จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่55 สิ่งที่ต้องการคือชีวิต ไม่ใช่หนี้
บทที่55 สิ่งที่ต้องการคือชีวิต ไม่ใช่หนี้
เมื่อทุกคนมาถึงที่ศาล ก็พอเจียงชื่อกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เหล็กในพื้นที่พักผ่อน
เมื่อเห็นทุกคนมา เจียงชื่อก็ลุกขึ้นขยับเสื้อผ้าเล็กน้อย แล้วเดินไป
“พวกนายมากันแล้วเหรอ?”
ซีเหมินจุ้นตกตะลึง เขาไม่คิดว่าเจียงชื่อจะมารออยู่ที่นี่จริงๆ
พูดตามความเป็นจริง เจียงชื่อไม่สามารถที่จะจ่านเงินเก้าร้อยล้านได้ด้วยตัวเขาเอง ต้องไปขอให้คนมาช่วยเท่านั้น แต่ว่าทุกคนในเมืองก็ไม่น่าจะมีใครให้ได้ ซุนหย่งเจินก็ดูแลอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนช่วยเหลือเจียงชื่อ
คิดไปคิดมา ซีเหมินจุ้นก็คิดไม่ออกจริงๆว่าเจียงชื่อหาวิธีไหนมาจ่ายค่าหนี้ที่ค้างชำระไว้ได้
เขาถาม “นายคิดหรือยังว่าจะคืนเงินยังไง?”
เจียงชื่อเหลือบไปมองนาฬิกาและกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ฉันนัดคนไว้แล้ว อีกสิบกว่านาทีน่าจะถึงและเขาจะจ่ายหนี้ให้ฉัน โอ้ ใช่สิ ไม่ใช่เก้าร้อยล้านนะ แต่เป็นหนึ่งพันสองร้อยล้าน เมื่อชำระหนี้ครบหมดแล้ว ฉันต้องการบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งคืน”
ดวงตาของซีเหมินจุ้นนั้นแคบลง วิธีการที่เจียงชื่อใช้นั้นแตกต่างจากที่เขาคิดเป็นอย่างมาก บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งมีมูลค่ากว่าสามพันล้าน
ตราบใดที่เจียงชื่อนั้นฉลาดมากพอ ก็จะสามารถหาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่เต็มใจช่วยเขายึดครอง แล้วเพียงส่งต่อบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งให้กับคนคนนั้นก็โอเคแล้ว
แม้ว่าบริษัทในเจียงหนานจะให้ซุนหย่งเจินเป็นคนดูแล แต่บริษัทในเมืองอื่นๆไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น
ใช้เงินหนึ่งพันสองร้อยล้านซื้อบริษัทจิ้นเมิ่งในราคาสามพันล้าน ธุรกิจนี้มันช่างคุ้มค่ามากนัก
ในจุดๆนี้ ซีเหมินจุ้นได้คิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เขายิ้มอย่างเย็นชาพร้อมพูดว่า “เจียงชื่อ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดวางแผนอะไรอยู่ แต่นายน่ะหยิ่งผยองเกินไปหน่อยนะ คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนของนายงั้นเหรอ?”
“จะบอกอะไรให้นะ บางเรื่องมันก็ไม่ได้ง่ายแบบที่นายคิด”
เมื่อทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออก คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาล้อมรอบชายที่สวมแว่นสีทอง
ชายคนนั้นคือ ขวดน้ำ
เจียงชื่อยิ้มแล้วยิ้มอีก เขาก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “ฉันอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับคนที่เต็มใจช่วยผมปลดหนี้ คุณ‘ข่าเมี่ยว’ เขาเป็นลูกครึ่งจีน-ฝรั่งเศส มีทรัพย์สินที่บริษัทหลายพันล้าน”
