จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 699 เล่นกับความรู้สึก
ค่ำคืนที่มืดมิด หลังจากที่ติงจื่อยวี่ส่งติงเฟิงเฉิงมาถึงที่บ้านเธอก็จากไปทันที
เธอไม่ได้รีบกลับไปที่บ้าน แต่เธอกลับไปยังเรือนจำที่อยู่ในเมืองก่อน พอเจอหน้าติงหงเหย้า
“พี่ใหญ่ แผนมันเป็นไปตามที่พี่คิดไว้ทุกอย่างเลยค่ะ ไอ้ห้าโง่ติงเฟิงเฉิงนั้น ในระหว่างที่มันขาดสติมันก็เอาหุ้นทั้งหมดที่มีไปเล่นจนเสียหมดเลยค่ะ!”
ใบหน้าของติงจื่อยวี่ได้เผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา ทุกอย่างมันราบรื่นมาก มันอยู่ในการควบคุมของเธอทั้งหมด
ตัดมาที่ติงหงเหย้ากลับดูใจเย็นมาก
พอนึกถึงสมัยก่อน เขาก็แทบจะทำสำเร็จแล้ว แต่สุดท้ายมันกลับพังไม่เป็นท่า
เขาในตอนนี้ มีสติกว่าตอนนั้นเป็นไหนๆ
ก่อนที่คุณจะทำสำเร็จ ต้องหนีบหางแล้วทำตัวให้เหมือนคน ระมัดระวังตัว จนกว่าคุณจะทำสำเร็จ
ติงหงเหย้าถาม “แล้วเจียงชื่อล่ะ? เขาจับผิดอะไรได้มั้ย?”
ติงจื่อยวี่ขมวดคิ้ว “เขาดูสงบอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้พูดอะไร ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่ ผู้ชายคนนี้มีความคิดที่แผนสูงอ่านออกได้ยากมาก”
ติงหงเหย้าพยักหน้า “ฟังจากที่เธออธิบายถึงเจียงชื่อคนนี้แล้ว ชายคนนี้รับมือด้วยยากแน่นอน”
“พี่คะ แต่แผนขั้นต่อไปเราก็ต้องจัดการเขาแล้วนะคะ!”
“ก็ใช่น่ะสิ คนอื่นเราจัดการได้หมดแล้ว ต่อไปก็เป็นคิวของหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในมือของติงเมิ่งเหยนแล้ว ถ้าลำพังแค่ติงเมิ่งเหยนคนเดียวมันก็ง่าย แต่ปัญหาคือข้างกายของเธอยังมีเจียงชื่ออยู่ด้วย”
ติงจื่อยวี่ถามไปว่า “พี่คะ พี่มีแผนอะไรดีๆ มั้ยคะ?”
ติงหงเหย้าตอบ “ยังไม่ต้องใจร้อน อยู่เงียบๆ ไปพักหนึ่งก่อนค่อยว่ากัน ถ้ามีการเคลื่อนไหวติดต่อกันอาจจะทำให้คุณท่านผิดสังเกตได้ ให้ฉันคิดดูดีๆ ก่อนว่าจะเอาชนะเจียงชื่อนั่นยังไง แล้วชิงเอาหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในมือของติงเมิ่งเหยนมาให้ได้”
“การจะรับมือกับติงเมิ่งเหยนนั้น จะใช้ไม้แข็งไม่ได้ และจะใช้สมองชิงมาไม่ได้ด้วย”
ติงจื่อยวี่รู้สึกงงแล้ว “ใช้ไม้แข็งก็ไม่ได้ ใช้สมองก็ไม่ได้ งั้นก็เท่ากับไม่มีทางไม่ใช่เหรอคะ?”
ติงหงเหย้ายิ้มออกมาแล้ว “ก่อนหน้านี้พวกแกใช้กลอุบายไปตั้งกี่ครั้งแล้ว มีครั้งไหนบ้างที่มันสำเร็จ ฉันว่านะ แผนการหลายครั้งที่พวกแกเคยใช้ ความจริงมันก็สมบูรณ์แบบมากแล้ว ต่อให้เป็นฉันก็ใช่ว่าจะสามารถคิดแผนที่ดีกว่านั้นได้”
“ดังนั้น การใช้กลอุบายนั้นจึงไม่มีทางได้ผล แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะหมดหนทางที่จะเล่นงานติงเมิ่งเหยนกับเจียงชื่อไปซะทีเดียว”
ติงจื่อยวี่รู้สึกร้อนใจขึ้นมา “พี่คะ แล้วพี่พอมีแนวทางบ้างมั้ยคะ?” “มี”
“แนวทางอะไรเหรอคะ?”
ถ้าต้องการเอาชนะเจียงชื่อล่ะก็ ตอนนี้มันยังเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลงมือที่ติงเมิ่งเหยน น้องเล็กของเราคนนี้มีจุดอ่อนที่ถึงตายอยู่——ให้ความสำคัญกับสายสัมพันธ์”
มุมปากของติงหงเหย้าได้ยิ้มออกมา “ไม่แน่ เราอาจจะหันมาเล่นกับความรู้สึก ต่อให้ไม่ใช้กำลังไม่ใช้สมอง ใช้แค่สายสัมพันธ์ทางสายเลือดที่มีต่อกัน ทำให้ติงเมิ่งเหยนยอมสละหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยตนเอง”
” สุดยอด!” ติงจื่อยวี่พูดออกมา “ถ้าติงเมิ่งเหยนยอมสละด้วยตนเอง แล้วเจียงชื่อมันจะพูดอะไรได้? เมื่ออยู่ต่อหน้าสายสัมพันธ์ทางสายเลือด ต่อให้เจียงชื่อมันจะเก่งสักแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
“พี่คะ พี่นี่เข้าใจมนุษย์อย่างถ่องแท้แล้วจริงๆ !”
พี่น้องทั้งสองหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ ราวกับว่าความสำเร็จกำลังกวักมือเรียกพวกเขาอยู่
ติงเมิ่งเหยนคนนี้เป็นคนที่จิตใจดี เป็นผู้หญิงอ่อนแอที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึก ดูแล้วไม่น่าจะต้านทานกับแผนการที่เล่นกับความรู้สึกได้
……
อีกด้านหนึ่ง เจียงชื่อที่เพิ่งส่งติงเมิ่งเหยนกลับบ้าน ก็ได้รับสายที่โทรมาจากหลัวเฟิง
“ฮัลโหล คุณหมอเทวดาเจียง คุณนอนรึยังครับ?”
“ยังครับ มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
“คืออย่างนี้ครับ คลับหยวนเทียนนั้นถูกบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งซื้อไปแล้วใช่มั้ยครับ? และผมก็กลายเป็นหัวหน้าโค้ชของสโมสรอย่างเป็นทางการแล้ว”
“งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”
“ตอนนี้คลับเทียนหยวนกำลังอยู่ในโซนตกชั้น เราต้องพยายามให้มากกว่าเดิม พรุ่งนี้ก็คือการแข่งนัดแรก และยังเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการนัดแรกที่ผมได้เป็นหัวหน้าโค้ชด้วย ผมอยากให้คุณมาดูการแข่งขันที่สนามถ้าเป็นแบบนั้นมันก็จะทำให้ผมยิ่งมีแรงฮึดสู้ยิ่งกว่าเดิมครับ!”