จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 374 ถือสิทธิ์อะไรต้องช่วยคุณ?
เทพธิดาน้ำแข็ง ที่แท้ก็มีด้านที่อ่อนโยนและน่ารักแบบนี้
ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง
อยู่ต่อหน้าคนนอก เธอสามารถแสดงถึงความเย็นชา แต่มีเพียงอยู่ต่อหน้าเจียงชื่อ เท่านั้นถึงรู้สึกได้ว่าเป็นเล็กเปราะบาง
เรื่องน่าเสียดายคือ เจียงชื่อเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวที่ดีเท่านั้น
ถ้าหากเป็นไปได้ ซินยุ่นไม่ต้องการเรียกเขาว่า ‘พี่ชายที่แสนดี’ แต่ต้องการสวมชุดสีแดงเข้ม มีผ้าสีแดงเข้มคุมศีรษะ และเรียกเขาว่า ‘สา…ที่ดี’
ระหว่างที่จิตใจสับสน ถูกเสียงเรียกของเจียงชื่อพากลับมาสู่ความเป็นจริง
เจียงซื่อ ยังไงเขาก็เป็นชายที่แต่งงานแล้ว
เมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ ซินยุ่นก็รู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม รู้สึกโกรธ ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนมาก่อน เพราะอะไร เพราะอะไรพอเธอรู้สึกชอบผู้ชายเป็นครั้งแรก ก็ไปชอบผู้ชายที่แต่งงานแล้ว?
สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับเธอจริงๆ
เห้อ……
ซินยุ่นสีหน้าบึ้งตึง ความเศร้าโศกในใจมีเพียงตัวเองเท่านั้นที่รู้
“พวกเรากลับกันเถอะ”
“ดี”
ทั้งสองหันหลังไปจากฝูงชน ขึ้นรถที่ตอนพวกเขามา กลับไปที่หอการแพทย์ตระกูลซิน
แพทย์คนอื่นๆ ต่างก็จากไป การประชุมแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ประสาอะไร ไม่มีความจำเป็นต้องมีต่ออีก
ไม่มีใครอยากร่วมทำชั่วกับพ่อลูกตระกูลสืออีกต่อไป
คนหน้าซื่อใจคดเจ้าเล่ห์ น่าขยะแขยง!
“หมอซินไปแล้ว ผมก็ไปด้วย สถานที่แย่ๆ แบบนี้ต่อไปผมจะไม่มาอีก”
“ใช่ ต่อไปผมจะไม่เข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนทางการแพทย์อีก เว้นแต่ว่าตระกูลสือลงจากตำแหน่ง และตระกูลซินขึ้นรับตำแหน่งแทน ไม่งั้นผมจะไม่มาที่นี่อีก!”
ทุกคนออกจากที่เกิดเหตุด้วยความขุ่นเคือง
สือควนก็ไม่ได้ขัดขวาง
ยังมีอะไรต้องขัดขวางอีก? ชื่อเสียงตัวเอง พังพินาศหมดแล้ว ถ้ายังฝืนไปขัดขวาง มีแต่จะเพิ่มเสียงหัวเราะเยาะ
สือเหวินปิ่งถามว่า “ท่านพ่อ เรื่องนี้จะให้จบแค่นี้เหรอ?”
สือควนไม่ได้พูด
แต่ว่า จากสายตาของเขาที่โกรธจัดเห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดซินยุ่นกับเจียงชื่อเข้ากระดูกดำ สักวันหนึ่ง เขาจะทำให้สองคนนี้ตายให้ได้
ถึงแม้ชื่อเสียงจะเหม็นเน่าแล้ว แต่ตำแหน่งของเขายังคงอยู่ และความมั่งคั่งของเขาก็ยังอยู่
ซินยุ่น เจียงชื่อคอยดูแล้วกัน!
ในเวลาเดียวกัน
กลางดึก ในอาคารสำนักงานของบริษัทของตระกูลติง เจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังสนทนากันถึงแผนต่อไป
พวกเขาสนทนากันไปทั้งวันแล้ว
ปัจจุบันการรื้อถอนและการสร้างใหม่เสร็จสิ้นไปแล้วหนึ่งในสาม และงานต่อไปจะยากลำบากขึ้นกว่าเดิม และทุกการเคลื่อนไหวจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ในตอนท้ายของการประชุมเจ้าบ้านติงจ้งนั่งลงดื่มน้ำไปหนึ่งแก้ว พร้อมกับถามว่า “พวกคุณทุกคนมีอะไรจะพูดอีกไหม ถ้าไม่มีก็เลิกการประชุมได้”
ติงเมิ่งเหยนกำๆ ปั้น โอกาสมาแล้ว!
เธอเปิดปากพูด “คุณปู่ มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกท่าน”
“หืม? เรื่องอะไรเหรอ?”
“เรื่องเกี่ยวกับเจียงโม่ น้องชายของเจียงชื่อ”
เมื่อเขาได้ยินคำว่า ‘เจียงชื่อ’ ติงจ้งก็โกรธสุดขีด ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะรักษาระยะห่างจากตัวเชื้อโรคระบาด ทำไมอยู่ดีๆ ก็เอ่ยถึงเขาอีก?
“พูด”
ติงเมิ่งเหยนรวบรวมคำพูด แล้วพูดช้าๆ “เมื่อไม่นานมีเหตุการณ์เกิดขึ้นนิดหน่อย หลุมศพของเจียงโม่ถูกคนทำเสียหาย ขณะนี้กล่องกระดูกถูกเจียงชื่อนำกลับบ้าน ฉันต้องการแบ่งพื้นที่ริมแม่น้ำซีเจียงแปลงที่ดินริมแม่น้ำ เพื่อก่อสร้างพื้นที่สุสานขนาดใหญ่ เผื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิตจะได้ไปฝังที่นั่น และแน่นอนว่าเป็นการช่วยเหลือเจียงชื่อด้วยเช่นกัน นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเล็กน้อยของฉัน”
เธอพูดอย่างตรงไปตรงมามาก
จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับติงจ้ง
“เรื่องนี้นะ” ติงจ้งวางถ้วยน้ำชาลงและครุ่นคิดในใจ
อันที่จริง การแบ่งพื้นที่ทำสุสานนั้นไม่ยาก แค่ขอคำร้องและรายงานเบื้องบนเล็กน้อยก็ได้แล้ว
ปัญหาคือ ถือสิทธิ์อะไรทำไมต้องช่วยเจียงชื่อ?