จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 481 เทพธนู
เมื่อเห็นว่าเจียงชื่อไม่มีวี่แววว่าจะยอมจำนน ข้าวหลามตัดสามก็ไม่อยากรออีกต่อไป เขาจึงโบกมือเพื่อออกคำสั่งให้ลูกน้อง และลูกน้องของเขาก็กระโจนเข้าใส่เจียงชื่อทันที
เนื่องจากเคยเห็นการต่อสู้ระหว่างเจียงชื่อกับพิทบูล กลุ่มลูกน้องของเขาจึงไม่กล้าประมาท
ลูกน้องทั้งสองโจมตีทั้งหน้าและหลังพร้อมกัน คนหนึ่งถือดาบสั้น อีกคนถือขวาน ซึ่งดูจากท่าทางแล้วร้ายกาจกันทั้งคู่
ในขณะที่พวกเขากำลังจะประชิดตัวเจียงชื่อ ทั้งสองก็ได้ยินเสียงซูบๆ ดังขึ้น
จากนั้นลูกธนูสองดอกพุ่งมาจากทางอากาศ
สึบ~~
สึบ~~
ทันใดนั้น ลูกธนูก็ยิงโดนแขนของชายทั้งสองคนนั้นเกือบพร้อมกัน
อาวุธของพวกเขาก็ได้หล่นร่วงลงบนพื้น ทั้งสองคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างทรมาน และน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
โจมตีด้วยธนูหรือ?
ลูกน้องที่เหลือก็ตกตะลึง ทำไมยังมีการซุ่มโจมตีอีกหรือ?
ทุกคนเงยหน้าหาเป้าหมาย จากนั้นเสียงธนูก็ดังขึ้นอีก และลูกธนูหลายดอกถูกยิงออกมาอีกครั้ง ทำให้ลูกน้องที่เหลือถูกยิงจนบาดเจ็บทุกคน
ทุกคนบาดเจ็บ แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต
ช่วยคน แต่ไม่คิดจะฆ่าคน
นักธนูผู้นี้ไม่เพียงแต่มีทักษะการยิงธนูที่ยอดเยี่ยม แต่ยังมีจิตใจที่เมฆตาอีกด้วย
“พี่ใหญ่ พวกเขามีกำลังเสริมด้วยเหรอครับ?”
“เอาไงดีครับ?”
ลูกน้องหลายๆ คนมองไปที่ข้าวหลามตัดสามและรอคำสั่งจากเขา
ข้าวหลามตัดสามเองก็ตื่นตระหนกมาก เมื่อกี้ลูกธนูยิงมาตั้งหลายดอก แต่เขายังไม่รู้เลยว่าศัตรูยิงมาจากทิศทางไหน แม้แต่รูปลักษณ์ของศัตรูเขายังมองไม่เห็นด้วยซ้ำ
ช่างเป็นเทพยิงธนูจริงๆ
จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นและมองรอบๆ แล้วตะโกนบอกว่า “ถ้าแน่จริงก็ออกมาสู้กับกูสิ อย่ามัวแต่ซ่อนตัวอย่างคนขี้ขลาด!”
ไม่ทันขาดคำ ก็มีเสียงมาจากพุ่งหญ้าในระยะไกลดังขึ้น จากนั้นชายร่างใหญ่คนหนึ่งเดินออกมาด้วยใบหน้าที่คล้ายกับถูกมีดบาด มือของเขาถือคันธนูและมีลูกธนูแบกอยู่ด้านหลัง
ชายผู้นี้ คือนักธนูซึ่งเป็นลูกน้องของเจียงชื่อที่อยู่ในกองทองสิบสองปีนักษัตร! เขาเป็นนักซุ่มยิงที่มีวิชาการยิงธนูที่ยอดเยี่ยมมาก นอกจากนี้ยังเป็นนักฆ่ามือหนึ่งอีกด้วย
ให้มันออกมา มันก็ออกมาจริงหรือ?
ข้าวหลามตัดสามถึงกับขำ
เมื่อกี้มึงซ่อนตัวอยู่ถือว่ามึงโชคดีไป แต่ตอนนี้ดันปรากฏตัวออกมา งั้นขออภัยด้วย วันนี้มึงไม่รอดแน่!
“พี่น้องทั้งหลาย ฆ่าไอ้สารเลวนักธนูซุ่มยิงคนนี้ให้ตายซะ!”
“ครับ!!!”
ลูกน้องของเขาก็พุ่งออกไปเพื่อจะสังหารธนูทันที
แต่แล้ว การที่จะจัดการกับคนกลุ่มนี้ ธนูไม่จำเป็นต้องไปซุ่มยิงเลยด้วยซ้ำ เขาสามารถยิงธนูต่อหน้าพวกเขาได้เลย
สึบ!
ลูกธนูดอกหนึ่งยิงทะลุไหล่ของลูกสมุนคนหนึ่ง
สึบ!!
ลูกธนูอีกดอกยิงทะลุน่องของลูกสมุนอีกคน
และ สึบ!!!
ลูกธนูอีกดอกก็ยิงทะลุฝ่ามือของลูกสมุนอีกคน
เขาเดินไปด้วยและยิ่งธนูไปด้วย เป็นการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว การยิงที่แม่นยำ ซึ่งเป็นดั่งบทกวีโบราณที่กล่าวไว้ว่า ‘สิบก้าวสังหารหนึ่ง พันลี้ไร้คนต้าน’
เมื่อธนูเดินไปถึงตัวของข้าวหลามตัดสาม ลูกน้องที่เหลือก็ถูกยิงจนบาดเจ็บไปหมด ทุกคนยังนอนร้องคร่ำครวญอยู่บนพื้นอย่างไม่หยุด เหมือนกับหมูที่ถูกมัดและกำลังจะโดนเชือด
จากนั้นธนูมองไปที่ข้าวหลามตัดสามแล้วถามอย่างเย็นชา “อยากประลองซึ่งๆ หน้าใช่ไหม? ผมออกมาแล้ว จะลองดูไหม?”
ข้าวหลามตัดสามถึงกับกลืนน้ำลายอย่างไม่หยุด
เขามองไปที่กล้ามเนื้อที่แข็งแรงของธนู ร่างกายที่กำยำแล้วยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นมองดูตัวเองอีกครั้ง มันไม่จำเป็นต้องประลองกันด้วยซ้ำ!
เกรงว่าเขายังไม่ทันได้ทำอะไร คู่ต่อสู้ก็สังหารเขาภายในเสี้ยววินาทีแล้ว
ข้าวหลามตัดสามที่ใช้ชีวิตอยู่ในความเล่ห์เหลี่ยมมานานหลายปี เขาจึงสามารถคำนวณฝีมือของคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว และเขารู้ตัวว่ายังไงเขาก็สู้ธนูไม่ได้อยู่ดี
ลูกน้องของเขายี่สิบกว่าคน แต่ธนูคนเดียวก็สามารถจัดการหมด
ข้าวหลามตัดสามจึงได้แต่รู้สึกไม่พอใจ!