ซีเหมินจุ้นมองไปที่ข่าเมี่ยวด้วยสายตาที่เย็นชา พร้อมกับพูดเสียงแผ่วเบาว่า :“คุณข่าเมี่ยว คุณต้องการที่จะช่วยเจียงชื่อชำระหนี้ แน่นอนว่าบริษัทเราก็พร้อมที่จะสนับสนุนคุณ เพียงแต่ว่าเราต้องการตรวจสอบใบรับรองหลักฐานทรัพย์สินของคุณเสียก่อน หากตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา บริษัทของเราก็พร้อมให้ดำเนินการชำระเงินในทันที”
“ไม่มีปัญหา” ข่าเมี่ยวตอบกลับในทันที
ผู้ดำเนินการศาล—เฉินจาวเดินเข้ามาและกล่าวว่า :“งั้นขอเชิญคุณข่าเมี่ยวมากับผมครับ เพื่อเป็นการส่วนตัว ขอให้คนอื่นๆรออยู่ตรงนี้”
เฉินจาวพาข่าเมี่ยวเดินจากไป เหลือแต่คนอื่นๆที่นั่งรอในห้องโถงอย่างใจจดใจจ่อ
ในช่วงเวลานี้เอง เจียงชื่อเดินไปที่ด้านหน้าของติงเมิ่งเหยน ลูบไล้บนใบหน้าอันบอบบางของเธอ สงสารเธออย่างจับใจแล้วพูดว่า “เธอร้องไห้งั้นเหรอ”
ติงเมิ่งเหยนยิ้ม “ไม่เป็นไร แค่ทรายมันเข้าตาน่ะ”
“ขอโทษ ที่ทำให้เธอต้องเดือดร้อนไปกับฉันด้วยเลย”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกนะ ฉันเต็มใจเอง”
ติงฉี่ซานเมื่อเห็นเช่นนี้ ก็ตะคอกว่า “เต็มใจงั้นเหรอ เหอเหอ หากวันนี้ข่าเมี่ยวสามารถช่วยชำระหนี้ได้ก็ไม่เป็นไร แต่หากไม่ได้ล่ะก็ แกกับไอ้น่าสมเพชนี่ก็ไสหัวออกไปซะ!”
ซูฉินตบไปที่ติงฉี่ซาน “ตาแก่ กำลังพูดจาไร้สาระอะไรอยู่?”
“ฉันจะพูดไร้สาระได้ยังไง อย่างฉันมันเรียกว่าคนที่เก่งในการปกป้องตัวเองต่างหาก!”
ในขณะที่พวกเขากำลังส่งเสียงดังอยู่นั้น ซีเหมือนจุ้นก็ได้เดินเข้ามาและกล่าวแดกดันเล็กน้อยว่า “เจียงชื่อ ความคิดของนายนี่ดีมากๆ ใช้บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งเป็นเหยื่อล่อให้คนอื่นเข้ามาจ่ายเงินแทน จากนั้นก็ให้บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งเป็นค่าตอบแทน ด้วยวิธีนี้อีกฝ่ายก็จะได้รับบริษัทที่มีมูลค่ากว่าสามสิบล้านไปและนายเองก็ปลดหนี้ได้ ชนะด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
เจียงชื่อยักไหล่ “เพียงแค่รู้สึกน้อยใจกับบริษัทเทียนติ่งของคุณจังเลย ดูสูญเสียเงินไปโดนเปล่าประโยชน์“
“โอ้ ดูเหมือนว่านายอยากจะเอาชนะนะ?”
“ทำไมจะไม่ล่ะ?”
ซีเหมินจุ้นกล่าวว่า:“นายอย่าลืมไปนะว่า ที่นี่คือศาล ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการของศาลเท่านั้น ไม่ใช่ว่านายบอกว่ามีเงิน ก็จะสามารถชำระเงินได้ หากการตรวจสอบไม่ผ่าน เงินของนายมีปัญหา แม้มีเงินก็จ่ายไม่ได้หรอกนะ”
พูดประโยคนี้ออกไปก็เจาะจงพอแล้ว
วิธีการของเจียงชื่อ ซีเหมินจุ้นเดาออกตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นเขาเองก็เตรียมการมาก่อนหน้านี้
ผู้ที่บริหารทำการตรวจสอบ—เฉินจาว ผู้ถูกควบคุมโดยซีเหมิอนจุ้น การตรวจสอบนี้จะไม่ผ่านอย่างแน่นอน ต่อให้เฉินจาวจะมีเงินมากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเจียงชื่อชำระหนี้ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น วิธีการของเจียงชื่อจึงล้มเหลวแน่นอน
ติงเมิ่งเหยนได้ยินคำขู่เช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ “คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?”
