จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 372 กลยุทธ์ไส้ศึก
ค่ำคืน มืดแล้ว หัวใจ เย็นแล้ว
สือควนท่องยุทธภพมาเป็นเวลาหลายสิบปี นับเป็นครั้งแรกที่เรือล่มในรางน้ำ
คำนวณไปคำนวณมา สุดท้ายก็ทำให้ตัวเองเดือดร้อนจนได้
ชื่อเสียงที่สร้างมา ก็ถูกทำลายหมดสิ้น
จบแล้ว ทุกอย่างจบแล้ว!
หมอทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็มองสือควนด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม
ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว ด่าเขาก็เป็นเสนียดปากของตัวเองเปล่าๆ
มีคนถอนหายใจ “เห้อ เมื่อกี้ฉันพึ่งนินทาพูดแต่เรื่องแย่ๆ ของหมอซิน คิดๆ แล้วสมควรตายจริงๆ ที่แท้หมอซิน ถึงจะเป็นหมอที่มีความเมตตาและบริสุทธิ์ที่สุด เป็นหมอที่ดีคิดแทนคนไข้เสมอ”
“พวกเราผิดกันหมดแล้ว เราหลงเชื่อคำพูดของคนต่ำทราม!”
ทันใดนั้น ทุกคนต่างยอมรับความผิด และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อซินยุ่น
ในเวลาไม่ถึงสิบนาที ทัศนคติของทุกคนแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ซินยุ่นรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะ เดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝ่าเข้าไปท่ามกลางเมฆหมอก ซึ่งเหมือนไม่เป็นความจริง
ถ้าหากเมื่อครู่เธอจากไป ก็ไม่สามารถเห็นถึงฉากที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้?
ต้องขอบคุณเจียงชื่อที่ให้เธออยู่ต่อ
แต่ว่า เธอก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าทำไมเจียงชื่อถึงรู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นในตอนหลัง ราวกับสามารถล่วงรู้ถึงเรื่องอนาคต วิเศษจริงๆ
ผู้หญิงคนนั้นหันศีรษะมาแล้วชี้ไปที่สือเหวินปิ่ง “คนต่ำทรามเจ้าเล่ห์ ยังไม่รีบเอาใบสั่งยาออกมาอีกเหรอ? ตกลงคุณให้ลูกของฉันดื่มอะไร!
หมอที่เหลือทุกคนต่างเห็นด้วย เรียกร้องให้ส่งมอบใบสั่งยาออกมา
เรื่องมาถึงขั้นนี้ แผนชั่วทั้งหมดได้ถูกเปิดเผยแล้ว สือเหวินปิ่งก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีก
เขาตะโกนว่า “ใบสั่งยาใช่มั้ย? มีใครอยู่มั้ย เอาให้เธอดูสิ !”
มีคนรีบเอาใบสั่งยามาให้ทันที
ผู้หญิงดูไม่รู้เรื่อง จึงมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ หยิบไปดู
หลังจากที่ทุกคนอ่านจบ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ยาในใบสั่งยานี้ เป็นยาบำรุงช่วยให้จิตใจสงบ พูดจริงๆ ไม่ดื่มไม่เป็นไร แต่ดื่มแล้วก็ไม่มีผล
บำรุงร่างกาย มีอะไรไม่ดี?
ล้วนเป็นยาอ่อนที่ไม่รุนแรง ไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่สบาย ก็เหมือนดื่มน้ำตาลทรายแดง ใครจะเป็นเพราะดื่มน้ำตาลทรายแดงหมดหนึ่งชามแล้วเกิดโรคร้ายกะทันหันล่ะ?
เป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ
ทุกคนส่ายศีรษะ ไม่เข้าใจจริงๆ
สือเหวินปิ่งยิ้มอย่างเย็นชา “เป็นไงล่ะ ตอนนี้คุณเชื่อในสิ่งที่ผมพูดแล้วใช่มั้ย? ตั้งแต่แรกผมก็พูดแล้ว ใบสั่งยาของผมไม่มีปัญหา แต่คุณจะดูให้ได้ ตอนนี้ดูแล้ว จะว่าไง?”
ผู้หญิงคนนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ถ้าหากไม่ใช่เพราะยาของสือเหวินปิ่งมีปัญหา แล้วทำไมเด็กถึงหลับสนิทไม่ตื่น?
ขณะที่ทุกคนมึนงงไม่เข้าใจ จู่ๆ เจียงชื่อก็ดูเหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ และพูดว่า “ใช่แล้ว ผมนึกถึงเรื่องหนึ่ง”
ทุกคนต่างก็มองไป
“ก่อนหน้านี้ตอนผมฝังเข็มให้เด็ก พบว่าสภาพร่างกายของเด็กไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นผมจึงฝังเข็มชีพจรหลายจุด เพื่อให้ร่างกายของเขาผ่อนคลาย และนอนหลับอย่างสบายสักครู่”
“ร่างกายกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ที่จริงเป็นปฏิกิริยาปกติ นั่นคือเขาอยู่ในระหว่างที่นอนหลับ ร่างกายกำลังปรับตัว เมื่อเขาตื่นขึ้น ร่างกายของเขาจะกลับมาเป็นปกติ”
นี่……
ทันใดนั้น ทุกคนในงานต่างก็เงียบสงบ
ทุกคนจ้องมองเจียงชื่อด้วยรอยยิ้มแหยๆ โมโห หมดหนทาง ดีใจ ความชื่นชม และการดูถูก ทุกอารมณ์ทุกท่าทีแสดงออกมาอย่างเต็มตาเฉียบขาดและชัดเจน
ใครจะเชื่อเรื่องไร้สาระของเจียงชื่อ?
เขาฝังเข็ม มีหรือเขาจะลืม?
คนโง่ก็ยังรู้ว่า นี่คือแผนซ้อนแผนของเจียงชื่อ ที่ตั้งใจฝังเข็มใช้เวลาตอนที่เด็กนอนหลับ ใส่ร้ายสือเหวินปิ่ง ทำให้เกิดวิกฤติความไว้วางใจระหว่างสือเหวินปิ่ง กับผู้หญิงคนนั้น
สิ่งที่พวกเขาทำเดิมทีก็ไม่สามารถแพร่งพรายได้ ระหว่างพวกเขาแทบจะไม่มีความน่าเชื่อถือ