จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 601 วัวลอยอยู่บนฟ้า
ทุกคนกินเสร็จแล้ว เหลือเพียงติงเมิ่งเหยนเท่านั้น เธอยังคงมองดูขนมบัวลอยที่อยู่ข้างหน้า แล้วมองไปที่เจียงชื่ออย่างอึดอัดใจมาก
ถ้าเธอกินเข้าไป มันจะเป็นการดูถูกเจียงชื่ออย่างที่สุด
และมันก็คือสิ่งที่จงเถาต้องการเห็น
เขาหวังว่าติงเมิ่งเหยนจะกินขนมบัวลอยที่เขาเตรียมไว้ และเขาหวังว่าจะได้เห็นผู้หญิงของคนอื่นกินอาหารของเขา!
“เมิ่งเหยน ทำไมไม่กินล่ะ?” จงเถาจงใจถาม
ติงเมิ่งเหยนได้แต่ก้มหน้าและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
เธอรู้ว่ากินมันไม่ได้ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร ต่อหน้าผู้คนมากมาย เธอยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญนี้ได้จริงๆ
หรือว่า เธอจะต้องทำให้สามีอับอายขายหน้าต่อหน้าสาธารณะจริงๆ หรือ?
ไม่ได้!
ติงเมิ่งเหยนกัดริมฝีปากของเธอ ไม่ว่าวันนี้เธอจะต้องขัดแย้งกับทุกคนในนี้อย่างไร เธอก็จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างเจียงชื่อ และจะไม่กินขนมบัวลอยของจงเถาอย่างเด็ดขาด
ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจนี้ เจียงชื่อแสดงรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า
จากนั้นชี้ไปที่ขนมบัวลอยแล้วพูดว่า “พวกคุณดูสิ บัวลอยนี้มัน ‘เปื่อยยุ่ย’ ไปหมดแล้ว แสดงว่ามันเก็บไว้นานแล้วสินะ มันต้องไม่ใช่ขนมต้นตำรับที่สดใหม่จากร้านหลงเฉิงแน่เลย ขนมบัวลอยแบบนี้ เมิ่งเหยนบ้านผมคงไม่กินหรอก”
นี่มัน……
สีหน้าของจงเถากลายเป็นหม่นหมองทันที
เขาพยายามใช้เส้นสายกว่าจะได้บัวลอยชุดนี้มา อีกอย่างมันชามละตั้งสองสามพันหยวนด้วย แล้วสุดท้ายกลับถูกคนอื่นย่ำยีจนไม่เหลือสภาพ?
“เหอะๆ เจียงชื่อ คุณช่างกล้าพูดนะ”
“คุณบอกว่าบัวลอยชุดนี้เปื่อยยุ่ยไปแล้ว ไม่คู่ควรกับเมิ่งเหยน? ได้สิ ถ้าคุณเก่งจริง คุณไปหาบัวลอยที่คู่ควรกับเธอออกมาให้ชิมสักชุดสิ”
“คุณเอาแต่พูดลอย ๆ พูดจาไร้น้ำหนัก”
“เอาแต่พูดแดกดันคนอื่น ใครทำไม่ได้ล่ะ ว่าไหม?”
คนอื่นๆ ก็หัวเราะเยาะออกมาอย่างเย้ยหยัน
“หัวหน้า อย่าไปกดดันเขาเลยครับ นี่มันชามละสองสามพันหยวนนะครับ รวมกันทั้งชุดก็หลายหมื่นแล้ว เงินเดือนเขาแค่แปดพันหยวนเอง ถ้าแบบนี้คงต้องใช้เงินเดือนหลายเดือนกว่าจะซื้อได้แค่ชุดเดียวสิครับ? ช่างมันเถอะน่า”
“เฮ้อ เมิ่งเหยนเอ๋ย คุณนะคุณ ดอกไม้งดงามแต่ไปปักบนขี้วัวจริงๆ”
เจียงชื่อยังคงไม่สนใจคำพูดเขา แต่ติงเมิ่งเหยนเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว
ถึงแม้เงินเดือนของเจียงชื่อจะต่ำ แต่เขาได้เซ็นสัญญาที่มีมูลค่านับล้านกับทีมแข่งรถแล้วนะ! ถ้าบอกไป คนพวกนี้ต้องตกใจแน่
ก่อนที่เธอจะพูด เจียงชื่อก็หยุดเธอไว้และพูดเบาๆ ว่า “เมิ่งเหยน คุณอยากกินบัวลอยต้นตำรับของร้านหลงเฉิงไหม?”
“หือ?” ติงเมิ่งเหยนถึงกับตกใจ
“ถ้าคุณอยากกิน เดี๋ยวผมจะเชิญเชฟของร้านหลงเฉิงมาทำให้คุณกินเลย”
พูว~~
ผู้คนถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่
จงเถากุมหน้าท้องของเขาและหัวเราะจนท้องแข็ง
“โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ตลกฉิบหาย ใครก็ได้ช่วยที?”
“จะเชิญเชฟของร้านหลงเฉิงมา? ให้ตายสิ ทุกคนเห็นมั้ยนั่นน่ะ? วัวลอยอยู่บนฟ้าแล้ว ใครคุยโวกันเนี่ย?”
แค่หาบัวลอยของร้านหลงเฉิงก็ว่ายากแล้ว แล้วนี่เขาจะเรียกเชฟมากเลย มีเงินก็ทำไม่ได้หรอก!
อีกอย่างเจียงชื่อเป็นเพียงพนักงานทั่วไปที่มีเงินเดือนเจ็ดแปดพันเท่านั้น เรื่องอะไรที่เขาจะเชิญเชฟมาได้?
คงเป็นเรื่องตลกที่สุดในโลกก็ว่าได้!
แม้ฟังดูจะเป็นเรื่องไร้สาระ แม้ทุกคนจะไม่เชื่อในเจียงชื่อ แต่ติงเมิ่งเหยนเชื่อเขา
เคยเกิดขึ้นกี่ครั้งแล้ว?
ทุกๆ ครั้งเจียงชื่อก็เหมือนเสกคาถาเวทมนตร์ได้ ทุกๆ ครั้งเขาก็สามารถทำในสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถทำได้
ดังนั้น เธอจึงเต็มใจที่จะเชื่อในเจียงชื่อ
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้าตอบ “อื้ม ถ้ามีบัวลอยสดใหม่รสชาติดีจากร้านหลงเฉิง ฉันจะกินแน่นอน”
“โอเค ผมจะติดต่อให้คุณเดียวนี้”
เจียงชื่อจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาซุนจ้ายเย้น
“ฮัลโหล จ้ายเย้น ช่วยผมเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ผมอยากกินขนมบัวลอยของร้านหลงเฉิง คุณช่วยติดต่อหัวหน้าเชฟของร้านหลงเฉิง ให้เขามาที่ภัตตาคารฉางชิงแล้วทำขนมบัวลอยให้ลูกค้าวีไอพีห้องหกกินทีนะ”
“ครับ ผมจัดการให้เสร็จภายใน 15 นาทีครับ”