จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 360 สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนที่รัก
เส้นประสาทในการปกป้องตัวเองของซีเหมินจุ้นได้หยุดทำงานลง ในตอนนี้ไม่ว่าเจียงชื่อจะถามอะไรเขาก็ตอบตามนั้น
ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง เขาก็อธิบายทุกอย่างที่เขารู้ รวมทั้งเหตุผลที่ซุนจ้ายเย้นทำไมถึงมาช่วยซุนหย่งเจินจัดการเรื่องนี้
เจียงชื่อนั่งอยู่เงียบๆ และความตื่นเต้นฉายแววในดวงตาของเขา
ในฐานะผู้ติดตามของเจียงชื่อมาโดยตลอด มู่หยางอีก็เข้าใจอารมณ์ของเจียงชื่อเป็นอย่างดี เขาจึงยิ้มถามว่า “ลูกพี่ครับ ลูกพี่กระหายความท้าทายอีกแล้วเหรอครับ?”
เจียงชื่อแสร้งไอเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร
มู่หยางอีจึงพูดต่อ “ลูกพี่ครับ ให้ผมส่งคนไปจับผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเตี๋ยมาไหมครับ ถ้ามีเสี่ยวเตี๋ย ซุนจ้ายเย้นก็จะไม่ช่วยซุนหย่งเจินอีก ลูกพี่ยังสามารถคิดบัญชีกับมันได้ด้วย มันเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะครับ”
เจียงชื่อครุ่นคิดอยู่สักพัก
“ส่งคนไปหาเสี่ยวเตี๋ยก็ดีเหมือนกัน แต่อย่าใช้วิธีนี้เป็นเครื่องมือคุกคามคนอื่นเลย จะให้ผมทำตัวเหมือนซุนหย่งเจินได้ยังไง?”
มู่หยางอีจึงถามต่อ “แล้วลูกพี่คิดว่าจะจัดการยังไงครับ?”
มุมปากของเจียงชื่อยกขึ้นเล็กน้อย “รู้จักเรื่องราวของขงเบ้งที่จัดการกับเจียงเหวยในสามก๊กไหม?”
มู่หยางอีได้แต่หน้าแดงอย่างทำตัวไม่ถูก
เขาเป็นชายชาติทหารคนหนึ่งที่ไม่ค่อยเปิดอ่านหนังสือเลย
เจียงชื่อกลอกตาแล้วพูดต่อ “ว่างๆ หาหนังสือมาอ่านด้วยนะ อย่าดื่มแต่เหล้าแล้วใช้กำลังต่อสู้ไปวันๆ ขงเบ้งรู้ว่าเจียงเหวยนั้นมีฝีมือมาก เขาจึงวางแผนเอาชนะเจียงเหวย สุดท้ายทำให้เจียงเหวยยอมทำตามอัครมหาเสนาบดีอย่างขงเบ้งทุกอย่าง และยังกลายเป็นเสาหลักของชาวสู่ฮั่นอีกด้วย”
“ซุนจ้ายเย้นเป็นคนมีพรสวรรค์ ถ้าใช้เสี่ยวเตี๋ยเป็นตัวประกันมันจะทำให้เราไร้จรรยาบรรณ”
“สิ่งที่ผมต้องการคือการเอาชนะเขาให้รู้แล้วรู้รอด เขาจะได้ยอมแพ้และยอมมาเป็นคนของเราอย่างเต็มใจ!”
มู่หยางอีพยักหน้าตอบ “กระผมเข้าใจแล้วครับ”
“เอาล่ะ พวกคุณลงไปได้แล้ว”
“ครับ”
หลังจากทุกคนออกไป เจียงชื่อลุกขึ้นยืนแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความคาดหวังที่เต็มไปในหัวใจของเขา
เขาคาดหวังในการเผชิญหน้ากับซุนจ้ายเย้นอีกครั้ง
และยังหวังว่าจะมียอดฝีมืออีกคนมาเป็นผู้ช่วยของเขา!
……
ตะวันโด่งฟ้า ณ หอการแพทย์ตระกูลซิน
หลายวันที่ผ่านมานี้ ซินจื่อหมินได้ออกไปทำธุระนอกเมืองและไม่ได้กลับมาในวันสองวันนี้ ดังนั้นทั้งคลินิกเหรินจื้อจึงเหลือซินยุ่นคนเดียวที่คอยจัดการกิจการ เธอจึงรู้สึกเหนื่อยเป็นพิเศษ
แม้เธอจะเป็นคนฉลาดหัวไว แต่ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
ในทุกๆ วันนี้ เธอจะตั้งตารอชายคนนั้นที่จะเข้ามาในคลินิกของเธอ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะให้เขามาช่วยงาน แต่ขอเพียงได้เจอหน้าซินยุ่นก็จะรู้สึกมีความสุข
“บอกว่ายังเหลือวิชาหนึ่งที่ยังไม่ได้สอนเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมหลายวันผ่านไปก็ไม่เห็นเขากลับมาถามเลย?”
“หรือว่าเขาเข้าใจเองแล้ว?”
ในขณะที่เธอกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย เธอก็เห็นชายร่างกำยำคนหนึ่งก้าวลงจากรถแท็กซี่จากที่ไกล เขาก็คือเจียงชื่อ!
ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น หัวใจของซินยุ่นเต้นเร็วขึ้น
เธอรีบถอดเสื้อคลุมสีขาวออกทันที จากนั้นเดินไปด้านหลังแล้วพูดกับพนักงานของเธอว่า “เดี๋ยวถ้ามีคนมาถาม บอกเขาว่าฉันจ่ายยาอยู่ในห้องนะ สักพักจะออกมา”
“อ้อ ครับ”
ทันทีที่ซินยุ่นเข้าไปหลังห้อง เจียงชื่อก็เดินเข้ามาในคลินิก
เขามองไปรอบๆ และไม่เห็นซินยุ่นอยู่ในนี้ หรือว่าวันนี้เธอไม่มีงาน?
“คุณครับ เจ้าของคลินิกไปไหนแล้วครับ?”
“จัดยาอยู่ข้างในครับ เดี๋ยวก็ออกมา”
“ครับ”
เจียงชื่อนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนที่เก้าอี้ที่เขานั่งจะอุ่น เขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น ประตูห้องด้านหลังถูกเปิดออก และร่างที่งดงามก็เดินออกมา
เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงพลีท ผิวพรรณที่ขาวเนียน และรองเท้าส้นสูงคริสทัลคู่หนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปร่างอันงดงามสะดุดตาเป็นพิเศษ
รวมไปถึงใบหน้ารูปไข่ที่เปล่งประกายราวกับนางฟ้าที่ตกลงมายังโลก
คนไข้ในคลินิก หมอผู้จ่ายยา ทุกคนต่างมองไปที่เธออย่างไม่กะพริบตา