จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 383 เขาไม่ได้โกรธใช่ไหม?
ติงเมิ่งเหยนถึงกับตกใจ
ต้องตอบยังไง?
ถ้าครอบครัวตระกูลติงของเธอมีความสัมพันธ์นี้ ตอนนี้พวกเธอก็คงไม่ใช่ครอบครัวในชนชั้นกลางแล้ว
จากนั้นเธอส่ายหัวอย่างทำตัวไม่ถูก “คุณกวนต้องล้อเล่นแน่เลย ครอบครัวตระกูลติงของเราจะรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่อย่างผู้บริหารระดับสูงได้ยังไงคะ”
“แล้วทำไมจู่ๆ คุณกวนถึงถามเรื่องนี้คะ?”
“อ้อ เปล่าครับ ผมแค่ถามเฉยๆ ครับ”
จากนั้นกวนจื้อฉวนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกและส่งติงเมิ่งเหยนออกจากบ้านด้วยท่าทีที่เคารพ
ในขณะที่ติงเมิ่งเหยนเดินออกจากสวนหน้าบ้าน แม่บ้านของบ้านหลังที่ 27 ที่อยู่ข้างๆ ก็เข้ามากล่าวทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม
“คุณติงคะ พอจะมีเวลาเข้าไปนั่งในบ้านของนายท่านดิฉันสักครู่ไหมคะ?”
“หืม?”
“คืองี้ค่ะ นายท่านของดิฉันก็อยากลงนามในข้อเสนอนี้ด้วยค่ะ”
ติงเมิ่งเหยนรู้สึกดีใจมาก เพราะนี่เป็นสิ่งที่เธอปรารถนาอยู่แล้ว จะให้เธอปฏิเสธได้อย่างไร?
เธอจึงรีบตามแม่บ้านหลังที่ 27 เข้าไป ซึ่งกระบวนการทุกอย่างก็แทบจะเป็นไปตามก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายลงนามในข้อเสนอโครงการอย่างราบรื่น
แต่เธอยังไม่ทันได้พักหายใจ เหล่าแม่บ้านและพ่อบ้านของบ้านหลังอื่นๆ ก็เข้ามาหาเธอ
ติงเมิ่งเหยนงานยุ่งทั้งเช้า เธอเข้าไปยื่นใบสัญญาเพื่อให้บ้านทุกหลังลงนาม ซึ่งทั้งหมดมี 30 ครัวเรือน และทุกครัวเรือนก็ได้ลงนามในข้อเสนอโครงการนี้โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
มันแปลกจริงๆ
ดูเหมือนพวกเขาจะเตรียมตัวเซ็นสัญญาด้วยกันทั้งหมด เพราะทุกคนได้แต่รออยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนเลยสักคน
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ คนเหล่านี้ต่างก็เคยมีท่าทีที่ไม่พอใจและไม่เคยมีใครยอมเซ็นสัญญานี้เลย
แต่ในวันนี้ทุกคนกลับแย่งกันเซ็นชื่อลงนามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ทัศนคติก่อนและหลังมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริงๆ!
แม้จะไม่เข้าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผลลัพธ์ก็คือดีทุกอย่าง เพราะทั้ง 30 ครัวเรือนต่างก็ได้ลงนามกันหมด ซึ่งก็หมายความว่าหมู่บ้านตี้เหาแห่งนี้สามารถรื้อถอนและปลูกสร้างใหม่ได้แล้ว!
ด้วยความตื่นเต้น ติงเมิ่งเหยนขับรถกลับไปที่บริษัทหลักและเข้าไปในห้องประชุม
ในเวลานี้ ติงจ้ง ติงเฟิงเฉิง ติงจื่อยวี่และผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ ของบริษัทต่างก็ได้รวมตัวกันเพื่อรอฟังข่าวจากติงเมิ่งเหยน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะรอฟัง ‘การประสบความสำเร็จ’ ของติงเมิ่งเหยน เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีกว่า ด้วยความสามารถของติงเมิ่งเหยนนั้น ไม่มีทางที่จะจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่พวกเขารอคอยคือผลของติงเมิ่งเหยนที่ถูกผู้คนในหมู่บ้านไล่เธอกลับมา!
ซึ่งติงจ้งได้คิดไว้แล้วว่าเขาจะพูดอะไรหลังจากติงเมิ่งเหยนมาถึง โดยเฉพาะเรื่องการถอนหุ้นของติงเมิ่งเหยนเขาก็ได้เตรียมไว้อย่างเรียบร้อยแล้วด้วย
วันนี้เขาจะต้องดึงหนามที่ปักอยู่ในใจออกไปให้ได้!
ทันทีที่เห็นติงเมิ่งเหยนเดินเข้ามาในห้องประชุม ติงจ้งก็แสร้งไอเบาๆ แล้วถามว่า “ไปเจรจาแล้วใช่ไหม?”
“อื้ม”
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้าแรงๆ
ติงจ้งจงใจพูดจาปลอบโยนเธอ “เธอไม่ต้องคิดมากหรอกนะ เพราะเธอไม่ใช่คนแรกที่ถูกปฏิเสธ คนก่อนหน้านี้ที่ส่งไป ทุกคนก็ล้มเหลวกันหมด ฉะนั้น ไม่แปลกหรอกที่เธอจะล้มเหลวอีกคน”
“แต่ว่าเมิ่งเหยน เธอทำให้คนอื่นไม่พอใจหรือเปล่า?”
ตามความคิดของติงจ้งแล้ว เมื่อเสนอโครงการนี้ให้เป็น ‘เขตสุสานที่วางแผน’ ติงเมิ่งเหยนก็จะทำให้พวกเขาโกรธอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้น เขาก็จะมีเหตุผลในการถอนหุ้นของติงเมิ่งเหยน และเพื่อเป็นการระบายความโกรธให้กับฝ่ายตรงข้าม
แต่ว่า……
ติงเมิ่งเหยนกลับส่ายหัวตอบ
ติงจ้งขมวดคิ้ว “เธอหมายความว่ายังไง? พวกเขาไม่ได้โกรธงั้นเหรอ?”
“เปล่าค่ะ”
“แล้วเธอจะส่ายหัวทำไม?”
ติงเมิ่งเหยนตอบตามความเป็นจริงๆ “หนูหมายถึง พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธโครงการรื้อถอนนี้เลยค่ะ”
“หือ……”
บรรยากาศเงียบสงัดตาย
ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าอันซับซ้อน
ความตกใจ สับสน สงสัย ปวดขมับ ทุกความรู้สึกเกิดขึ้นกับทุกคนจากคำพูดของติงเมิ่งเหยน พวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดเลยด้วยซ้ำ
ติงจ้งยืดตัวตรงและถามว่า “เมิ่งเหยน เธอหมายความว่ายังไง?”
“หนูหมายความว่าทั้ง 30 ครัวเรือนได้ลงนามในข้อเสนอโครงการของเราแล้ว และเราสามารถเริ่มโครงการรื้อถอนได้ทุกเมื่อ!”