จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 342 รถหรูราคาห้าสิบล้าน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนก็เข้ามาล้อมเจียงชื่อกับติงเมิ่งเหยนและเชิญพวกเขาทั้งสองออกไปจากร้านตามคำสั่งของผู้จัดการ
เจียงชื่อสองมือล้วงกระเป๋าแล้วพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ทำไม ลูกค้าที่มาซื้อรถด้วยเช่นกัน แต่คุณจะเลือกปฏิบัติต่อลูกค้าสองมาตรฐานใช่ไหม?”
ผู้จัดการร้านยิ้มแล้วมองไปที่เจียงชื่อ “อย่างคุณ จะมาซื้อรถ? คุณรู้ไหมว่ารถที่นี่ราคาเท่าไหร่? เงินเดือนคุณเท่าไหร่เหรอครับ ถึงคิดว่าซื้อรถที่นี่ได้?”
หยางกวางค่อยๆ ลุงจากพื้นแล้วจ้องเขม็งไปที่เจียงชื่อและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเขาบอกว่าจะมาซื้อรถ งั้นให้เขาเข้าไปดูรถในโชว์รูมกันเลย”
หืม?
เซี่ยจื้อเหม่ยกับผู้จัดการร้านมองไปที่หยางกวางพร้อมกัน ทั้งสองไม่เข้าใจว่าทำไมทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ความจริงแล้วหยางกวางไม่ได้เกิดความเมตตา เขาเพียงต้องการจะแก้แค้นให้สำเร็จเท่านั้น
ถ้าปล่อยเจียงชื่อไปแบบนี้เขาจะไม่ถูกทำร้ายร่างกายเสียเปล่าหรือ?
แต่ถ้าปล่อยให้เจียงชื่อเข้าไป นั่นก็หมายความว่าหยางกวางจะมีโอกาสได้เอาชนะเขา ถึงแม้จะสู้ด้วยพละกำลังไม่ได้ แต่เขาสามารถใช้ความมั่งคั่งมาบดขยี้เจียงชื่อได้
สำหรับผู้ชาย ไม่ว่าจะแข่งอะไรกัน สุดท้ายก็คือการวัดกันด้วยเงินทองที่ตนมีไม่ใช่หรือ?
จากนั้นรปภ. ทั้งหมดก็ถอยกลับไป
หยางกวางกับเจียงชื่อและคนอื่นๆ ก็เดินเข้าไปในโชว์รูมเพื่อดูรถข้างในร้าน
รถยนต์ที่นี่ทุกคันต่างก็เป็นรถหรูกันทั้งนั้น เพียงแค่เห็นราคาก็สามารถทำให้คนตกใจกลัวแล้ว
ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถซื้อรถราคาแพงขนาดนี้ได้อย่างแน่นอน
ต่อให้เป็นหยางกวางยังต้องซื้อรถอย่างเสียดายเงินที่มีเลย
ติงเมิ่งเหยนเดินไปด้วยและรู้สึกปวดหัวไปด้วย แม้รถในนี้จะดีมาก แต่ราคามันแพงเกินไป พวกเธอไม่มีปัญญาซื้อได้ แล้วจะมาดูทำไมกัน?
หลังจากเดินไปรอบๆ
หยางกวางมองไปที่เจียงชื่ออย่างดูถูกและพูดด้วยน้ำเสียงอันไม่เป็นมิตร “ดูหมดแล้วสินะ? เป็นไง ซื้อคันไหนดี?”
ทุกคนในสถานการณ์ต่างก็หัวเราะออกมา
ซื้อ?
เอาอะไรมาซื้อ?
ด้วยเงินเดือนที่น่าสงสารของเจียงชื่อหรือ เขาไม่สามารถแม้แต่จะซื้อชุดดีๆ ใส่ด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับรถหรูอย่างรถเฟอร์รารี
ผู้จัดการร้านถึงกับเยาะเย้ย “คุณผู้ชายท่านนี้ครับ คุณคงไม่ได้หมายความว่ารถของเราไม่ใช่สเปคของคุณนะครับ? แต่ก็จริงเหมือนกัน สำหรับคนอย่างคุณ รถ ซื้อรถเฌอรี่บ้านๆ สักคันน่าจะเหมาะกว่า สำหรับรถเฟอร์รารีคุณไม่เหมาะจริงๆ นะครับ”
แม้จะเป็นคำพูดประชดประชัน แต่มันก็เป็นความจริง
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจแล้วดึงแขนเจียงชื่อเบาๆ “กลับกันเถอะ”
น้ำเสียงของเธอช่างดูน่าเศร้ามาก
ซึ่งภาพนี้ได้ทำให้หยางกวางรู้สึกสะใจมาก เพราะเขาได้เห็นสาวสวยที่เคยเป็นเทพธิดาสำหรับเขาต้องมาใช้ชีวิตที่รันทดแบบนี้
ใครให้คุณอยากปฏิเสธผมเอง
ใครให้คุณเย็นชาต่อผม
ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ? กับชีวิตที่แต่งงานกับคนไร้ค่าแบบนี้!
รู้สึกเสียใจแล้วใช่ไหม?
แต่แล้ว……
ดูเหมือนว่าเจียงชื่อไม่ได้มีทีท่าว่าจะออกไปจากที่นี่เลย เขากลับถามติงเมิ่งเหยนว่า “รถในนี้คุณชอบไหม?”
ติงเมิ่งเหยนถึงกับผงะ “หือ?”
เจียงชื่อพูดอีกครั้ง “คุณชอบรถคันไหน เดี๋ยวผมซื้อให้คุณ”
“นี่มัน……”
ติงเมิ่งเหยนกระซิบพูดเบาๆ ว่า “รถที่นี่ถูกสุดก็ราคาสองล้านกว่าหยวนแล้วนะ แต่เงินเดือนของคุณแค่…… ไม่พอหรอกมั้ง?”
เจียงชื่อยิ้มอย่างลึกลับ “คุณเลือกตามใจชอบเลย ส่วนเรื่องเงินผมจัดการเอง”
ไม่รู้ว่าเขาเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจแล้วมองไปรอบๆ สุดท้ายเธอชี้ไปที่รถที่ธรรมดาที่สุดในนี้ “งั้นเอาคันนั้นสิ”
นั่นคือรถที่ถูกที่สุดในโชว์รูมแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสเปกหรือเครื่องยนต์ก็จะเป็นรุ่นที่ธรรมดาที่สุด
ติงเมิ่งเหยนคิดในใจว่ารถคันนี้น่าจะล้านกว่าหยวน ถ้าไม่ไหวจริงๆ เธอก็แค่กัดฟันออกเงินซื้อมันเอง จะได้ไม่ทำให้เจียงชื่อเสียหน้า
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ……
ผู้จัดการปรบมือและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้วิสัยทัศน์ดีมากเลยนะครับ มองแวบแรกก็เห็นรถตัวท็อปของเรา รถคันนี้อาจดูธรรมดาไปหน่อย แต่อันที่จริงแล้ววัสดุที่ใช้นั้นแพงที่สุดในรถทุกคันของเรา อีกอย่างประสิทธิภาพยังแข็งแกร่งที่สุดด้วยนะครับ ส่วนราคานั้น ห้าสิบล้านครับ!”