปัญหา สามารถชำระหนี้สิน ฉะนั้นครอบครัวของพวกเขาไม่ต้องรับภาระหนี้จำนวนมากกับเจียงชื่อแล้ว ในที่สุดหนี้ก้อนนี้ก็สามารถยุติลงได้
หน้าของเจียงชื่อไม่มีการเปลี่ยนแต่อย่างใด ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้
มีเพียงแค่ซีเหมินจุ้นเท่านั้น……
เหมือนกับว่าเขาได้มองเห็นวันสิ้นโลก มองไปที่เฉินจาวอย่างงงงวย รอยยิ้มเมื่อกี้ที่บนใบหน้านั้นแข็งทื่อ อารมณ์ตกลงไปถึงขีดต่ำสุด
มีการจัดการวางแผนมาอย่างดีแล้ว ทำไมผลลัพธ์ถึงออกมาเป็นเช่นนี้?
“เป็นไปไม่ได้ ต้องเกิดปัญหาบางอย่างแน่นอน”
ซีเหมินจุ้นถาม: “เฉินจาว คุณได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือยัง?”
เฉินจาวเงยหน้าและพูดอย่างมั่นใจ: “ฉันทำงานนี้มาสิบกว่าปี ฉันตรวจสอบไม่ละเอียด? ถ้าคุณมีความไม่เห็นด้วย สามารถไปหาพนักงานคนอื่นมาตรวจสอบอีกรอบก็ได้”
“คุณ!” ซีเหมินจุ้นประหลาดใจทำไมเฉินจาวที่ขี้ขลาดอย่างกับหนู จึงกล้าที่จะพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะมีการหนุนหลังที่ใหญ่
“เฉินจาว สมองคุณเลอะเลือนหรอ? คุณรู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่? คุณต้องการเป็นศัตรูกับบริษัทเทียนติ่งหรือ?”
เฉินจาวพูดเสียงต่ำ “ขอโทษครับ ฉันแค่ทำสิ่งต่างๆด้วยความยุติธรรมและเที่ยงธรรมเท่านั้น ถ้าแบบนี้นับว่าเป็นศัตรูกับบริษัทเทียนติ่ง ฉันเพียงแค่เสียสละตัวเองเพื่อคุณธรรมเท่านั้น”
“มึงมันบ้าไปแล้ว?”
ซีเหมินจุ้นที่เป็นผู้ใหญ่สุขุมมาโดยตลอดถูกบังคับให้พูดคำหยาบ เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเดินทางมาถึงจุดนี้ได้
ข่าเมี่ยวถือโอกาสพูด: “เมื่อการตรวจสอบผ่าน งั้นพวกเราก็ดำเนิการชำระหนี้เถอะ หลังจากจ่าย 1.2พันล้านไปแล้ว เจียงชื่อก็สามารถนำบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งกลับไปได้”
“ไม่ได้ ฉันไม่ยอม” ซีเหมินจุ้นต้องคิดที่จะบีบบังคับเจียงชื่อให้ตายด้วยการต้องชำระ หนี้1.2พันล้าน เป็นไปได้อย่างไรที่จะขายบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งมูลค่า 3พันล้านในราคา 1.2 พันล้านได้?
เฉินจาวกล่าวอย่างเย็นชา: “ตามกระบวนการคุณไม่มีสิทธิ์คัดค้าน หากคุณยืนกรานที่จะต่อต้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจียงชื่อก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ชำระคืนเงินกู้ ทั้งยังสามารถได้รับบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งด้วย คุณแน่ใจแล้วหรือที่จะทำแบบนี้?”
“นี่…….”
ซีเหมินจุ้นสั่นไปทั้งตัว ความรู้สึกที่ฉลาดแล้วกลับถูกเล่นงานนั้นไม่สบอารมณ์นัก แต่ตอนนี้เขาถูกบีบบังคับจนไม่สามารถตอบโต้ได้
เฉินจาวพูด: “ตอนนี้ คุณยังคิดว่าฉันอ่อนแอเกินไปที่จะต่อสู้กับคุณหรือไม่?”
ซีเหมินจุ้นไม่มีคำที่จะพูด
“จากนี้ เชิญทุกท่านมาดำเนินการชำระหนี้กับฉันให้เสร็จสิ้นเถอะ” เฉินจาวกล่าว
ขณะที่เฉินจาวกำลังดำเนินการ ข่าเมี่ยวก็นำบัตรทองม่วงมังกรฟีนิกซ์ออกมา โอนเงินที่อยู่ข้างใน 1.2 พันล้านให้กับบริษัทเทียนติ่ง
จากนั้น ซีเหมินจุ้นได้ลงนามและเป็นตัวแทนของบริษัทเทียนติ่ง ยอมรับการชำระหนี้ 1.2 พันล้านของข่าเมี่ยว
อีกทั้งเจียงชื่อยังสามารถนำบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งกลับได้อย่างราบรื่น
ด้วยเหตุนี้ ข่าเมี่ยจึงกลายเป็นประธานกรรมการของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งในปัจจุบัน
ด้วยราคา 1.2 พันล้าน ได้บริษัทที่มีมูลค่า 3 พันล้าน กลายเป็นตำนานในโลกธุรกิจเมืองเจียงหนาน
หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง ข่าเมี่ยวและเจียงชื่อก็แยกกัน และออกจากศาล
พรรคพวกของเจียงชื่อก็จากไปเช่นกัน
เหลือเพียงซีเหมินจุ้นนั่งอยู่บนเก้าอี้เหล็กในพื้นที่พักผ่อน มองไปข้างหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
ตุ๊ดตุ๊ดตุ๊ดตุ๊ด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“สวัสดีครับ ประธานซุน…..”
“ซีเหมินจุ้น คุณทำบ้าอะไร! ฉันขอให้คุณช่วยกำจัดเจียงชื่อ คุณนำบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งทั้งหมดไปเล่นหมดแล้ว! ฉันโมโหจะตายอยู่แล้ว คุณมันไอ้……”
เมื่อเผชิญหน้ากับการดุด่าของซุนหย่งเจิน ซีเหมินจุ้นก็ไม่ได้ยินอะไรเลย
ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร
ศึกครั้งนี้ เขาแพ้อย่างน่าสมเพช