จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 513 ได้เวลาเติมพลังไอคิวของคุณแล้ว
แต่เดิมเหยาฮังที่กำลังเจ็บใจอยู่แล้ว และเมื่อได้ยินคำพูดของเจียงชื่อก็ยิ่งทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
หมายความว่าอะไร?
พากูไปกินๆ ดื่มๆ ช้อปปิ้งซื้อของอีกมากมาย ใช้เงินของกูไปก็เยอะแยะมากมายแต่สุดท้ายบอกว่าเราเข้ากันไม่ได้? นี่มึงคิดว่ากูเป็นคนโง่แล้วล้อเล่นกับกูงั้นหรือ?
แต่เขายังแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังฝืนยิ้มถามว่า “คุณเจียง คุณพูดอย่างนี้หมายความว่าไงครับ?”
เจียงชื่อพูดอย่างลำบากใจว่า “เฮ้อ ถึงแม้คุณจะเป็นคนใจกว้าง แต่ผมคิดว่าคุณไม่สนใจในศิลปะเลย ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา คุณไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับศิลปะเลย ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมไม่คบกับเพื่อนที่ไม่มีศิลปะในตัว ผมว่าเราหยุดแค่ตรงนี้เถอะ”
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป รบกวนคุณอย่าตามผมอีกนะครับ บาย”
เฮือก~~!!!
เคยเจอคนที่แปลกประหลาดมาก็เยอะเหมือนกัน แต่ยังไม่เคยเจอคนที่แปลกประหลาดขนาดนี้มาก่อน
ใช้เงินคนอื่นไปตั้งหลายสิบล้าน ไม่เพียงแต่ไม่มีคำขอบคุณ แต่ยังหาว่าคนอื่นไม่มีหัวใจศิลปะ?
และนี่ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
เหตุผลที่เหยาฮังยอมจ่ายเงินทั้งหมดนี้ ก็เพราะเขาเห็นทรัพย์สินมูลค่านับพันล้านของเจียงชื่อ ดังนั้นเงินพวกนี้จึงเป็นแค่การลงทุนเท่านั้น เขาจะหาวิธีเอากลับมาภายหลังอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้คุณบอกว่าเป็นเพื่อนกันไม่ได้ มันเท่ากับว่าเรื่องทั้งหมดที่ทำมาก็เปล่าประโยชน์
ถึงเวลาเจียงชื่อปัดฝุ่นแล้วหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับออกไปจากหนานเฉิง แล้วเหยาฮังจะหาเขาได้จากที่ไหน? เงินหลายสิบล้านที่เสียไปมันจะเกิดประโยชน์อะไร?
พูดตามตรงเหยาฮังเป็นรีกัลฮันเตอร์ที่คอยหลอกเศรษฐีมากมายอยู่ในหนานเฉิงนี้มานานหลายปีแล้ว แต่เขายังไม่เคยเจอเรื่องอะไรที่แย่ขนาดนี้มาก่อนเลย!
เมื่อคิดทบทวนดีๆ แล้ว เหยาฮังถึงตระหนักได้ว่า หรือว่าเขากำลังถูกหลอกอยู่?
เจียงชื่อคิดจะล้อเล่นกับเขาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? จงใจใช้ตังค์เขา แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเพื่อนกับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว?
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ
“เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะๆ มันไม่ใช่แล้ว”
เหยาฮังถอยหลังไปสองสามก้าวและชี้นิ้วไปที่เจียงชื่อ “คุณจงใจหลอกผมงั้นเหรอ?”
เจียงชื่อแสดงท่าทีที่แท้จริงออกมา
รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป และพูดอย่างเฉยเมยว่า “คุณเพิ่งจะรู้ตัวเหรอ คุณควรไปวัดไอคิวใหม่แล้วนะ”
น่าอัปยศจริงๆ !
เหยาฮังที่เป็น ‘นักล่า’ คนรวยมาตั้งหลายปี แต่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกล่าซะเอง
ขโมยไก่ไม่ได้ แถมยังต้องเสียข้าวสารให้คนอื่นอีก ช่างเปล่าประโยชน์จริงๆ เขาโกรธจนกำหมัดแน่นๆ และพูดด้วยความโกรธว่า “เจียงชื่อ คุณกล้าลองดีกับผมเหรอ? คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?”
“เอิ่ม? คุณเป็นใครเหรอ?”
“เหอะๆ งั้นผมจะบอกคุณเองว่าผมเป็นใคร?!”
เหยาฮังตบมือเบาๆ ในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างแสดงท่าแท้ของตัวเองออกมา ถ้าอย่างนั้นไม่จำเป็นต้องเสแสร้งทำอีกต่อไป
หลังจากนั้นกลุ่มลูกน้องของเขาก็เดินออกมาจากทั้งสองข้าง ในมือของทุกคนยังถือไม้เบสบอลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและไร้ความปรานี
เดิมทีเหยาฮังยังคิดจะหาโอกาสดีๆ ค่อยลงมือ แต่ใครจะไปรู้ว่าเจียงชื่อจะจับผิดได้ก่อน ไม่มีทางเลือก คงต้องลงมือตอนนี้เลย!
“บอกมันสิ ว่าข้าเป็นใคร?”
ทุกคนตะโกนพร้อมกันว่า “รีกัลฮันเตอร์ พี่ใหญ่เหยา เหยาฮัง!”
พวกเขาตะโกนติดต่อกันหลายๆ รอบ เสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนในถนนคนเดินไม่เพียงแต่ไม่มีใครกลัว แต่พวกเขายังตั้งหน้าตั้งตารอชมด้วยซ้ำ เพราะชาวหนานเฉิงทุกคนชินกับการตีรันฟันแทงมาตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะตอนมืดค่ำแบบนี้ การตีรันฟันแทงกันหรือการทะเลาะวิวาทกัน มันเกิดขึ้นอย่างนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ดังนั้นพวกเขายังรู้สึกเพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบนี้มากกว่า
พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอชมเจียงชื่อถูกรุมทำร้ายจนนอนนิ่งอยู่กับพื้น มันต้องเป็นภาพที่น่าสนใจมากแน่นอน
“รีกัลฮันเตอร์เหรอ?” เจียงชื่อพยักหน้าตอบ ชื่อนี้น่าสนใจไม่เบาเลยนะ
ทันทีที่เห็นคนกลุ่มคนร้ายปรากฏตัว ในที่สุดซินยุ่นก็ได้เห็นท่าแท้ของเหยาฮัง ทำให้เธอเข้าใจได้ว่า ทำไมเจียงชื่อถึงจงใจหลอกเหยาฮังมาตลอด