จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 522 พิสูจน์ว่าเขาคือตัวเขาเอง
ตรงประตูมีพนักงานต้อนรับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โปรดแสดงจดหมายเชิญของพวกคุณด้วยครับ”
ทันทีที่พูดจบ รอยยิ้มบนใบหน้าของพนักงานต้อนรับก็หยุดชะงัก ด้วยเหตุว่าเขาพบว่ามีบางอย่างผิดปกติสำหรับคู่เต้นรำคู่นี้
ฝ่ายหญิงนั้นยังพอได้ ดูสง่างามและถูกกาลเทศะ เรื่องของความงามนั้นไม่ต้องพูดถึง การแต่งกายช่างดูดีสอดคล้องกับงานเต้นรำในค่ำคืนนี้เป็นอย่างมาก
ปัญหาหลักนั้นอยู่ที่ฝ่ายชาย
แม้ว่าการแต่งกายของฝ่ายชายนั้นจะไม่ได้มอมแมมสกปรก แต่เมื่อดูก็พอรู้ได้ว่าเป็นพวกข้างถนน จากหัวจรดเท้าดูท่าไม่น่าจะเกิน200หยวนได้
โดยเฉพาะรองเท้าคู่นั้น ดูยังไงก็เป็นรองเท้าราคาถูกที่ซื้อมาจากตลาดแน่ๆ
ผู้ชายที่ดูยาจกเช่นนี้จะไปมีปัญญาได้รับบัตรเชิญได้ยังไงกัน?
จดหมายเชิญขององค์กรฟ้าน้ำมักจะถูกมอบให้กับคนใหญ่คนโตหรือไม่ก็พวกที่ร่ำรวยมากเท่านั้น คนที่มาในวันนี้ก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันในเรื่องนี้ได้
ลองมองไปดูชายคนอื่นสิ มีใครบ้างที่ไม่สวมใส่แบรนด์เนม
เรื่องราคาแพงพวกนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงก็ได้ แม้แต่เสื้อผ้าที่ดู’เรียบง่าย’มากที่สุด ตัวหนึ่งก็ราคาหลายหมื่นแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะสวมใส่เสื้อผ้าในราคาสองร้อยหยวนเข้ามา?
นี่มันก็ค่อนข้างจะดูยากจนและซอมซ่อเกินไปไหม
พนักงานต้อนรับสงสัยในตัวของเจียงชื่อเล็กน้อย นั่นจึงทำให้ต้องมองตรวจสอบอย่างระมัดระวังมากขึ้น
เขาเปิดจดหมายเชิญออกมา
หลังจากตรวจสอบแล้วจึงพบว่าจดหมายเชิญนี้เป็นของจริงแท้แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
ชื่อในจดหมายเชิญที่เขียนไว้คือ: เจียงชื่อ
พนักงานต้อนรับนั้นรู้ว่าเจียงชื่อเป็นมหาเศรษฐีที่ทำการประมูลซื้อเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยในราคาสองร้อยล้านหยวนและประมูลตับในราคาหนึ่งพันล้านหยวนไปเมื่อวานนี้
อยากลองถามเสียจริง เป็นมหาเศรษฐีขนาดนี้แต่กลับแต่งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าในราคาไม่เกินสองร้อยหยวนเนี่ยนะ?
มองทีเดียวก็รู้ได้เลยว่าต้องเป็นตัวปลอมแน่ๆ
หนานเฉิงนั้นถือเป็นที่ที่อันตราย ไม่แน่ว่าเมื่อเจียงชื่อได้ออกจากงานประมูลไปอาจจะถูกใครจัดการไปแล้วก็ได้ อย่างเช่นพวกนักล่ามหาเศรษฐี
เจียงชื่อที่อยู่ตรงหน้านี้จะต้องเป็นตัวปลอมอย่างแน่นอน!
จะปลอมมาก็ไม่ปลอมให้มันเหมือนสักหน่อย แต่งตัวเสื้อผ้าราคาถูกแบบนี้ เหอะเหอะ ไม่ได้กำลังรอให้ถูกเปิดโปงอยู่หรือไงกัน?
ในความเป็นจริงแล้ว การคาดคะเนของพนักงานต้อนรับนั้นก็ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่ เจียงชื่อเองก็ถูกพวกนักล่ามหาเศรษฐีจ้องมองอยู่เช่นกัน เพียงแต่แค่พนักงานต้อนรับนั้นไม่รู้ถึงความเคยชินของเจียงชื่อก็เท่านั้นเอง เขาเป็นคนถ่อมตัวและไม่ชอบออกตัวต่อสาธารณชน
ต่อให้จะมีเงินกว่านี้ แต่ก็ดูแต่งตัวไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปเลยแม้แต่น้อย
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่กองทองสิบสองปีนักษัตรที่เป็นลูกน้องของเจียงชื่อเองก็ได้รับอิทธิพลจากเจียงชื่อไปด้วย แต่ละคนล้วนแต่เป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นแต่กลับแต่งตัวราวกับคนขายปาท่องโก๋ในหมู่บ้านอย่างไงอย่างงั้น
พนักงานต้อนรับถือจดหมายเชิญพร้อมกับแกว่งส่ายไปมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี “อธิบายมาซะดีๆ ว่าไปขโมยจดหมายเชิญฉบับนี้มาจากไหน?”
เจียงชื่อไม่ได้เตรียมใจมาฟังคำพูดเหล่านี้
เขาถามออกไปด้วยความงุนงง “จดหมายเชิญนี้ถูกคนขององค์กรฟ้าน้ำส่งมาไง ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ ทำไม มันเป็นของปลอมงั้นเหรอครับ?”
พนักงานต้อนรับทำเสียงเหอะออกมาอย่างเย็นชา
“จดหมายเชิญไม่ได้ปลอมหรอก แต่ที่ปลอมคือคนต่างหาก!”
ความหมายนั้นแจ้งกระจ่าง เขาไม่เชื่อว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้นั้นคือเจียงชื่อ จะต้องเป็นตัวปลอมอย่างแน่นอน!
เจียงชื่อยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
แม้ว่าจะเคยพบเห็นเหตุการณ์ประเภทนี้ในข่าวมาบ้างแล้ว แต่การที่เขาต้องมาพบเจอเองนั้นถือเป็นเรื่องที่ไร้สาระเสียจริง
เขาจะต้องพิสูจน์ว่าเขาคือตัวเขาเองอย่างไรกันล่ะ?
พนักงานต้อนรับกล่าวอย่างดุเดือด “ความอดทนของฉันมีจำกัดนะ จะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย อธิบายมาซะดีๆ ว่าไปขโมยจดหมายเชิญนี้มาจากไหน?!”
“ขโมยมาหรือว่าแย่งมากัน?”
“เจ้าของจดหมายเชิญนี้เดิมทีคือคุณเจียงชื่อ นายทำอะไรกับเขา?”
“ฉันแนะนำให้นายอธิบายมาให้ชัดเจน อย่ามาทำตัวเจ้าเล่ห์ต่อหน้าพวกเราองค์กรฟ้าน้ำเพราะว่านายน่ะมันทำตัวเจ้าเล่ห์หลอกล่ออะไรไม่ได้อยู่แล้ว!”