จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 688 สันดานของหมาป่า
ที่แท้การที่เจียงชื่อจากไป ไม่ใช่เพราะต้องการปล่อยพวกเขาไป แต่เขาแค่ไม่อยากให้หยางจุนหรูได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ชุ่มไปด้วยเลือด การ ‘ลงทัณฑ์’ ที่แท้จริงนั้นได้มอบหมายให้พวกลูกน้องอย่างหัวล้านหลงจัดการแทน
แป๊ก
หัวล้านหลงดีดนิ้วไปทีหนึ่ง
จากนั้นก็เห็นลูกน้องหลายคนของเขาได้ลากหมาป่าที่ดุร้ายหกตัวเข้ามาด้านใน พวกมันทุกตัวต่างก็แยกเขี้ยวออกมาพร้อมกับน้ำลายที่ไหลเยิ้ม
“เพื่อนๆ ตัวน้อยของฉันหิวแล้ว”
“ไอ้ชี ขอโทษทีนะ”
ไอ้ชีตกใจจนน้ำตาไหลออกมาแล้ว ปกติเขาเป็นคนที่ใจกล้ามาก นั่นก็เป็นเพราะเขาสามารถรังแกคนอื่นได้โดยไม่สนใจอะไร ไม่ได้เป็นเพราะเขากล้าหาญเลยสักนิด
คนแบบนี้ ก็เปรียบเสมือนเสือกระดาษ
“หัวล้านหลง ยังไงเราก็เคยรู้จักกันมาก่อน แกช่วยปล่อยฉันไปได้มั้ย?”
“ฉันสัญญาว่าต่อไปจะไม่ไปยุ่งกับหยางจุนหรูอีกแล้ว”
“ไม่สิ ต่อไปฉันจะไม่แตะต้องผู้หญิงอีก ฉันขอร้องล่ะ ช่วยปล่อยฉันไปได้มั้ย?”
หัวล้านหลงจุดบุหรี่
“ปล่อยแกไปอย่างนั้นเหรอ? มันสายไปแล้ว ผู้หญิงบนโลกนี้มีตั้งมากมาย แต่แกก็ดันไปแตะต้องต่อมโมโห ซะได้ต่อให้เป็นเทวดาก็ช่วยแกไม่ได้แล้ว”
“ชาติหน้าตอนที่เกิดมา อย่าลืมเช็ดตาให้ชัดเจนหน่อยล่ะ”
พูดจบ หัวล้านหลงก็เดินสูบบุหรี่ออกจากโกดังไปอย่างมีสไตล์ จากนั้น พวกลูกน้องก็ได้ปล่อยมือจากเชือกที่ล่ามคอของหมาป่าทันที
หมาป่าทั้งหกตัวนี้ต่างก็หิวโซมาหลายวันแล้ว ทุกๆ ตัวต่างก็อยากกินเนื้อจนบ้าคลั่ง
บวกกับบนตัวของพวกไอ้ชีถูกราดไปด้วยเลือดสดๆ มันก็สามารถดึงดูดความสนใจของพวกหมาป่าได้เป็นอย่างดี ก็เท่ากับว่าพวกไอ้ชีได้กลายเป็นมื้ออาหารอันโอชะของพวกมันไป” หัวล้านหลง ไอ้เชี่ยแม่ง ไอ้ชาติหมาชาติชั่วทั้งตระกูล!”
ไอ้ชีคำรามออกมาเป็นครั้งสุดท้าย
เขาอยากที่จะหนี แต่ขาก็ถูกเจียงชื่อตีจนหักแล้ว พอขยับก็เกิดความเจ็บปวดรวดร้าวขึ้นมาทันที จึงไม่มีทางที่จะหนีรอดได้เลย
ยังเดินไม่ถึงสองก้าว ก็ต้องล้มฟุบลงกับพื้นทันที
ไอ้ชีคลานไปทางประตู
ทว่า สิ่งที่รอเขาอยู่ก็คือ หมาป่าที่ดุร้ายและหิวโหยกว่าปกติ
หมับ!หมาป่าตัวหนึ่งได้พุ่งเข้ามา กัดไปที่แขนของไอ้ชีอย่างจัง ใช้แรงกระชาก แล้วเนื้อที่แขนก็ฉีกออกไปชิ้นใหญ่
“อ้า!!!”
