จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่63 เครื่องทุ่นแรงเกรดเอส
บทที่63 เครื่องทุ่นแรงเกรดเอส
ทุกคนกินข้าวต่อ
โทรศัพท์ของเจียงชื่อสั่น และเปิดออกมาเห็นข้อความที่เฉิงไห่ส่งมา“ เครื่องทุ่นแรงเกรดระดับเอสส่งถึงแล้วนะ รอรับได้เลย”
เขาเก็บโทรศัพท์ไว้ และไม่แสดงสีหน้าอะไร
ตอนนี้ เจิ้งยุ่นได้ถามอย่างกะทันหัน: “เจียงชื่อ วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดยายของนาย นายคงไม่มามือเปล่าใช่มั้ย?”
เจียงชื่อลูบไปที่จมูก: “ของขวัญที่ฉันเตรียมไว้แล้ว อีกไม่นานก็ถึงแล้ว”
“อีกสักคู่” ฮ่าฮ่าฮ่าๆ “ไม่ใช่นายไม่มีปัญญาซื้อของขวัญ แล้วตั้งใจที่จะหาข้ออ้างนะ?”
ทุกคนปรากฏสายตาที่ดูถูก
เจิ้งยุ่นส่ายหัว: “ก็ไม่แปลกนะ ผู้ชายที่ไม่มีรายได้ และยังต้องให้ภรรยาเลี้ยง จะมีเงินซื้อของขวัญได้ไง ฉันผิดเอง การซื้อของขวัญอาจจะแพงไปสำหรับนายนะ”
คนทั้งโต๊ะเอามือปิดปากไว้ และทุกคนดูถูกเจียงชื่อหนักขึ้น
ซูฉินฟังต่อไปไม่ได้แล้ว และได้ถามเจียงชื่อไปว่า: “ฉันว่านายก็มามือเปล่าเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรไปว่าคนอื่น”
“ฉันหรือ?”
“ของขวัญของฉันใกล้จะถึงแล้ว”
ผู้หญิงคนหนึ่งถามเจิ้งยุ่นไปว่า: “เจิ้งยุ่นนายซื้อของขวัญอะไร?”
เจียงชื่อได้จัดระเบียบของเสื้อผ้าตัวเอง และพูดอย่างเท่ว่า: “ของที่ฉันซื้อให้คุณยายเป็นสิ่งค้าใหม่ล่าสุดของบริษัทบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง เครื่องทุ่นแรง! ”
ปู๊ด……
เจียงชื่อเกือบที่จะสำลัก ของขวัญเหมือนกันหรือ?
เจิ้งยุ่นอธิบายว่า: “ตอนนี้บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งถูกเถ้าแก่
ใหญ่ซื้อไปแล้ว ตามที่ฉันรู้เถ้าแก่คนนี้รวยระดับประเทศ และเถ้าแก่คนนี้เป็นผู้นำในการวิจัย และประดิษฐ์สินค้าใหม่ล่าสุดของบริษัทเครื่องทุ่นแรง เป็นสิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคที่ช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น!”
“ฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง สินค้านี้ยังไม่ได้ว่างขายนะ แต่ฉันมีคนรู้จักที่อยู่ข้างในแผนก ฉันถึงได้สินค้าเกรดบีแบบทดลองนี้มาก่อน ได้ข่าวว่าสินค้านี่เกรดเอส แค่ทำท่าทางเครื่องนี้ก็สามารถรู้ได้แล้วว่าเจ้าตัวต้องการทำอะไร”
“ถึงจะเป็นเครื่องเกรดบี แต่ก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่างแล้ว ฉันยืนยันได้ว่านอกจากฉันแล้วจะไม่มีใครได้เครื่องที่ดีแบบนี้มาก่อนแน่นอน”
ได้ยินที่เจิ้งยุ่นพูดเยินยอตัวเองแบบนี้ ผู้หญิงจะกลายเป็นคนที่เชื่อคนง่ายไปหมดแล้ว
คนหนึ่งในนั้นได้พูดว่า: “ตอนนี้ชื่อเสียงของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งเริ่มโด่งดังขึ้น เจิ้นยุ่น ฉันได้ข่าวว่าบริษัทของพ่อนายและบริษัทจิ้นเมิ่งกำลังเจรจาการค้ากันอยู่ ต่อไปอาจจะได้เจอเถ้าแก่ใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งก็ได้ ถึงตอนนั้นพาพวกเราไปด้วยนะ”
เจิ้นเมิ่งยิ้ม “ไม่มีปัญหา”
เขาใช้สายตาที่เย็นชามองไปที่เจียงชื่อ “มีคนบางกลุ่มที่ชอบเอาความสามารถของตัวเองไปเปรียบเทียบกับความด้อยของคนอื่น สังคมเป็นแบบนี้แหละ คนบางคนอยู่ที่ที่สูง และนับวันก็ยิ่งจะสูงขึ้น และบางคน ถูกคนกดขี่เหยียบย่ำทั้งชีวิต”
“ฉันเจิ้นยุ่นต่อไปฉันจะสืบทอดธุรกิจของพ่อฉันเอง และจะร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง และจะได้เจอเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทนี้ เจียงชื่อ เรื่องพวกนี้ชาตินี้นายคงไม่มีวันทำได้”
ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ได้หัวเราะเยาะ”ไม่ใช่แค่ทำไม่ได้นะ หรืออาจจะคิดยังไม่กล้าคิดใช่มั้ย?”
เจียงชื่อเบื่อหน่ายและส่ายหัว ก้มหน้ากินข้าวของตัวเอง
เถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังหรือ?
คนนั้นไม่ใช่เจียงชื่อหรือ?
คนพวกนี้มีตาหามีแววไม่ ยังไม่หยุดที่จะพูดเยินยอตัวเอง พวกเขาไม่รู้เลยว่าบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งเป็นสมบัติของเจียงชื่อ และเถ้าแก่ใหญ่ที่พวกเขาอยากเจอหนักหนาก็นั่งอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
ตอนนี้มีคนตะโกนมาว่า: “เครื่องทุ่นแรงของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งถึงแล้ว”
ใบหน้าเจิ้นยุ่นปรากฏรอยยิ้ม “ของขวัญของฉันถึงแล้ว ทุกคนต้องทึ่งกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้แน่”
เขาไปรับของที่หน้าประตู เปิดกล่องมาดูเป็นเครื่องทุ่นแรงที่มีทรงที่ทันสมัยมาก ทำให้เปิดจักษุสัมผัส
แต่……
บนเครื่องเครื่องทุ่นแรงมีตัวอักษรเอส ไม่ใช่บี หมายความว่าเครื่องนี้มีคุณภาพระดับเอสไม่ใช่ระดับบี
เจิ้นยุ่นขมวดคิ้ว เขาจองเครื่องแบบบีมานะ ทำไมถึงส่งแบบเอสมา?
พนักงานของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งสับสนหรือ?
