จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 667 หนูน้อยที่ติดอยู่ในกรง
บนถนนลาดยางอันกว้างขวางแห่งหนึ่ง มีรถเก๋งธรรมดาๆ คันหนึ่งวิ่งอย่างรวดเร็วอยู่บนนั้น
กระจกรถถูกเปิดทิ้งไว้ เสื้อผ้าของชายชราถูกโยนออกมาจากหน้าต่าง คนที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับก็คือเหยียนไคเหวินที่หนีไปด้วยกลยุทธ์จักจั่นลอกคราบนั่นเอง!
ขณะผิวปาก เขาเพลิดเพลินกับความสดชื่นของสายลมบนใบหน้าของเขา
“ความรู้สึกนี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ ”
” สุดท้ายฉันก็คือคนที่ฉลาดที่สุด ไอ้เจียงชื่อและจูหยุนเฉียง เจ้าหมูไง่ทั้งสองเอ๊ยค่อยๆ เล่นไปเถอะ กูไม่เล่นด้วยแล้วนะ”
“หลังจากที่ออกจากเมืองนี้ ฉันจะบินไปต่างประเทศทันที ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อยากหวังว่าจะสามารถจับตัวฉันได้ ฮ่าๆๆ”
ในเวลานี้ เขาอยู่ห่างจากนอกเมืองไม่ถึง 20 นาทีโดยรถยนต์
เขาไม่ได้เลือกสนามบินและสถานีรถไฟหรือสถานีขนส่งที่มีคนเยอะๆ แต่เลือกที่จะขับรถไปเอง เขาไม่ไปในเส้นทางที่มีคนเยอะแต่เลือกใช้เส้นทางที่มีคนน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครเห็นเขา
แม้จะระมัดระวังจนเกินไปหน่อย แต่ก็ต้องบอกว่าเคล็ดลับนี้ใช้ได้ผลดีทีเดียว
อีกสิบนาทีข้างหน้า หลังจากที่เขาออกไปถึงนอกเมือง เขาก็จะหมดความกังวลแล้ว
การออกจากเขตเจียงหนานนั้น เทียบเท่ากับการออกจากเขตอิทธิพลของเจียงชื่อ เขาไม่เชื่อว่าเจียงชื่อจะยังมีความสามารถตามเขาไปถึงนอกเมืองได้
ในขณะที่เขากำลังเคลิบเคลิ้มกับความสวยหรูนั้น เหยียนไคเหวินสังเกตเห็นว่ามีจุดตรวจชั่วคราวตั้งอยู่ข้างหน้าไม่ไกลอย่างงุ่มง่าม มีตำรวจจราจรกำลังตั้งด่านตรวจอาการเมาแล้วขับที่นั่น
“เชี่ย! น่ารำคาญจริงๆ”
เหยียนไคเหวินจอดรถและตำรวจจราจรก็ก้าวมาโค้งคำนับเขา ” สวัสดีครับ โปรดแสดงบัตรประจำตัวและใบขับขี่ของท่านด้วยครับ”
“เอาไป”
ตำรวจจราจรรับมาดูและพูดกับคนรอบข้างอย่างเงียบๆ แล้วส่งมันคืนให้กับเหยียนไคเหวิน
“ขอโทษครับ คุณไปไม่ได้ ได้โปรดกลับไปเถอะ”
“ว่าไงนะ?”
เหยียนไคเหวินงงเป็นไก่ตาแตก เขาไม่ใช่อาชญากรที่ถูกหมายจับสักหน่อย ทำไมถึงไม่ปล่อยเขาผ่านไป?
“คุณหมายความว่ายังไง? ทำไมผมถึงผ่านไม่ได้”
“ท่านครับ เราได้รับคำสั่งห้ามคนที่ชื่อ ‘เหยียนไคเหวิน’ผ่านไปได้เด็ดขาด”
พัพฟ์~~ นี่มันเหตุผลบ้าบออะไรเนี่ย?
เหยียนไคเหวินดุด่าว่า “คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่? การที่ผมใช้ชื่อนี้ผิดกฎหมายด้วยเหรอ? บอกมาสิ ผมมีอาชีพเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย คุณกล้าพูดจากับผมแบบนี้เหรอ เชื่อหรือไม่ว่าผมสามารถฟ้องคุณได้”
“ถ้าคุณต้องการจะฟ้องผม ก็เชิญเลยครับ”
นี่……
เหยียนไคเหวินพูดอะไรไม่ออก เขาจะไปกล้าฟ้องซะที่ไหน? ตอนนี้เขา ‘ตาย’แล้ว ทันทีที่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย ไม่เพียงแต่เจียงชื่อคนเดียวเท่านั้นที่จะจัดการกับเขา แต่ตำรวจก็จะไม่ปล่อยเขาไว้แน่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเป็นนักโทษที่ฆ่าคนตาย
ตอนนี้เขาควรทำอย่างไรดี?
เหยียนไคเหวินยืนเถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาเป็นเวลานาน จนกระริมฝีปากของเขาจะถลอกอยู่แล้ว อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยเขาไป
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เหยียนไคเหวินก็ทำได้แค่กลับรถและเปลี่ยนใช้ทางอ้อมแทน
หลังจากที่เหยียนไคเหวินจากไป ชายสองคนก็เดินเข้ามาจากข้างๆ และพวกเขาคือเจียงชื่อและมู่หยางอีนั่นเอง พวกเขารู้ทุกการเคลื่อนไหวของเหยียนไคเหวินมานานแล้ว จึงจงใจตั้งด่านที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้เขาผ่านไปได้
มู่หยางอีถามด้วยความสงสัยว่า “ลูกพี่ ทำไมเราไม่จับเขาโดยตรงเลยล่ะ?”
เจียงชื่อโบกมือ “เหยียนไคเหวินปัจจุบันเป็นเพียงหนูข้างถนนเท่านั้น ผมชอบที่จะเห็นเขาวิ่งไปวิ่งมาในกรงที่ผมออกแบบไว้ แต่ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถหนีพ้นไปได้”
คราวนี้เจียงชื่อมีไฟในใจจริงๆ และการตายของเฉิงไห่ทำให้เขาได้รับผลกระทบอย่างมาก
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เหยียนไคเหวินจะรอดชีวิต หรือแม้แต่จะตายดีก็เป็นไปไม่ได้!
เหยียนไคเหวินผู้น่าสงสารไม่รู้ว่าการเคลื่อนไหวของตัวถูกเปิดเผยแล้ว เขาขับรถวนไปวนมาในรอบเมือง พยายามจะหนีไปจากทางออกอื่น แต่ไม่ว่าเขาจะเลือกช่องทางไหนก็ไม่อาจผ่านได้
เขาก็เหมือนหนูตัวหนึ่ง เขาถูกเจียงชื่อกักขังไว้ในเขตเจียงหนานอย่างแน่นหนา คิดจะหนีเหรอ? ไม่มีทางหรอก!