จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 368 คนหน้าซื่อใจคด
ผู้หญิงคนนั้นตะโกนออกมาว่า “ลูกของฉันจะตายอยู่แล้ว พวกท่านอย่าชักช้ากันอยู่เลย รักษาได้ก็รีบมาเถอะ!”
สือควนขมวดคิ้วพร้อมกับถามทุกค “ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไร?”
ท่ามกลางฝูงชน เจียงชื่อเกือบจะหลุดขำออกมาเข้าให้ สือควนคนนี้ควรใช้คำว่า’หน้าซื่อใจคด’คงจะเหมาะที่สุด
ในเมื่อเขาพูดมาถึงขั้นนี้และเด็กเองก็รีบร้อนที่จะได้รับการรักษาด้วย
ถ้าลองได้ก็ต้องยอม มีเหตุผลอะไรที่จะไปหยุดยั้งกันล่ะ?
ที่เขาทำขนาดนี้ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้พฤติกรรมของสือเหวินปิ่งนั้นน่าเชื่อถือกว่าเดิม ไม่เพียงแต่ยกยอปอปั้นสือเหวินปิ่ง แต่ยังช่วยรักษาหน้าตาของเหล่าแพทย์ๆ นี้ด้วย
ถึงจะเป็นคนปลิ้นปล้อนขนาดนี้ สือควนนี่เป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ
ฝูงชนจะพูดอะไรได้ล่ะ?ต่างพากันพยักหน้า
“รักษาเขาเถอะ จะสำเร็จหรือไม่ก็ลองดูก่อน”
“ใช่แล้ว พวกเราสนับสนุนคุณชายสือ”
สือควนถอนหายใจพร้อมกับขยับร่างกาย “ไหนๆ แล้ว ฉันก็อยากจะขอบคุณทุกคนที่อดทนต่อความเย่อหยิ่งของเขา ขอบคุณครับ”
“เฮ้ คุณสือเกรงใจเกินไปแล้ว!”
“หมอที่ดีมีฝีมือและมีคุณธรรมอย่างคุณหมอสือนั้นมีไม่มากเลยครับ”
ละครนี้สมบูรณ์แบบ
ด้วยการสนับสนุนจากทุกคน สือเหวินปิ่งเดินไปที่เตียงคนป่วยราวกับคนมีเกียรติ แสร้งทำเป็นเหยียดมือจับชีพจร ศีรษะของเขายกขึ้น45องศา ทำเหมือนกับว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
สักพัก เขาก็ดึงมือออกและยิ้ม
“โรคนี้ ไม่ใช่เรื่องยากเลย”
ไม่ยาก?
ทุกๆ คนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึง สือควนกับซินยุ่นยังท้อแท้ต่ออาการป่วยนี้ แต่คำว่าไม่ยากนั้นหลุดออกมาจากปากเขา?
สือควนขมวดคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เหวินปิ่ง ผู้เชี่ยวชาญมากมายอยู่ที่นี่ อย่าพูดเรื่องไร้สาระเพื่อทำให้คนอื่นหัวเราะ”
สือเหวินปิ่งพูดเบาๆ “พ่อ ท่านวางใจเถอะ ผมรู้อยู่แก่ใจ”
จากนั้นเขาขอให้คนนำกระดาษและปากกามาเขียนใบสั่งยา
“เตรียมยาตามใบสั่งนี้”
คนของเขาได้ทำการเก็บรวบรวมใบสั่งยา คนอื่นนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ ท่าทางดูลึกลับยิ่งนัก
แน่นอนว่าต้องดูไม่ได้อยู่แล้ว
เพราะนั่นเป็นเพียงยาสามัญประจำบ้านที่ใช้หล่อเลี้ยงจิตใจ หากไม่ดื่มก็ไม่เป็นไร แต่หากดื่มไป มันล้วนแต่มีประโยชน์และไม่เป็นอันตราย
เดิมทีเด็กก็ไม่ได้ป่วยอยู่แล้ว แค่ทำตัวและท่าทางเป็นดื่มยารักษาโรคเพื่อให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเขาได้รับการรักษาแล้วก็เท่านั้น
ใช้เวลาไม่นาน ยาก็มาถึง
สือเหวินปิ่งยกตัวเด็กขึ้นมา จากนั้นป้อนยาใส่ปากของเขา
เด็กกลืนและดื่มมันและดื่มมันลงไปทั้งหมด
หลังจากพักเป็นเวลาสี่ห้านาที แม้ว่าใบหน้าของเด็กยังจะดูเหลืองอยู่ แต่ดวงตากลับเปล่งประกายและกระฉับกระเฉงอย่างเห็นได้ชัด
“แม่ครับ ผมไม่เจ็บแล้ว!”
เด็กกระโดดจากเตียงคนป่วยลงมา พร้อมกับกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของผู้หญิงคนนั้น
รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว กล่าวขอบคุณอย่างไม่หยุดยั้ง
“คุณชายสือ ท่านช่วยชีวิตลูกของฉันเอาไว้ ท่านนี่แหละคือหมอเทพที่เกิดมาในโลกมนุษย์แท้จริง”
“ต่อให้ฉันทำงานหนักแค่ไหน ฉันก็คงไม่สามารถตอบแทนบุญคุณท่านได้หมด!”
สือเหวินปิ่งโบกมือ “ไม่ต้องเกรงใจหรอก พวกเราเป็นหมอกันทั้งนั้น มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องช่วยชีวิตคนและรักษาผู้บาดเจ็บ ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอกครับ”
ทุกคนต่างยกนิ้วให้
“ดีมากเลยหมอ หมอที่ดีควรเป็นแบบนี้”
“พ่อเป็นเสือลูกไม่เป็นหมาหรอก คุณสือยอดเยี่ยมมีความสามารถ ลูกชายก็ต้องยอดเยี่ยมมีความสามารถเช่นกัน”
“ตระกูลสือนี่สิที่สมควรที่จะเป็นตระกูลยารักษาอันดับหนึ่ง!”
สือเหวินปิ๋งนั้นสุขสมหวัง ใบหน้าของเขานั้นเปล่งประกาย เขามองไปที่ซินยุ่นอย่างตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ พร้อมกับเยาะเย้ยอยู่ภายในใจ ต่อจากนี้ ตระกูลซินจะไม่มีที่ยืนอีกต่อไป!