บทที่เขากำลังงงอยู่ ทุกคนได้มาล้อมรอบเขาเอาไว้ เครื่องที่ทันสมัยและยังไม่ว่างขายในตลาดแบบนี้ เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน
พวกเขารีบมาถ่ายรูป
เจิ้นยุ่นไม่สนใจอะไรแล้ว เขาดื่มด่ำกับคำชมเชยต่างๆ เขาได้รับเกียรติถึงที่สุด
เขาให้พนักงานเข็นเครื่องทุ่นแรงเข็นไปตรงหน้าของยาย และก้มตัวลง: “ยายตระกูลซูนี่คือเครื่องทุ่นแรงที่ทันสมัยที่สุดในยุคนี้ ครื่องทุ่นแรงกรดเอส ยายลองใช้ได้เลย”
ยายมีโรคความจำเสื่อมที่หนัก ฟังไม่ค่อยออก
แต่ซูหงเหวินและซูฉินดีใจมาก พวกเขาได้อุ้มยายขึ้นไปนั่งที่เครื่องทุ่นแรง
เครื่องทุ่นแรงนี้นั่งลงไปแล้วรู้สึกนุ่มมาก นั่งแล้วไม่อยากที่จะลุกเลย ยายนั่งลงไปแล้วได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทำให้ซูหงเหวินและซูฉินดีใจไปด้วย
ซูหงเหวินพูด: “เจิ้นยุ่น ของขวัญที่นายซื้อมามันแพงมาก ฉันไม่รู้จะขอบคุณนายอย่างไงดี”
เจิ้นยุ่นแอบดีใจข้างใน
ได้ใจของซูหงเหวินแล้วเป็นอะไรที่ดีมาก ต่อไปถ้าจะขอลูกสาวเธอแต่งงานก็จะง่ายขึ้น
เจิ้นยุ่นพูดต่อไปว่า”เครื่องทุ่นแรงนี้ไม่ใช่แค่เก้าอี้ธรรมดา เครื่องนี้ยังมีฟังก์ชันอีกหลายอย่าง และสามารถที่จะวิเคราะห์และจำลองได้ สามารถที่จะวิเคราะห์ได้ว่าคนที่นั่งอยู่บนเครื่องนี้ต้องการทำอะไร ต้องการพูดอะไร และช่วยทำให้เสร็จ ผมจะลองสาธิตให้พวกคุณดูตอนนี้เลยนะครับ”
เจิ้นยุ่นกำลังที่จะหาปุ่มเปิดปิด เพราะเขาจำได้ว่าเครื่องเกรดบีมีปุ่มเปิดปิดอยู่ แค่กดลงไปเครื่องก็จะทำงานทันที
แต่เขาหาจนทั่วแล้ว ยังหาไม่เจอ
ตอนนี้เจิ้นยุ่นที่กำลังกระวนกระวาย เจียงชื่อได้เดินมาและชี้ไปที่เครื่องทุนแรงพูดว่า: “เครื่องนี้ใช้ลายนิ้วมือในหารเปิดปิดเครื่อง”
พูดจบ เจียงชื่อได้ใช้ลายนิ้วมือของตัวเองไปเปิดเครื่อง ทันใดนั้นเครื่องได้ทำงานทันที
สิ่งที่เหลือเชื่อได้เกิดขึ้น เครื่องทุ่นแรงได้วิเคราะห์สิ่งที่ยายจะพูดได้อย่างแม่นยำและเครื่องได้ทำการพูดคุยกับคนอื่นโดยตรง โดยที่ยายไม่ต้องพูดอะไรออกมาเลย
สามารถที่จะลดของภาระยาย และยังสามารถทำให้คนอื่นฟังในสิ่งที่ยายต้องการจะสื่อสารได้ดีขึ้นด้วย
ซูหงเหวินยิ้มกริ่ม “ดีมาก เครื่องนี้ดีจริงๆ ถ้ามีเครื่องนี้แล้ว ต่อไปฉันจะคุยกับคุณแม่ได้ง่ายขึ้น”
สายตาชื่นชมของทุกคนมองมาที่เจิ้นยุ่น
เจิ้นยุ่นได้ เงยหน้า
ขึ้นอย่างหยิ่งผยอง: “เป็นไงละ เห็นความแต่งตัวหรือยัง? นายเมื่อเทียบกับฉันแล้ว เหมือนฟ้ากับดิน”
ยังพูดไม่จบ ซูหงเหวินได้ถามด้วยความสงสัยว่า”แต่…..เจียงชื่อ นายรู้ได้ไงว่าเครื่องนี้ใช้ลายนิ้วมือในการเปิดปิดเครื่อง?”
เจิ้นยุ่นพูดอย่างไม่ชอบใจ “ก็แค่เปิดด้วยความบังเอิญมากกว่า”
“ก็คือ…….”
ที่นั่นยุนพูดอะไรไม่ออก เขาก็ไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไร
เจียงชื่อใช้มือไปจับตรงที่จับของเครื่อง และไออย่างเขินอาย“คือว่า….ที่จริงแล้วเครื่องทุ่นแรงเครื่องนี้…..ฉันเป็นคนซื้อให้ยายเอง”