จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่54 ของมืองสอง
บทที่54 ของมืองสอง
เมิ่งจื้อติ้งมั่นใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องยอมมาแต่งงานด้วยอย่างแน่นอน นี่เป็นโอกาสที่ดี ไม่เพียงได้แต่งงานกับครอบครัวที่‘ร่ำรวย’ หนำซ้ำยังสามารถช่วยครอบครัวจัดการหนี้ก้อนโตได้อีกด้วย
มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะปฏิเสธ
แต่ว่า……
ติงเมิ่งเหยนยิ้มและส่ายหัว พร้อมกับผลักเช็คกลับไป “ต้องขอโทษจริงๆ ถ้าหากฉันต้องใช้ชีวิตกับคนที่ไม่มีคุณภาพอย่างนายไปตลอดชีวิต ฉันยอมฆ่าตัวตายไปกับหนี้ก้อนโตเลยดีกว่า”
หมายความว่า—–ความตายยังดีกว่าการต้องอยู่กับนาย
เมิ่งจื้อติ้งโกรธ ฉีกเช็คออกเป็นเสี่ยงๆ เขายืนขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่โหดเหี้ยมว่า “เธอมันผู้หญิงสำส่อน ของชำรุดมือสอง ฉันเห็นถึงความสวยอันน้อยนิดของเธอ ก็เลยมอบโอกาสให้ คิดว่าตัวเองมีดีมากงั้นสิ หยิ่งผยองงั้นเหรอ เธอคิดว่าฉันจะมองเป็นของมีค่าหายากเหรอ?เชิญเธอกับสามีที่ไร้ประโยชน์เน่าตายไปด้วยกันเลย ของชำรุดมือสอง!”
ติงฉี่ซานต้องการที่จะขัดขวางไว้ แต่ถูกเมิ่งจื้อติ้งผลักออก
เขาชี้นิ้วไปที่ติงฉี่ซานแล้วพูดว่า “ไอ้แก่ แกยังจะคิดทำงานกับพ่อฉันงั้นเหรอ?เหอะ เหอะ รอโดนไล่ออกได้เลย!”
เมิ่งจื้อติ้งกระแทกประตูอย่างแรงและเดินออกไป
ภายใน เหลือเพียงติงเมิ่งเหยนและติวฉี่ซานสองพ่อลูก ทั้งสองมองหน้ากันไม่พูดอะไรออกมา
ติงฉี่ซานด่าอย่างดุเดือดว่า “ดูสิ่งที่เธอทำซะสิ!ฉันพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้เจอคนอย่างเสี่ยวเมิ่ง หาหนทางที่ดีในการปลดหนี้ แล้วเธอล่ะ?เสียแรงเปล่าที่ฉันตั้งใจช่วยเหลือ แต่ยังกลับทำให้คนอื่นเขาต้องขุ่นเคืองใจอีก เมิ่งเหยน นี่เธอกำลังบังคับให้พ่อตายๆไปซะทีใช่ไหม?”
ติงเมิ่งเหยน ก้มหัวลง ไม่มีคำพูดใดๆ
ก่อนหน้านี้ถูกเมิ่งจื้อติ้งพูดจาให้อับอายต่อหน้าสาธารณชน ก็เสียใจมากพอแล้ว ตอนนี้แม้แต่คนใกล้ชิดก็พลอยที่จะกล่าวว่าตนเองไปด้วยอีก ในฐานะที่เป็นเพียงผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง เธอไม่สามารถที่จะกลั้นเก็บมันไว้ได้จริงๆ
น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากเบ้าตา
เธอไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอร้องไห้ออกมาเสียงดัง สะอึกสะอื้นอยู่บนโต๊ะ
“ร้องไห้ สักแต่ร้องไห้ มันจะมีประโยชน์อะไร?”
ติงฉี่ซานตบโต๊ะด้วยความโกรธ เขาคิดวิธีอะไรไม่ออกทั้งนั้น
จากนั้นก็มีสายโทรศัพท์จากซูฉินโทรเข้ามา พูดว่า “ตาแก่รีบกลับบ้านมาได้แล้ว ซีเหมินพาคนจากศาลมาที่หน้าประตู สั่งให้เราชำระเงินกู้ภายในเวลาที่กำหนด เราควรทำยังไงกันดี?”
จะทำยังไง?
คิดอะไรไม่ออกแล้ว!
เดิมทีหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน แค่เพียงติงเมิ่งเหยนยอมตกลงที่จะหย่าร้าง ก็สามารถที่จะปลดหนี้อย่างราบรื่นไปแล้ว อีกทั้งจะได้ไต่ระดับความสัมพันธ์กับผู้อำนวยการอีกด้วย
ตอนนี้มันกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว จบเห่กัน
ติงฉี่ชานชี้ไปที่ติงเมิ่งเหยนพร้อมกับพูดว่า “ฉันจะไม่พูดเหตุผลอะไรกับแกอีกแล้ว วันนี้ฉันจะทิ้งคำพูดนี้ไว้ หากแกยังยืนยันที่จะคบกับเจียงชื่อ งั้นแกก็คบกับมันไปพร้อมกับหนี้เก้าร้อยล้าน ไม่ต้องลากฉันกับแม่แกเข้าไปด้วย ถึงเวลานั้น ฉันยินดีที่จะตัดขาดความเป็นพ่อลูก แล้วก็จะไม่ชดใช้เงินแทนแกด้วย!”
ทุกๆคำพูดเหมือนกับมีด ที่คอยทิ่มแทงหัวใจ
ติงฉี่ซานสะบัดมือเดินออกไป เขารีบกลับไปที่บ้าน ติงเมิ่งเหยนร้องไห้อยู่ตรงนั้นสักครู่ จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินจากไป
จากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็กลับไปที่วิลล่าหลังเก่า
เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว หน้าประตูมีคนมาขวางไว้อยู่ เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ใช่เสือหมอบที่มาจากบริษัทรับจ้างทวงหนี้ หากแต่เป็นคนดำเนินการที่ทางศาลนั้นส่งมา
“ครั้งนี้มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ?ติงฉี่ซานก้าวขึ้นมาถาม
ซีเหมือนขยับแว่นของเขา แล้วพูดอย่างแผ่วเบาว่า “โปรดให้ฉันได้แนะนำ ด้านข้างฉันคนนี้คือ คนดำเนินการที่ทางศาลนั้นส่งมาจัดการข้อพิพาทเรื่องหนี้สิน —คุณเฉินจาว
“ในมุมมองของ‘ผู้ปกครอง’ของครอบครัวคุณ แม้แต่คนที่มาจากบริษัทรับจ้างทวงหนี้ก็ยังหนีไปได้ บริษัทของเราจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันตัวเองบางประการ คุณเฉินจาวคือคนที่ทางศาลส่งตัวมา หากคุณยังกล้าที่จะลงมืออีกล่ะก็ ตอนนั้นการจ่ายหนี้ก็คงไม่ง่ายดายแบบนี้แล้วนะ”
ติงฉี่ซานพยักหน้าอย่างแรง“ครับครับครับ ฉันทราบแล้วฉันทราบแล้ว พวกเราจะไม่ลงมือทำอะไรอย่างแน่นอน พวกเราแค่รู้สึกว่าหนี้เก้าร้อยล้านมันช่างมากมายซะเหลือเกิน มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะจ่ายรวดเดียวหมด?”
เฉินจาวยืนขึ้น “ในข้อนี้ ทางศาลก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งครับ มันไม่ได้หมายความว่าพวกคุณจะต้องใช้หนี้มากมายมหาศาลขนาดนั้นในรวดเดียว วันนี้ที่มาหาพวกคุณ ก็เพื่อที่จะมอบการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมให้ครับ
“พวกคุณเตรียมว่าจะจ่ายเงินคืนอย่างไร จะคืนเงินเมื่อไหร่?คืนกี่ครั้ง?ในแต่ละครั้งคืนเท่าไหร่?ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นควรคำนวณอย่างไร?ทั้งนี้ควรระบุทุกอย่างให้ชัดเจน”
ติงฉี่ซานหน้ามืดคล้ำ นี่ไม่น่าอายงั้นเหรอ?
เขาจะเอาเงินจากไหนไปปลดหนี้?
แม้ว่าจะเตรียมแผนการได้ถูกต้องแล้ว แต่มันก็ยังเตรียมการไม่ได้อยู่ดี บอกอีกฝ่ายไม่ได้อีกว่าทั้งชีวิตนี้จะคืนให้หมดรึเปล่า?ยิ่งไปกว่านั้นทั้งชีวิตอาจจะคืนได้ไม่ถึงเก้าร้อยล้านด้วยซ้ำไป
ลังเล
เฉินจาวมองไปรอบๆแล้วถามว่า “ลูกหนี้—เจียงชื่อไปไหนล่ะ?”
พอพูดถึงเจียงชื่อ ติงฉี่ซานก็โกรธเป็นอย่างมาก “เด็กนั่นไม่รู้ว่าหนีไปไหนแล้ว”
“ไม่รู้งั้นเหรอ?” เฉินจาวพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าคิดว่าจะหนีไปได้” หากคิดที่จะเบี้ยวหนี้ นั้นคือการเพิ่มโทษเข้าไป แนะนำให้คุณรีบนำตัวเจียงชื่อออกมา มิฉะนั้นวันนี้ทุกคนจะต้องไปรายงานตัวที่สำนัก”
“คุณ….” ติงฉี่ซานได้แต่กัดฟันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไป
เจียงชื่ออกไปแต่เช้า ไม่ได้บอกด้วยว่าจะไปไหน ประเด็นสำคัญคือมือถือก็ปิดเครื่องตลอด แล้วจะไปหาได้ยังไง?
