จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 484 ชีวิตช่างน่าขมขื่น
เจียงชื่อถามเขาว่า “คุณ อยากจัดการพวกผมงั้นหรือ?”
ซานเชียนไหลถึงกับเหงื่อเย็นไหลเต็มหน้าผาก ใครจะจัดการใครกันแน่?
เขาหันกลับไปดูพวกที่เหลือ ท้าวจตุมหาราชาทั้งสี่ต่างก็ส่ายหัวเพื่อจะบอกว่าพวกเขาไม่อยากสู้กับเจียงชื่ออีกแล้ว เพราะฝันร้ายในครั้งที่แล้วยังคงตามหลอกหลอนพวกเขาไม่จบ พวกเขาไม่อยากเจอซ้ำสองอีก
ซานเชียนจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วพูดอย่างหมดหนทางว่า “ขอโทษนะครับ ผมผิดไปแล้ว เชิญพวกคุณกลับไปก่อนเถอะครับ ส่วนลูกน้องของผม เดี๋ยวผมจะสั่งสอนมันเองนะครับ”
คำพูดของเขาแทบทำให้ข้าวหลานตัดสามหัวใจวาย
จากคนนิสัยแข็งกระด้างคนหนึ่งที่มีนามว่าซานเชียน แต่จะมีวันที่เผยความอ่อนแอออกมาได้งั้นหรือ?
ดูทรงแล้ว เหมือนมดน้อยที่กำลังเล่นกับไฟอย่างไรอย่างนั้น
ทำไมกัน เด็กหนุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?
ข้าวหลามสามสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนหน้านี้เขายังเรียกร้องให้คนอื่นมาเป็นลูกน้องเขาอยู่เลย เหอะ ๆ ตอนนี้แม้แต่ลูกพี่ของเขายังไม่กล้าแตะต้องชายคนนี้ด้วยซ้ำ แล้วเขามีสิทธิ์อะไรที่จะให้ชายคนนี้มาเป็นลูกน้องของเขาล่ะ?
ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!
ซินจื่อหมินก็สามารถดูออกว่าซานเชียนคนนี้เป็นแค่เสือกระดาษเท่านั้น ภายนอกดูเก่งแต่ภายในปอดแหก ต่อเจียงชื่อเขาไม่กล้าทำอะไรเลย
ดังนั้นเขาจึงรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “ซานเชียว คืนของของผมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! แล้วก็ของที่คุณรับปากกับผมก็เอามาด้วยกันซะ!”
ซานเชียนกัดฟันแน่นๆ
ถ้าหากไม่มีเจียงชื่อ เขาสามารถจัดการซินจื่อหมินคนนี้ได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว แต่ว่าต่อหน้าเสือโคร่งที่ดุร้ายอย่างเจียงชื่อ สุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสืออย่างเขาจะทำอะไรได้?
เขาจึงได้แต่ระงับความโกรธแล้วพูดว่า “ของของคุณถูกผมจัดการไปแล้ว คงจะหามาคืนให้คุณไม่ได้แล้วล่ะ”
“ว่าไงนะ?” ซินจื่อหมินเหมือนถูกมีดแทงเข้ากลางอก เพราะของชิ้นนั้นเขาต้องเสียเงินจำนวนมากกว่าจะได้มา “แล้วของที่คุณรับปากจะให้ผมล่ะ?”
ซานเชียนหยิบการ์ดวีไอพีออกมาจากกระเป๋าใบหนึ่งแล้วยื่นให้กับซินจื่อหมิน “นี่คือของที่คุณต้องการ”
เจียงชื่อส่งสายตาให้กับธนู
จากนั้นธนูก็ได้หยิบการ์ดใบนั้นมาแล้วยื่นให้ซินจื่อหมิน
และหลังจากได้รับการ์ดใบนั้น ซินจื่อหมินถึงค่อยสบายใจขึ้น “ถ้ามีการ์ดใบนี้ ก็ถือว่ายังโอกาส”
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว
เจียงชื่อก็พาพวกกลับไป แต่เมื่อเดินไปถึงรถสปอร์ตเปิดประทุนเขาก็พูดขึ้นอย่างจงใจว่า “ในเมื่อคุณเอาของของพวกเราไป งั้นรถคันนี้ ถือว่าคุณใช้หนี้ให้พวกเราก็แล้วกันนะ”
เมื่อพูดจบ เขาก็เปิดประตูและขึ้นรถไปอย่างไม่มีพิธีรีตอง
ซานเชียนอัดอั้นใจจนสีหน้าซีดเซียว
นั่นเป็นรถที่เขาเพิ่งควักเงินหลายล้านเพื่อแลกมันมา แถมยังขับได้ไม่กี่วันเท่านั้นก็ต้องยกให้คนอื่นแล้ว?
เขาโกรธมาก
แต่ไม่กล้าพูดอะไร
“คุณท่านซิน เชิญขึ้นรถครับ”
“ได้เลย!”
ซินจื่อหมินก็รีบขึ้นรถไป ชีวิตนี้เขายังไม่เคยได้นั่งรถหรูขนาดนี้มาก่อนเลย และวันนี้เขามีโอกาสได้ลองเสพสุขแล้ว
จากนั้นเจียงชื่อมอบหมายธนูอีกครั้งว่า “เอาเงินห้าล้านนี้ไปก่อน แล้วเอารถที่ผมเช่ามาไปคืนด้วยนะ”
“รับทราบครับ”
หลังจากมอบหมายงานเสร็จ เจียงชื่อก็สตาร์ทรถ เหยียบคันเร่ง และขับรถสปอร์ตราคาหลายล้านคันนั้นออกไปอย่างผ่าเผย
ซานเชียนได้แต่เฝ้ามองรถของเขาถูกคนอื่นขับออกไปอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ
“ไอ้สวะ ไอ้สารเลว!”
ข้าวหลามตัดสามก็ถามขึ้นมาว่า “พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นครับ? ทำไมพี่ถึงไม่เล่นงานมันสักทีครับ?ทั้ง ๆ ที่ท้าวจตุมหาราชาก็อยู่ด้วย ทำไมไม่จัดการมันครับ?”
ซานเชียนมองเขาเหมือนคนงี่เงาคนหนึ่ง
“ถ้าจัดการมันได้ แล้วพี่จะรอช้าอะไรล่ะ?”
“เองรู้ไหมว่าไอ้หมอนี่มันโหดแค่ไหน? อย่าว่าแต่พวกเราเลย ต่อให้เรียกคนมาเป็นเท่าตัวก็สู้กับมันไม่ได้หรอก!”
ข้าวหลามตัดสามถึงกับตกใจจนอ้าปากค้าง “เขาโหดขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
ซานเชียนถอนหายใจดังๆ “เฮ้อ ชีวิตมันช่างน่าขมขื่นจริงๆ!!!”