จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 738 ตรวจเลียละเอียด
“หืม?” หนิงคุนขมวดคิ้ว “เจียงชื่อเป็นลูกเขยแต่งเข้าของบ้านตระกูลติงเดิมของคุณไม่ใช่เหรอ? ทำงานอยู่ที่บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง เงินเดือนเดือนละไม่กี่พันหยวน มีอะไรให้น่าตรวจสอบล่ะครับ?”
ติงหงเหย้าส่ายหน้า
“ลูกเขยแต่งเข้าที่มีเงินเดือนเดือนละไม่กี่พันหยวน ไม่น่าจะมีอำนาจอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก”
“เขาจะต้องมีตัวตนบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้นแน่”
“จะต้องตรวจสอบให้เจอให้ได้”
หนิงคุนพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปตรวจสอบให้เดี๋ยวนี้ จะค้นหาเส้นสนกลในของเจียงชื่อออกมาให้กระจ่างชัดไม่มีเหลือเลยครับ”
เขาหันหลังแล้วเดินออกไปทันที
ติงจื่อยวี่ถามด้วยความไม่เข้าใจ: “พี่ชาย พี่แน่ใจได้ยังไงว่าเจียงชื่อมีตัวตนที่ลึกซึ้งกว่านั้น ถ้ามีจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่แม้แต่พวกเมิ่งเหยนก็จะไม่รู้หรอกมั้ง?”
“อันนี้มันก็พูดยากล่ะนะ”
ติงหงเหย้าถอนหายใจ “สัญชาตญาณของฉันมันบอกแบบนี้ แต่ไม่มีหลักฐานของจริงที่จะใช้พิสูจน์ได้ แต่ถ้ายึดจากผลงานที่ผ่านมาของเจียงชื่อ ฉันไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาเป็นแค่พนักงานบริษัทตัวเล็กๆ ”
“จริงด้วย หลายปีก่อนเจียงชื่อเคยไปเป็นทหารที่เวสเตอร์แลนด์ไม่ใช่เหรอ? คุณกลับบ้านไปลองถามคนของคุณดู ว่าสรุปแล้วตอนอยู่ที่เวสเตอร์แลนด์ เขาอยู่ในตำแหน่งอะไรกันแน่?”
ติงจื่อยวี่ยิ่งไม่เข้าใจหนักขึ้นกว่าเดิมแล้ว “จำเป็นด้วยเหรอ? แหวนโม่เขายุ่งมากนะ ให้เขาไปตรวจสอบประวัติทหารยศเล็กๆ คนหนึ่ง เขาอาจจะโกรธมากก็ได้”
“ถือซะว่าช่วยพี่สักครั้งก็แล้วกัน”
“ตกลงตามนั้น”
ในเวลานี้ติงจื่อยวี่ยังไม่ได้ตระหนักว่า ในอนาคตคำพูดประโยคนี้ของติงหงเหย้า จะนำพาความตื่นตระหนกตกตะลึงมาสู่พวกเขามากมายขนาดไหน เธอไม่อาจจินตนาการได้ไปตลอดกาลเลยว่า วินาทีที่เธอได้รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเจียงชื่อนั้น เธอจะแสดงสีหน้าท่าทางยังไงออกมา
ติงจื่อยวี่ก็ออกไปเช่นกัน
ติงหงเหย้าถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในออฟฟิศ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง พลางพูดกับตัวเองว่า: “ถ้าหาเจอได้จริงๆ ก็ยังดี แต่ถ้าหาไม่เจอล่ะก็….”
เขาไม่กล้าคิดเรื่องนี้อีกต่อไป
ในเวลาเดียวกัน ในคฤหาสน์หลังเก่าหมายเลข 33 ปรากฏเสียงหัวเราะดังครื้นเครง
ติงเฟิงเฉิงหัวเราะเสียงดังสนั่นลั่นห้อง
“เจียงชื่อ แกนี่โคตรเทพ ! ทุกอย่างเป็นไปตามที่แกคาดไว้หมดเลย ฉันชนะการประมูลได้โครงการมาไว้ในมือจริงๆ ด้วย”
“ตอนนี้บริษัทติงเหอของเรามีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว”
“ใครไม่รู้บ้างว่าที่ดินส่วนนั้นใน ที่ดินรกร้างทางเหนือของเมืองได้รับการพัฒนาโดยพวกเรา หลังจากนี้ไป บริษัทติงเหอเรา ก็ถึงขั้นแยกตัวออกจากบริษัทหลัก มาทำงานเองคนเดียวได้แล้ว”
เจียงชื่อจิบชานิ่งๆ
“นี่คงไม่ได้หรอก ที่ฉันอยากให้แกทำ คือการไปยึดตำแหน่งเจ้าบ้านคืนมา ไม่ใช่แยกตัวออกมาทำงานเองคนเดียว”
ติงเฟิงเฉิงหัวเราะเริงร่า “ตกลงตามนั้น ฉันเชื่อฟังคำพูดของแกทุกคำเลย แกพูดอะไรฉันก็จะทำอันนั้น”
เจียงชื่อเหลือบตามองไปทางติงเมิ่งเหยน
ติงเมิ่งเหยนหยิบรายชื่อออกมา แล้ววางลงบนโต๊ะด้วยความเข้าใจอย่างชัดเจน ” เฟิงเฉิง รายชื่อทั้งหมดที่อยู่ในนี้ เป็นพนักงานเก่าที่ถูกติงหงเหย้าไล่ออกหรือวางแผนไล่ออก พี่อ่านผ่านตาสักรอบก่อน”
ติงเฟิงเฉิงหยิบขึ้นมา กวาดสายตาอ่านจากบนลงล่างไปรอบหนึ่ง