ซีเหมินจุ้นยิ้มออกมา“ฉันทำไมงั้นเหรอ?ในกิจการธุรกิจ ฉันก็เพียงแค่ใช่วิธีที่เหมาะสมมากที่สุดเท่านั้นเอง พวกคุณ อย่าคิดเลยว่าจะชำระหนี้นี้ได้ ”
เขาจงใจเอี้ยวตัวไปข้างหูของเจียงชื่อแล้วพูดว่า:“ฉันจะเปิดเผยความลับอะไรให้นายฟัง น้องชายแท้ๆของนายเจียงโม่น่ะ ก็ถูกฉันใช้วิธีนี้บังคับให้เขาตายเหมือนกัน”
ทันใดนั้นเอง ความโกรธของเจียงชื่อก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ใช้หนี้บังคับให้รู้สึกสิ้นหวัง ในขณะเดียวกันก็ทำให้นายไม่มีช่องทางในการจ่ายเงิน นายต้องรับความทุกข์ทั้งกายและใจในทุกๆวัน
ชะตากรรมสุดท้ายก็คือ—ความตาย
เจียงโม่ ก็ถูกซีเหมินจุ้นใช้วิธีนี้บีบบังคับให้เขาต้องตาย ตอนนี้ก็ถึงตาของเจียงชื่อแล้ว
เจียงชื่อกำลังระงับความโกรธในใจที่พลุ่งพล่านและพูดอย่างแผ่วเบาว่า :“ซีเหมินจุ้น บัญชีนี้ฉันจำเอาไว้แล้ว ฉันจะต้องทำให้แกรู้สึกว่า อะไรที่เรียกว่า‘การเสียใจในภายหลัง’”
“เสียใจงั้นเหรอ?ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ดูแลตัวเองก็ก่อนดีปะ วันนี้หากนายจ่ายนี้ไม่ได้ นายก็จบเห่ ครอบครัวของนายก็จบเห่ คิดจะสู้กับฉันงั้นเหรอ?นายยังอ่อนหัดไปหน่อยนะ ”
……
ห้องเล็กๆที่เป็นอิสระในศาล
ผู้ดำเนินการเฉินจาวพาข่าเมี่ยวเข้าไป คนอื่นๆที่ติดตามมาให้อยู่ด้านนอก จากนั้นก็ปิดประตูลง
ทั้งสองต่างนั่งเผชิญหน้ากัน
ข่าเมี่ยวเปิดกล่อง หยิบหลักฐานที่เกี่ยวข้องออกมา
“คุณเฉิน นี่เป็นหลักฐานทางทรัพย์สินของผม คุณสามารถเอาไปดูได้เลย”
เฉินจาวยิ้มออกมา เขาไม่แตะต้องหลักฐานเลยแม้แต่น้อย เขานั่งไขว่ห้างและพูดออกไปว่า “ใบรับรองทรัพย์สินของคุณไม่ผ่านคุณสมบัติ เชิญออกไปได้”
“ห้ะ?”
ข่าเมี่ยวขมวดคิ้ว ถามไปว่า :“คุณเฉิน คุณยังไม่ได้หยิบข้อมูลมาดูเลยนะ”
“ฉันไม่จำเป็นต้องดูหรอก”
“ไม่ดูแล้วรู้ได้ยังไง ว่าหลักฐานทางทรัพย์สินของผมไม่ผ่านคุณสมบัติ?”
“เพราะสุดท้ายแล้ว…ฉันเป็นคนตัดสินไงล่ะ”
เฉินจาวมองไปที่ข่าเมี้ยวแล้วยิ้มเยาะออกมา ทุกอย่างในห้องนั้นเงียบสนิท
ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ข่าเมี้ยวเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เฉินจาวกับซีเหมินจุ้นเป็นพวกเดียวกัน ไม่ว่าข่าเมี่ยวจะมีเงินมากแค่ไหน จะเพิ่มเติมหลักฐานมากเพียงใด ก็ไม่มีทางที่จะผ่านการตรวจสอบได้
หากไม่ผ่านการตรวจสอบ เขาก็จะไม่สามารถช่วยเจียงชื่อได้
เฉินจาวพูดขู่ว่า “ข่าเมี่ยว คุณรู้ไหมว่าทำไมบริษัททั้งหมดในเจียงหนานถึงปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือ แต่ท้ายที่สุดก็มาพบคุณผู้ที่ไม่ด้อยู่ในเจียงหนานงั้นเหรอ?แต่มันเป็นเพราะว่ามันเป็นหนี้ของบริษัทเทียงติ่งไง บริษัทเทียนติ่งเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในเจียงหนาน ใครก็ไม่กล้าหาเรื่องหรอก”
“สิ่งที่บริษัทเทียนติ่งต้องการมิใช่การจ่ายหนี้ แต่เป็นชีวิตของเจียงชื่อต่างหาก พูดขนาดนี้ คุณเข้าใจไหม?”
ข่าเมี่ยวพยักหน้า “หากคุณจะพูดแบบนี้ ฉันก็เข้าใจทุกอย่างแล้วล่ะ