เสียงครวญครางที่เจ็บปวดรวดร้าวได้ดังขึ้นในโกดัง
หมาป่าทั้งหกตัวได้ฉีกกระชากพวกไอ้ชีอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องที่เจ็บปวดดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า กังวานอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่รกร้าง
ชีวิตนี้ของไอ้ชีไม่รู้ว่าเคยทำร้ายสาวงามไปตั้งเท่าไหร่แล้ว เขาจะไปนึกถึงได้ยังไงว่าในวันหนึ่ง ตัวเองจะต้องตายเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว
ไม่เพียงแค่เขาคนเดียวที่ต้องตาย พวกน้องชายของเขาก็ต้องมาตายตามไปด้วย
ทำชั่วได้ชั่ว
ในตอนที่คุณกำลังเล่นกับคนอื่นอย่างโหดเหี้ยม ก็ต้องเตรียมใจที่จะถูกคนอื่นเล่นกับตัวเองในสักวัน
การตายอย่างน่าอนาถ เป็นจุดจบเพียงอย่างเดียวของเขา
……
ในเวลาเดียวกัน ที่กลางถนน หลัวเฟิงกำลังไล่ถามผู้คนที่ผ่านมาอย่างบ้าคลั่ง ถามพวกเขาว่าเห็นภรรยาของเขาบ้างมั้ย
เขากำลังเจ็บปวด กำลังร้องไห้
เขาไม่กล้าจินตนาการว่าการที่ต้องสูญเสียหยางจุนหรูไปนั้นมันเป็นยังไง ถ้าต้องเสียหยางจุนหรูไป แล้วชีวิตของเขายังจะมีความหมายอะไร?
ไม่มีใครรู้ว่าหยางจุนหรูไปอยู่ที่ไหน
ผู้คนต่างก็คิดว่าหลัวเฟิงนั้นเสียสติไปแล้วจริงๆ ต่างก็พากันเดินหลบออกจากเขา
หลัวเฟิงคุกเข่าลงกับพื้น ใช้สองมือชกไปที่พื้น
“จุนหรู จุนหรู!!!”
ผู้ชายนั้นยากที่จะหลั่งน้ำตา เมื่อไหร่ที่หลั่งก็แสดงว่าต้องเป็นเรื่องที่เจ็บปวดแน่นอน
น้ำตาได้หลั่งไหลออกมาจากดวงตาอย่างไม่สามารถหยุดยั้งได้ หลัวเฟิงถึงขั้นมีความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตายแล้ว
นานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ได้เบาะแสอะไร คนร้ายก็มีเวลามากพอที่จะก่อเหตุแล้ว ต่อให้จะสามารถตามหาหยางจุนหรูจนเจอ เกรงว่า เกรงว่า……
เขาไม่กล้าจินตนาการ
ในตอนนั้นเอง ก็ได้มีเสียงที่ดังกึกก้องดังเข้ามาในหู
เป็นเสียงของรถมอเตอร์ไซค์
หลัวเฟิงไม่ได้สนใจมันมากนัก เขาแค่เพียงคุกเข่าอย่างเจ็บปวดอยู่บนพื้น สองมือทุบตีไปที่พื้น น้ำตาก็ไหลออกมาไม่ยอมหยุด
เสียงของรถมอเตอร์ไซด์ได้หยุดลงแล้ว
แล้วเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังเข้ามา
“พี่เฟิงคะ!
เหมือนดั่งลมอุ่นจากฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เรือนหอที่ถูกแช่แข็งของหลัวเฟิงละลายในพริบตา
“จุนหรู?!”
เขาลุกขึ้นมา แล้วสวมกอดกับหยางจุนหรูที่วิ่งเข้ามาอย่างแน่นแฟ้น ในที่สุดบุคคลที่น่าสงสารทั้งสองก็ได้มาเจอกันสักที
การกอดในครั้งนี้ ยาวนานไปสิบนาทีเต็ม ไม่มีใครอยากปล่อยมือทั้งนั้น
หลังผ่านไปเนิ่นนาน ทั้งสองถึงเช็ดน้ำตาแล้วแยกออกจากกัน
“จุนหรู ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่? ผมเป็นห่วงคุณแทบแย่”
หยางจุนหรูหมุนตัวแล้วชี้ไปยังเจียงชื่อที่อยู่ข้างถนน “ฉันถูกคนชั่วกลุ่มหนึ่งจับตัวไป โชคดีมากที่คุณหมอเทวดาเจียงมาถึงได้ทันเวลา ถึงได้ช่วยชีวิตของฉันไว้ ไม่อย่างนั้น ชีวิตนี้ของฉันคง……”
พูดไปพูดมา เธอก็เริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
หลัวเฟิงปลอบใจหยางจุนหรูไปหลายคำ จากนั้นก็เดินตรงมาที่เจียงชื่อ แล้วคุกเข่าลงไปทันที
“คุณหมอเทวดาเจียง คุณไม่เพียงช่วยผม แต่คุณยังช่วยชีวิตของจุนหรูไว้ด้วย คุณคือผู้มีพระคุณของเราทั้งคู่”
“จากนี้ไป ชีวิตของหลัวเฟิงคนนี้ได้เป็นของคุณแล้วครับ!”
“คุณอยากให้ผมทำอะไรผมก็จะทำ ต่อให้คุณอยากให้ผมไปตาย ขอแค่คุณบอกมาสักคำ ผมก็พร้อมที่จะตายทุกเมื่อครับ!”
เจียงชื่อได้ยิ้มออกมา
เขายื่นมือไปวางไว้บนไหล่ของหลัวเฟิง “มีสิ่งเดียวที่ผมอยากให้คุณทำ”
“เชิญพูดมาได้เลยครับ!”
“ผมอยากให้คุณ……มีชีวิตต่อไปดีๆ ”