ติงฉี่ซานแอบสงสัยว่าเจียงชื่อนั้นอาจจะหนีไปแล้วจริงๆก็เป็นได้
หากเจียงชื่อนั้นหนีไป หนี้ทั้งหมดก็จะตกเป็นของบ้านติงฉี่ฉาน คิดมาถึงตอนนี้ ติงฉี่ซานก็อยากจะตายแล้ว
“เจียงชื่อนะเจียงชื่อ ฉันรู้สึกสังเวชใจกับนายจริงๆ”
ในขณะนี้เอง
ตื้ดตื้ดตื้ด ตื้ดตื้ดตื้ด โทรศัพท์ของซีเหมินจุ้นนั้นดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกหน้าที่โทรเข้ามา
เขารับโทรศัพท์แล้วถามกลับไปอย่างสุภาพว่า “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร?”
“เจียงชื่อ”
เจียงชื่อ?เจียงชื่อ!
ในขณะนี้สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ซีเหมิน นั่นคือเจียงชื่อคนที่ทุกคนคิดว่าเขาหลบหนีไป ทำไมเขาถึงโทรหาซีเหมินกันนะ?เขาต้องการจะทำอะไร?
ซีเหมินจุ้นถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “เจียงชื่อ คุณโทรหาฉันมีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
“นายไม่ได้อยากให้ฉันคืนเงินเหรอ?”
“ทำไม นายมีเงินคืนงั้นเหรอ?ฉันคิดว่านายไม่มีเงินเลยหลบหนีไปซ่อนตัวแล้วซะอีก”
ในอีกด้านของโทรศัพท์ ก็มีน้ำเสียงที่ดูไม่แยแสและพูดยั่วยุไปว่า “ตอนนี้ฉันอยู่ที่ศาล นายรีบมา พวกเรามาคิดคำนวณชำระหนี้กันเถอะ”
ซีเหมินจุ้นตะลึงไป มาคิดคำนวณชำระหนี้?พูดแบบนี้ คือเจียงชื่อมีเงินคืนแล้วงั้นเหรอ?
เขาคิดมาตลอดว่าเจียงชื่อนั้นไม่น่าใช่คนธรรมดา แต่เขาก็ไม่คิดว่าเจียงชื่อจะสามารถเตรียมเงินชำระหนี้ได้ภายในเวลาสองวัน เขาทำได้ยังไงกัน?”
คืนเงินจริงๆหรือว่าจะหลอกให้ออกจากที่นี่เพื่อฉวยโอกาสลงมือ?
“เจียงชื่อ นายมั่นใจนะว่าอยู่ที่ศาล? ถ้าฉันไปที่ศาลแล้วไม่เจอนาย ฉันจะเพิ่มโทษให้เยอะขึ้น ชัดเจนนะ?”
“นายมาก็จะได้ชัดเจนแล้วไม่ใช่รึไง?”
คลิก โทรศัพท์วางสายไป
ปัจจุบันทุกคนต่างดูตกตะลึงกันไปหมด สิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่คิดไว้นั้นไม่เหมือนกันสักนิด
นอกจากติงเมิ่งเหยน ทุกคนคิดว่าเจียงชื่อจะกลัวจนหนีไปเสียแล้ว เป็นหนี้ผู้อื่นมาทั้งชีวิต แต่ท้ายที่สุดกลับเป็นคนไปที่ศาลก่อนเอง แถมยังโทรมาว่าจะคืนเงินเองด้วยซะงั้น
เหอเหอ ใครมันจะไปคาดถึงล่ะ?
เพื่อป้องกันไม่ให้เจียงชื่อหลอก ซีเหมินจุ้นและชี้นิ้วไปที่ตระกูลติง พร้อมพูดว่า “เนื่องจากเป็นการชำระหนี้ ดังนั้นให้คนของตระกูลติงมาเป็นพยานร่วมกัน”
บอกให้พวกเขาไปเป็นพยานแต่แท้จริงแล้วกลัวว่าพวกเขานั้นจะหนีไป
เฉินจาวพยักหน้า เห็นด้วยกับคำแนะนำของซีเหมิอนจุ้น ดังนั้นซีเหมือนจุ้น เฉินจาวและตระกูลติงพากันแยกย้ายไปขึ้นรถสองกัน แล้วมุ่งหน้าไปที่ศาล
บนรถ ติงเมิ่งเหยนกำมือและอธิษฐานเงียบๆในรถ :เจียงชื่อ ขอให้นายพูดแล้วทำได้จริงๆด้วยเถอะ!