จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 421 คนต่อไป
เจียงชื่อค่อยๆ ดึงมือของติงเมิ่งเหยนออก
“สิบวินาที”
ติงเมิ่งเหยนตะลึง “อะไรนะ?”
“ผมบอกว่าสิบวินาที ขอเพียงแค่สิบวินาที ผมก็สามารถจัดการเขาได้แล้ว”
บ้าเหรอไง?
ผู้คนต่างพากันส่ายหัว คนหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่เข้าใจสิ่งสำคัญอะไรเอาซะเลย เขากล้าคุยโวโอ้อวดเช่นนี้ ก็คงเป็นเพราะยังไม่เคยพบเจอความเก่งกาจของเบี้ยนจงมาก่อน รอจนรู้ว่าเบี้ยนจงมีกำลังมากแค่ไหน ตอนนั้นมาเสียใจภายหลังก็คงไม่ทันเสียแล้ว
ขณะนั้นเอง ไอ้หนวดเซาก็เลียริมฝีปากของตัวเองพร้อมกับมองไปที่ติงเมิ่งเหยนอีกครั้ง
ขอเพียงเจียงชื่อตาย เขาก็จะสามารถจับผู้หญิงคนนี้กลับไปได้ในทันที ไม่ทำตามใช่ไหม?งั้นก็ต้องใช้ไม้แข็งแล้ว!
การใช้กำลังทำอะไรสักอย่าง แท้จริงแล้วมันก็รู้สึกดีเหมือนกัน
ขณะที่ครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น เจียงชื่อก็ได้ก้าวขึ้นไปบนสังเวียนพร้อมกับยืนเผชิญหน้ากับเบี้ยนจง
ภายใต้การมองของฝูงชน ผู้ตัดสินได้กล่าวต่อสาธารณชนว่า “การแข่งขันชกมวยใต้ดิน ห้ามใช้อาวุธใดๆ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีข้อจำกัดอื่น เริ่มการแข่งขันได้!”
ทุกคนมองไปที่เจียงชื่อด้วยสายตาที่เยาะเย้ย
เกรงว่าชายคนนี้จะกลายเป็นคนตายในเวลาไม่กี่วินาทีน่ะสิ
การต่อสู้กับเบี้ยนจงคือการไม่เข้าใจถึงสิ่งสำคัญ เขาจะดุร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เมื่อเริ่มลงมือ เจียงชื่อเองก็ดูไม่ต่างกับคนทั่วๆ ไป คนประเภทนี้ขึ้นสังเวียนไป มันจะต่างอะไรกับการส่งให้ไปตายกันล่ะ?
เริ่มการแข่งขัน
เบี้ยนจงยกนิ้วตวัดขึ้นไปทางเจียงชื่ออย่างดูถูกเหยียดหยาม
เขาชี้ไปที่ท้องของตน “อย่ามาพูดว่าฉันรังแกนายนะ มา มาชกที่ตรงนี้ ฉันให้นายชกได้หนึ่งที”
ให้?
เหอะๆ เขานี่เป็นคนแรกเลยจริงๆ ที่ให้เทพแห่งสงครามชูร่าโจมตี
เจียงชื่อเองก็ไม่ได้เกรงใจ เขาเดินไปที่ด้านหน้าของเบี้ยนจงอย่างสงบและต่อยไปเบาๆ โดยไม่เห็นเขาออมกำลังแต่อย่างใด
ฝูงชนนั้นต่างคิดว่าหมัดของเจียงชื่อนั้นไม่ได้มีกำลังสักเท่าไหร่ ราวกับฝ้ายอย่างไงอย่างงั้น
ความสามารถในการต้านทานการโจมตีของเบี้ยนจงนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง
คงไม่มีแรงกดดันอะไรกับหมัดแค่นี้อยู่แล้ว
แต่ผลลัพธ์ก็น่าประหลาดใจ
หมัดของเจียงชื่อนั้นกระแทกเข้าไปที่ท้องของเบี้ยนจงอย่างแรง จากนั้นก็ได้ยินเสียงแคร๊กแคร๊กดังออกมา ทันใดนั้น ซี่โครงหลายซีกก็หักในทันใด
เบี้ยนจงนั้นปลิวไปราวกับลูกโป่งที่รั่ว
เสียงโป้งดังขึ้น เขากระแทกกำแพงเข้าอย่างจัง!
ทันใดนั้น ฝูงชนต่างเงียบกันไปหมด
ใครจะจินตนาการได้ว่าเจียงชื่อที่ดูเหมือนจะอ่อนแอมากนั้น จะมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้?
น่ากลัวเกินไปแล้ว
ไอ้หนวดเซานั้นขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับกวักมือเรียกชายอีกคนให้ขึ้นไปบนสังเวียนเพื่อต่อสู้กับเจียงชื่อต่อ
ติงเมิ่งเหยนนั้นรีบร้อน
“ไอ้หนวดเซา คุณไม่ได้พูดหรอกเหรอว่าคุณจะเซ็นสัญญาหากเจียงชื่อชนะน่ะ?ทำไมไม่รักษาคำพูดและยังจะส่งคนที่สองขึ้นไปอีก?”
ไอ้หนวดเซายิ้ม “แค่บอกว่าเอาชนะลูกน้องฉันได้ก็พอ แต่ปัญหาคือ ฉันไม่บอกว่านี่ว่าต้องเอาชนะกี่คนกัน ใช่ไหมล่ะ?”
แสดงว่าไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ !
ติงเมิ่งเหยนทั้งโกรธและรีบร้อน แต่เจียงชื่อนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
เห็นเพียงดวงตาที่แดงก่ำของเจียงชื่อ เผยให้เห็นออร่าการสังหารที่น่าสะพรึงกลัว การสู้รบครั้งก่อนดึงความปรารถนาของเขาออกมา แต่เดิมทีการต่อสู้นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาสมใจอยากเท่าไหร่นัก
ตัวเขาในตอนนี้ต้องการให้มีคนขึ้นมามากกว่านี้ เพื่อที่จะมาเป็นมือฝึกให้แก่เขา
“เมิ่งเหยน ไม่เป็นไร”
“ผมเองก็อยากต่อสู้ต่อพอดีเลย”
“มีเท่าไหร่ก็เอามา ฉันไม่ขัดข้อง”
อารมณ์ของผู้ชมถูกจุดขึ้นในทันที เสียงกรีดร้องดังสนั่น หลายคนนั้นถูกความปรารถนาในการต่อสู้ของเจียงชื่อพิชิตไปแล้ว เสียงปรบมือให้เขาดังสนั่น
ไอ้หนวดเซาพูดอย่างหยามเหยียด “ไอ้หนู อย่าภาคภูมิใจนักเลย เบี้ยนจงที่นายเพิ่งเอาชนะไปน่ะเป็นแค่เพียงผู้เล่นชั้นสองเท่านั้น แต่คนนี้น่ะ…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เจียงชื่อก็ได้กระโดดขึ้นไปหาชายคนนั้น
ใช้ศอกและเข่าโจมตีเข้าพร้อมกัน ชายคนนั้นล้มลงกับพื้นทันที เกิดฟองที่ปากและหมดสติไป
“เปราะบางเสียจริง”
เจียงชื่อยกมือขึ้นพร้อมกับมองไปที่ฝูงชน “คนต่อไป”