“ป้าด! คนกลุ่มนี้เป็นพนักงานเก่าแก่ที่ทำงานกับคุณปู่มากว่าสิบ หรือไม่ก็ยี่สิบปีทั้งนั้นเลยนี่”
” มีบางคนที่มีสัมพันธ์แน่นแฟ้น จนนับถือกันเหมือนเป็นพี่น้องกับคุณปู่เลยด้วยซ้ำ ”
“ไอ้สารเลวติงหงเหย้านั่นไล่พนักงานเก่ากลุ่มนี้ออกจนหมด แล้วจากนี้ ตระกูลติงจะอยู่รอดต่อไปได้ยังไงล่ะ? ”
ติงเมิ่งเหยนพูดว่า: “ติงหงเหย้าได้วางคนใหม่จำนวนมากเข้าไปในบริษัท ทั้งหมดล้วนเป็นคนสนิทของเขา มีเป้าหมายเพื่อจะเปลี่ยนตระกูลติง ให้กลายเป็นเครื่องมือกอบโกยเงินทองให้พวกเขา สำหรับอนาคตของตระกูลติง นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาจำเป็นต้องคิดพิจารณาถึง”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดต่อไปว่า: “ตอนนี้ความคิดของฉันกับเจียงชื่อคือ การรับพนักงานที่ถูกไล่ออกทั้งหมดเหล่านี้มาที่บริษัทติงเหอของพี่ ต่อให้แค่รับแค่เงินแต่ไม่ทำงาน ก็ต้องเลี้ยงดูพวกเขาให้ดี อย่าได้นำพวกเขาไปไว้ที่บริษัทอื่นเด็ดขาด ”
“คนกลุ่มนี้ล้วนเป็นพนักงานเก่า ทุกคนล้วนมีหน้าที่รับผิดชอบที่ต่างกันไป และทั้งหมดต่างก็เป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของบริษัท ต้องไม่ปล่อยให้หลุดลอยสูญหายไปแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าพี่จะต้องใช้เงินมากเท่าไหร่ ก็ต้องเก็บพวกเขาไว้กับตัวให้ได้”
“สำหรับเรื่องเงิน บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง กับบริษัทหวาเทียนจะช่วยออกให้เอง”
ติงเฟิงเฉิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบไปทำตามนี้ทันที บอกตามตรงนะ ฉันล่ะเกลียดไอ้คนประเภทที่ได้ดีก็ถีบหัวส่งที่สุดเลย”
“ฉันสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อรักษาพนักงานเก่าเหล่านี้ไว้”
พูดจบ ติงเฟิงเฉิงก็หันหลังแล้วจากไป
เพิ่งไปถึงประตู จู่ๆ เขาก็หันหน้ากลับมา แล้วส่งเสียงตะโกนใส่เจียงชื่อดังลั่นว่า : “เจียงชื่อ ขอบคุณมาก!”
จากนั้น เขาก็รวดตะโกนใส่ติงเมิ่งเหยนไปอีกประโยคว่า: “เมิ่งเหยน ถือว่าเป็นบุญวาสนา เป็นสิริมงคลแปดชาติแปดภพจริงๆ ที่เธอได้แต่งงานกับสามีที่ดีขนาดนี้!”
ติงเมิ่งเหยน ถึงกับส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอขึ้นมาเสียงหนึ่ง
“พูดซะเหมือนอย่างกับว่า ฉันเป็นพวกปีนป่ายหวังเกาะกิ่งสูงงั้นแหละ ฉันไม่คู่ควรกับเขาขนาดนั้นเลยรึไงหา!?”
เจียงชื่อพ่นลมออกจมูกดังพรืด จับมือของติงเมิ่งเหยนขึ้นมา “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? เป็นฉันต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเธอ จนถึงตอนนี้ ก็ไม่ใช่ว่ายังต้องกินอยู่หลับนอนในบ้านของเธอเลยไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากพูดจบทั้งสามก็หัวเราะอย่างมีความสุข
ตอนที่เจียงชื่อกลับมาครั้งแรก ใครจะไปคิดล่ะว่า เขาจะนำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ตระกูลติงได้ขนาดนี้?
ในระหว่างที่คุยกันนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเจียงชื่อก็ดังขึ้น
เป็นหมายเลขโทรศัพท์หนึ่งที่เงียบหายไปนาน—-ฉีเจิ้นจากเครื่องประดับดาวฤกษ์สำนักงานใหญ่มิลานโทรเข้ามา
บนใบหน้าของเจียงชื่อปรากฏรอยยิ้มทันที
เมื่อเห็นเลขหมาย เขาก็รู้แล้วว่าเป็นสถานการณ์อะไร
เครื่องประดับดาวฤกษ์ได้วางแผนกระจายสินค้าภายในประเทศมานานแล้ว เพื่อสร้างผลสัมฤทธิ์ของแบรนด์ในเขตเจียงหนาน หลังจากวางแผนมานาน ในที่สุดตอนนี้ก็กำลังจะเริ่มลงมืออย่างเป็นรูปธรรมแล้ว
“ฮัลโหล เจ้านายฉี ในที่สุดนายก็มาเขตเจียงหนานแล้วเหรอ?”
“มาแล้วล่ะ นี่ยังคิดอยู่ว่าอยากไปหาเพื่อนเก่าอย่างนาย จะได้ระลึกถึงความหลัง กับคุยกันถึงเรื่องเมื่อสมัยเก่าสักหน่อย ”
“ฮะๆ งั้นก็รีบมาเลย