จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 541 เจ้าพ่อสละบัลลังก์
พวกที่ยังไม่กระโจนเข้าไปล้วนหยุดนิ่ง แต่ละคนหันหน้ามองออกไปนอกร้านเหล้า
สุ่ยชิงเหยาก็หันหน้ามองออกไปเช่นกัน
ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ท้องฟ้าแจ่มใสในเวลานี้ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆก้อนใหญ่
“อากาศเปลี่ยนแล้วเหรอ?”
ขณะที่สุ่ยชิงเหยากำลังสับสน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าพื้นดินเกิดสั่นสะเทือนขึ้นมา
แผ่นดินไหว?
ไม่เหมือนเลย
ทุกคนพากันมองไปทางด้านข้างโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่นานความจริงก็บอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ได้มาถึงด้านนอกประตู พวกเขาแต่ละคนได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี สายตาเผยความอาฆาตแค้น
มากมายและเนืองแน่นจนมองไม่เห็นท้ายแถว
พวกเขาคือกองเทพพิชิตฟ้าที่เจียงชื่อภาคภูมิใจมาก!
ผู้ใต้บังคับบัญชากลุ่มนี้ตามเขาไปสู้รบในฐานที่มั่นของศัตรูที่เวสเตอร์แลนด์อย่างแข็งแกร่งและไม่ยอมแพ้
แม้แต่เหล่าศัตรูที่น่ากลัวที่สุดในเวสเตอร์แลนด์ก็สามารถกำจัดให้สูญสิ้นได้ นับประสาอะไรกับตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีค่าพอจะกล่าวถึงที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้?
ในที่สุด สีหน้าของสุ่ยชิงเหยาก็เปลี่ยนไป
ในที่สุดจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ก็มีช่วงเวลาที่หวาดกลัวเช่นกัน เขาเป็นเจ้าพ่อแห่งองค์กรฟ้าน้ำมาหลายปี คิดว่าตนเองเก่งกาจที่สุดในโลกใบนี้ จะรู้ได้อย่างไรว่าเหนือคนยังมีคนเหนือฟ้ายังมีฟ้า
สุ่ยชิงเหยาย่อมมองเห็นว่าคนกลุ่มนี้เก่งกาจเพียงใด
ไม่เพียงแต่เก่งกาจ แต่ยังมีจำนวนมากอีกด้วย!
หมาป่าเอาชนะสิงโตไม่ได้ นับประสาอะไรกับกลุ่มสิงโต!
หมาป่าหนึ่งตัวต่อสู้กับสิงโตร้อยตัว ยังต้องคิดถึงผลลัพธ์อีกหรือ?
สุ่ยชิงเหยาในเวลานี้ มักจะเผชิญหน้าอยู่กับสถานการณ์เช่นนี้เป็นนิจ กองทัพที่ไม่เป็นโล้เป็นพายของเขา ข่มเหงรังแกได้แต่ประชาชนคนดี แต่จะให้จัดการกับกลุ่มทหารที่ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดีมากมายขนาดนี้ มันเป็นเรื่องเพ้อฝันอย่างสิ้นเชิง!
สุ่ยชิงเหยาหันหน้ามองไปทางเจียงชื่อ
“คุณเป็นใครกันแน่?”
เจียงชื่อยกชามเหล้าขึ้นมาจิบ “คนตาย ไม่จำเป็นต้องรู้มาก”
คนตาย เป็นคำนิยามที่เจียงชื่อมอบให้กับสุ่ยชิงเหยา
ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับสุ่ยชิงเหยาแบบนี้ แกนนำของหนานเฉิง เจ้านายแห่งองค์กรฟ้าน้ำ เป็นคนที่เศรษฐีทุกคนที่มาที่นี่ล้วนต้องคำนับฝากตัวด้วยความน่ายำเกรงต่อ
แค่สองคำจากปากของเจียงชื่อ คนตาย
ใครๆ ก็นึกภาพออกว่าความแตกต่างนั้นมากมายขนาดไหน
สุ่ยชิงเหยากัดฟันพูด “เจียงชื่อ คุณคิดว่าคุณจะชนะแน่หรือ? คนของผมจะพ่ายแพ้ให้กับคุณแน่หรือ?”
เจียงชื่อยิ้มเยาะ
ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงกลุ่มคนที่อยู่ข้างนอกตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เทพแห่งสงครามชูร่า กองเทพพิชิตฟ้า!”
“เทพแห่งสงครามชูร่า กองเทพพิชิตฟ้า!!”
“เทพแห่งสงครามชูร่า กองเทพพิชิตฟ้า!!!”
พลังอันแข็งแกร่งทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของสุ่ยชิงเหยาตกใจจนไม่กล้าเคลื่อนไหว คนขี้ขลาดบางคนถึงกับฉี่ราด ยังไม่ทันได้ต่อสู้ก็ขี้ขลาด แล้วจะเอาอะไรไปสู้?
จนกระทั่งตอนนี้ สุ่ยชิงเหยาจึงตระหนักอย่างถ่องแท้ว่าช่องว่างระหว่างสองฝ่ายนั้นใหญ่แค่ไหน
ระหว่างเขากับเจียงชื่อ ต่างกันราวฟ้ากับเหว!
“เจียงชื่อ คุณอย่าจองหองนัก!”
“วันนี้ต่อให้ต้องตาย ผมก็จะลากคุณมาเป็นแพะรับบาป!”
“ฆ่ามัน!”
หลังจากออกคำสั่ง คนกลุ่มใหญ่ก็ตรงเข้าไปหาเจียงชื่อ ความคิดของพวกเขามีเพียง ฆ่าเจียงชื่อให้ตาย
ตาย ก็ต้องมีแพะรับบาปแทน
แน่นอน หลายคนมีความคิดว่า ‘จับโจรให้จับหัวหน้าก่อน’ ขอเพียงจับเจียงชื่อได้ ก็จะสามารถบังคับคนที่อยู่ข้างนอกให้ล่าถอยได้จริงไหม?
จินตนาการนั้นสมบูรณ์ แต่ความเป็นจริงมีแต่หนังหุ้มกระดูก
ความแข็งแกร่งของเจียงชื่ออยู่ไกลเกินจินตนาการของพวกเขา
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีดั่งพายุโหมกระหน่ำ เจียงชื่อสามารถทลายลงได้อย่างง่ายดาย และเจียงชื่อจะไม่ยอมปล่อยคนที่กล้าโจมตีเขาไปแน่นอน
ทั้งตายและบาดเจ็บเกลื่อนพื้น
คนของกองเทพพิชิตฟ้าย่อมไม่ยืนดูการแสดงเฉยๆ แน่ พวกเขารีบกรูกันเข้ามา ภายในร้านเหล้าเล็กๆ แออัดไปด้วยคนทั้งสองกลุ่ม
สุดท้าย ร้านเหล้าก็พังทลายลง