จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่119 ความยุติธรรม?
บทที่119 ความยุติธรรม?
ต่างพูดกันว่าเสือร้ายนั้นไม่กินลูกตัวเอง ความรักของแม่นั้นแสนจะยิ่งใหญ่ คนนั้นไม่ว่าจะร้ายกาจขนาดไหน ก็ไม่ร้ายกาจกับลูกของตัวเอง
แต่ความจริงแล้วฮัวเสี่ยงหรงได้ทำลายบรรทัดฐานค่าของคนไปแล้ว
เดิมทีเธอก็ไม่ได้สนใจไยดีลูกสาวของตน เธอสนใจแต่เพียงจะได้รับอะไรที่เพิ่มขึ้น หาเงินได้มากขึ้น
ถ้าหากให้คนอื่นรู้ว่าเธอเคยแต่งงาน เคยมีลูกสาวแล้วล่ะก็ ภาพของหญิงสาวที่แสนสวยงามบริสุทธิ์ก็จะหายไป แล้วจะหลอกเงินจากผู้ชายพวกนั้นได้อย่างไร?
ดังนั้น พูดถึงฮัวเสี่ยงหรงแล้ว ลูกสาวของอดีตสามีนั้น ก็เหมือนกับเป็นศัตรูของเธอ!
เน่ร์เจิงเป็นทหารที่มีสมรรถภาพสูง สภาพจิตใจแข็งแกร่ง เรื่องมาถึงขนาดนี้ ขณะที่รู้ว่าฮัวเสี่ยงหรงพูดจาร้ายกาจกับลูกสาวตัวเอง ความโมโหภายในใจก็อดที่ลุกเป็นไฟไม่ได้
“เธอมันแม่ใจร้าย แม้แต่ลูกสาวคุณเองยังใจร้ายได้ขนาดนี้ คุณยังเป็นคนอยู่อีกมั้ย?”
“เฮ้ คุณพูดได้อย่างไรกัน?” ฮัวเสี่ยงหรงพูดอย่างลนลาน “ลูกสาวอะไรกัน? คุณอย่าพูดมั่ว ๆ ฉันไม่เคยมีลูกสาว!”
เน่ร์เจิงยิ้ม ฮึฮึ “ช่างเถอะ เสี่ยวหวินเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
ฮัวเสี่ยงหรงดีใจ “ไม่เกี่ยวข้องกันก็ดีแล้ว ฉันก็ไม่อยากจะเกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณพวกสวะ”
เธอยกมือขึ้นข้างหนึ่ง นิ้วมือทั้งห้านิ้วสวมใส่แหวนเพชรทั้งสิ้น
“เห็นแล้วหรือยัง?”
“แหวนเพชรนะ! ห้าเม็ด! ตอนนี้ฉันเป็นหญิงสาวในฝันของชายทุกคน”
“เพียงแค่ฉันพูดคำหวานออกไปว่า พี่ชายที่แสนดี อีกเดี๋ยวเงินจำนวนมากมายก็มาถึงมือฉันในทันที ทุกวันในห้องทำงานของฉันมีดอกไม้นับร้อยส่งมาให้ คุณรู้มั้ย?”
ฮัวเสี่ยงหรงพูดกับเน่ร์เจิงต่ออีกว่า “คุณดูตัวคุณสิ มองไปไหนก็เป็นได้แค่พ่อครัว ยังเป็นพ่อครัวมือเดียวอีก ทั้งชีวิตคงไม่มีอนาคต ถ้าหากในตอนนั้นไม่ใช่ฉันที่ตัดคุณคนไร้ประโยชน์ออกไปจากชีวิต เกรงว่าตอนนี้คงเป็นแม่บ้านของครอบครัวที่น่าสงสาร วัน ๆ คงอยู่กับฟืนถ่าน ข้าวสาร น้ำมัน น้ำชา น้ำส้ม เครื่องปรุงจำพวกนั้น”
“เน่ร์เจิง คุณว่าคุณทำไมถึงไร้ประโยชน์อะไรอย่างนี้?”
เน่ร์เจิงไม่เก่งเรื่องคำพูดหยาบคาย แม้ว่าจะโกรธ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้ฮัวเสี่ยงหรงอย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เน่ร์เจิงมีนั้น เทียบไม่ได้กับฮัวเสี่ยงหรงเลย
ฮัวเสี่ยงหรงพูดว่า “พอได้แล้วเรื่องไม่เป็นเรื่องฉันก็จะไม่พูดถึงอีกแล้ว เดิมทีอยากจะมากินอะไรสักหน่อย ตอนนี้โมโหจนท้องอิ่มแล้ว”
เน่ร์เจิงพูดด้วยเสียงที่เย็นชา “โมโหจนอิ่มแล้ว คุณก็ไปได้แล้วสิ”
“ไป? ฉันจะไปทำไม? คนที่ควรจะไปคือคุณ!”
“อะไร?”
ฮัวเสี่ยงหรงนั่งไขว่ห้าง มองเน่ร์เจิงด้วยสายตาเย็นชา “คุณมีสถานะอะไร ฉันมีสถานะอะไร? ตอนนี้ฉันเป็นศิลปินที่โด่งดังแห่งเมืองเจียงหนาน มีงานแสดงมากมายที่เชิญฉันไปถ่าย? ฉันจะยอมให้พวกคุณสองพ่อลูกสร้างปัญหาได้อย่างไร?”
ถ้าหากมีวันหนึ่งพวกนักสืบพบว่าพวกคุณยังอยู่ งั้นความพยายามของฉันในช่วงหลายปีมานี้ก็จะสูญเปล่าน่ะสิ?”
เธอใช้นิ้วมือเคาะไปที่โต๊ะเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ดังนั้น ฉันขอให้พวกคุณสองพ่อลูก ทำเพื่อฉัน ออกจากเมืองเจียงหนาน ออกไปยิ่งไกลยิ่งดี และไม่ต้องกลับมาอีกตลอดกาล!”
“คุณ!!!”
เน่ร์เจิงกัดฟันด้วยความโกรธ ไร้เหตุผล ไร้เหตุผลอย่างไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน
เพราะกลัวว่าเรื่องหลอกลวงของตัวเองจะถูกเปิดเผย บังคับให้เน่ร์เจิงสองพ่อลูกออกไปจากเมือง ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นหญิงที่มีจิตใจชั่วร้ายยิ่งกว่าอสรพิษเสียอีก
“นี่คือร้านค้าของฉัน”
“ยิ่งกว่านั้น ที่นี่เป็นถิ่นของฉัน”
“ฉัน จะไม่ไปอย่างแน่นอน!”
ฮัวเสี่ยงหรงหัวเราะคิกคิก ออกมา “พอได้แล้ว พอได้แล้ว อย่าแสร้งพูดถึงความชอบธรรม สิ่งที่คุณคิดไว้ในใจขั้น ฉันก็ยังไม่เข้าใจ?ไม่ใช่ว่าอยากจะได้เงินหรือไง วางใจได้ ฉันไม่ให้คุณต้องไปมือเปล่าหรอก”
พูดพลาง นางมองไปยังหลิวฉงผู้จัดการส่วนตัว พร้อมกับส่งสายตา
หลิวฉงเข้าใจในทันที หยิบปากกาหมึกดำและสมุดเช็คออกมาจากกระเป๋า ส่งให้เน่ร์เจิง