จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 497 เสนอราคาเพิ่ม
ในบรรดาผู้คนทั้งหมดนั้น คนที่คิดหนักที่สุดคือซินจื่อหมิน
เขาทุ่มเททุกอย่างกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ และก่อนมาเขายังคิดว่าคงจะได้เข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยชุดนี้กลับไปด้วยราคาถูก
แต่ที่หนักใจกว่านั้นคือราคาเริ่มต้นก็สิบห้าล้านแล้ว ซึ่งทรัพย์สินมูลค่าทั้งตัวของซินจื่อหมินยังไม่ถึงสิบล้านเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นพูดได้อีกนัยหนึ่งว่าเขาไม่มีกำลังที่จะเสนอราคาได้เลย แล้วจะเอามันกลับบ้านยังไง?
สุดท้ายแล้ว เขาทำได้แค่มอง
ซินจื่อหมินถอนหายใจอย่างเงียบ แต่สามารถมองออกได้ว่าภาวะซึมเศร้าของเขานั้นรุนแรงแค่ไหน
เพื่อเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยชุดนี้ เขาเกือบจะถูกคนของซานเชียวฆ่า เขาเกือบทำให้ลูกสาวต้องลำบากไปด้วย แต่ในที่สุดเขากลับไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเสนอราคาด้วยซ้ำ
ความจนมันช่างอัปยศอดสูจริงๆ!
และในเวลานี้ มีคนเริ่มตะโกนเสนอราคา “ผมให้สิบแปดล้าน”
อันที่จริงแล้วเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับคนปกติทั่วไปเลย เพราะพวกเขาไม่รู้วิธีการใช้มันด้วยซ้ำ ถ้าให้เสียเงินมากมายกับเข็มเงินชุดนี้ มันจะเป็นการสิ้นเปลืองเกินไป
แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีคนเสนอราคาอยู่ดี
บางทีถ้าซื้อกลับไปแล้วอาจจะมีผลตอบแทนที่ไม่คาดคิดก็ได้?
หรืออาจจะบวกราคาเพิ่มเพื่อสร้างผลกำไรได้ด้วย
มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดแบบนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงลองเสนอราคาไปก่อน ถ้าจบราคานี้ได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
จากนั้นมีคนเจ็ดถึงแปดคนที่ผลัดกันเสนอราคา และราคาตอนนี้หยุดอยู่ที่สามสิบเก้าล้าน
สามารถบอกได้ว่าเป็นตัวเลขที่น่ากลัวมาก
ในเวลานี้ สือเหวินปิ่งที่นั่งเงียบมาตั้งนานก็หันมองกลับไปที่ซินจื่อหมิน จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชันว่า “คุณท่าน คุณอยากได้เข็มวิเศษชุดนี้มากเลยไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ขออภัยด้วยนะครับ เพราะหลานชายคนนี้ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่าต้องเอาเข็มเงินวิเศษชุดนี้กลับไปให้ได้ ฉะนั้น ผมจะเก็บไว้ให้คุณไม่ได้แล้วนะ”
“แต่เท่าที่ผมรู้ ตระกูลซินของคุณท่านคงไม่มีปัญญาแม้แต่จะเสนอราคาด้วยซ้ำ ถูกต้องไหมครับ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
เป็นคำพูดที่เสียดสีที่สุด
แต่มันเป็นความจริง
สือเหวินปิ่งยกมือขึ้นแล้วดีดนิ้วและพูดอย่างมั่นใจว่า “ผมให้ห้าสิบล้าน!”
ห้าสิบล้าน?
คำพูดคำเดียวแต่ทำให้ราคากระโดดไปมากกว่าสิบเอ็ดล้าน จะโหดไปไหนกัน นี่เขากำลังประกาศให้คนอื่นได้รู้ว่าของชิ้นนี้จะกลายเป็นของเขาแล้ว ห้ามใครมาแย่งอีกใช่ไหม?
น่าทึ่งจริงๆ!
ผู้คนต่างจับจ้องไปที่สือเหวินปิ่งอีกครั้ง และทุกคนยังจำได้ว่าเขาคือคนที่ประมูลสร้อยคอปลอมด้วยราคายี่สิบล้าน
ซึ่งอธิบายได้สองอย่าง
หนึ่งคือเขาจะต้องได้ในสิ่งที่เขาต้องการ สองคือเขาเป็นคนรวยจริงๆ
ในตอนแรก ทุกคนแค่ลองเสนอไปเท่านั้น เพราะเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยสำหรับพวกเขาแล้วไม่ได้สำคัญอะไร แต่หลังจากที่เห็นสือเหวินปิ่งประกาศให้เห็นว่าเขาต้องการของชิ้นนี้ให้ได้ ทุกคนจึงไม่กล้าเสนอราคาอีก
50 ล้าน ราคานี้ไม่น่าจะมีใครกล้าสู้แล้ว
พิธีกรถามอย่างเสียงดังว่า “ยังมีใครให้มากกว่านี้ไหมครับ? ถ้าไม่มี เข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยชุดนี้ก็จะเป็นของคุณผู้ชายท่านนี้แล้วนะครับ”
บนที่นั่ง ซินจื่อหมินยังคงถอนหายใจอย่างไม่หยุด
ในฐานะแพทย์แผนจีน เขาต้องการเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยชุดนี้จริงๆ แต่ทำอย่างไรได้? ไม่มีเงินก็ทำได้แค่มอง
ความจริงได้ยืนยันประโยคหนึ่งว่า ‘เงินไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง แต่การไม่มีเงินมันทำอะไรไม่ได้สักอย่างเลย’
เงินไม่สามารถทำทุกอย่างได้ก็จริง แต่ถ้ามีเงินแล้วทางเลือกก็จะมากขึ้น
ดังนั้น ต่อให้ทักษะทางการแพทย์ของซินจื่อหมินจะดีแค่ไหน แต่เขาก็ต้องแพ้ให้กับสือเหวินปิ่ง เพียงเพราะเขาไม่มีเงินมากเท่าคนอื่น
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยจะตกอยู่ในมือของสือเหวินปิ่ง เจียงชื่อที่นั่งเงียบมาตลอดก็ได้พูดขึ้นอย่างเสียงดังว่า “หกสิบล้าน!”
ผู้ชมต่างตกตะลึงกันหมด
ช่วงเวลาแบบนี้ ยังมีคนกล้าเสนอราคาเพิ่มอีกหรือ?
ทุกคนมีความสุขเมื่อเห็นเขา เขาคนนี้ก็คือชายผู้ที่ยุยงให้สือเหวินปิ่งต้องเสียเงินมหาศาลเพื่อซื้อสินค้าปลอมไม่ใช่หรือ? ครั้งนี้เขาจะมาเสนอราคาเพิ่มอีกแล้วใช่ไหม?