จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 566 เป็นคนดีไม่ง่าย
เฉิงไห่ที่อดทนไม่ไหว เขาไม่พอใจมาก เขาทำเป็นไม่รู้ และแสร้งถาม “คุณหมายความว่าอะไร ผมไม่เข้าใจ”
หยวนเจียเซียงได้ใจ “ตาแก่ ถ้าขืนนายยังเสแสร้งอีก ฉันสามารถปิดบริษัทพวกนายได้ทุกเมื่อ”
เฉิงไห่ไม่พูดอะไร
หยวนเจียเซียงตบโต๊ะ “ไม่ต้องยืดเยื้อแล้ว ถ้าอยากให้บริษัทอยู่ต่อไป อยากขายสินค้าทำเงินต่อไป อยากรักษาชื่อเสียงเอาไว้ นายต้องแสดงการกระทำออกมา!”
“สินค้าใหม่ของบริษัทนาย หักต้นทุนไป 100 หยวน ฉันจะหักกำไร 60 เปอร์เซ็นต์จากทุกรายการที่ขายได้!”
“ได้ยินชัดเจนหรือยัง”
เขาพูดออกมาด้วยเสียงดัง!
เฉิงไห่ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าบนโลกจะมีคนกากเดนเช่นนี้
เดิมทีอุปกรณ์รูปแบบใหม่วางขายแบบเข้าเนื้อ ต้องการสร้างกุศล และได้คำชมเท่านั้น แต่ทว่าหยวนเจียเซียงกลับมากอบโกยเงินจากสิ่งนี้
อีกทั้งยังกอบโกยเงินไปเป็นจำนวนมากด้วย
หลังหักไป 100 หยวน ยังหักกำไรจากการขายแต่ละรายการอีก 60 เปอร์เซ็นต์
ถ้าตอบตกลงอีกฝ่าย บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งต้องขาดทุนย่อยยับอย่างแน่นอน!
แต่จะมีทางปฏิเสธได้หรือ
ไม่มีทาง!
ขืนปฏิเสธ หยวนเจียเซียงต้องหาคนมาปิดบริษัท อีกทั้งยังพูดใส่ร้ายว่าบริษัทโก่งราคา และทำเป็นมีเมตตาแบบจอมปลอม
เมื่อถึงตอนนั้น บริษัทไม่เพียงแต่จะเสียเงิน ยังต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอีกด้วย
เรียกว่าหมดหนทางอย่างแท้จริง
ในฐานะผู้จัดการของบริษัท เฉิงไห่ไม่มีทางยืนดูบริษัทอยู่ในจุดนั้นอย่างแน่นอน บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง เป็นสิ่งที่เจียงชื่อใช้หยาดเหงื่อแรงกาย เอามันกลับมาอย่างยากลำบาก ถ้ามันพังทลายลงในมือเขา เขาจะมองหน้าเจียงชื่อได้อย่างไร
เมื่อตายไป เขาจะมีหน้าไปพบเจียงโม่ที่ตายไปแล้วได้อย่างไร
เพราะฉะนั้น ยังไงก็ต้องกัดฟันทำตาม!
ชายมีอายุครึ่งร้อย อายุปูนนี้แล้ว เขาสะกดกลั้นความทุกข์ระทมภายในใจ น้ำตาแห่งความเศร้าคลออยู่ที่เบ้าตา
เขาตัดสินใจตอบตกลงหยวนเจียเซียง
ในขณะที่สถานการณ์คับขัน
เสียงเปิดประตูห้องรับรองแขกดังขึ้น
ทั้งสองมองไปที่ประตูเป็นตาเดียว เห็นเจียงชื่อยืนอยู่หน้าประตู พร้อมรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า สีหน้าของเขาดูผ่อนคลาย
“นายเป็นใคร ใครให้นายเข้ามาไม่ทราบ” หยวนเจียเซียงทำตัวเหมือนเป็นลูกพี่ใหญ่ของที่นี่
เจียงชื่อพูดอย่างไม่เกรงใจ “ผมชื่อเจียงชื่อ เป็นประธานของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง พอดีเมื่อครู่มีธุระนิดหน่อย ขอโทษด้วย”
พูดพลาง เขาก็นั่งลงตรงข้ามหยวนเจียเซียง
หยวนเจียเซียงพูดอย่างหงุดหงิด “บริษัทของนายจัดการกันยังไง คนใหญ่คนโตอย่างฉันมาทั้งที มาเจอหน้าฉันทีละคน แทนที่จะมาต้อนรับพร้อมกัน นี่มันไร้สาระสิ้นดี!”
เจียงชื่อหัวเราะ “ขอโทษจริงๆ ครับ เมื่อกี้มีธุระเข้ามาพอดี”
เขาถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง “ใช่สิ ได้ยินว่าคุณเป็นพนักงานของสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ใช่ไหมครับ ไม่ทราบว่ามาที่บริษัทเรา มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
หยวนเจียเซียงถีบเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ เขาโมโหมาก สิ่งที่เขาพูดออกไปเมื่อครู่ มันเปล่าประโยชน์งั้นเหรอ
เขาชี้ไปที่เฉิงไห่ “นายไปพูดกับเขาเอง!”
เฉิงไห่ถอนหายใจ เขาเล่าเรื่องเมื่อครู่ให้ฟังแบบคร่าวๆ และแอบบอกความคิดของตัวเอง ว่าเขาตกลงหยวนเจียเซียง อย่าทำให้เรื่องใหญ่โต
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว”
เจียงชื่อพยักหน้า เขามองหยวนเจียเซียง และถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยวนเจียเซียง คุณเก่งขนาดนี้ คนที่บ้านคุณรู้หรือเปล่า”
หยวนเจียเซียงโมโห “ไอ้ฉิบหาย ทำไมถึงพูดแบบนี้”
เจียงชื่อพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อย่าโมโหสิ ผมก็แค่ถามไปงั้น ถ้าอาสามของคุณรู้ ว่าคุณเอาชื่อเสียงของเขามาหลอกคนอื่น หลอกว่าตัวเองเป็นพนักงานของสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ และมีพฤติกรรมข่มขู่บริษัทดีๆ ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไงบ้าง”