จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 959 บัตรเชิญที่ลึกลับ
กลับมาถึงบ้านตอนเที่ยง ซูฉินก็เตรียมอาหารเลิศรสไวเต็มโต๊ะแล้ว
พอเจียงชื่อเดินเข้าประตูมา ก็เห็นติงฉี่ซานที่เหมือนกำลังเตรียมอะไรบางอย่างอยู่สีหน้าก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เหมือนเจอกับปัญหาที่ใหญ่โตเข้า
เขาหันไปถามติงเมิ่งเหยน พ่อเขาเป็นอะไรเหรอครับ? ติงเมิ่งเหยนยักไหล่ ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวคุณก็ทำตัวแปลกๆ เดี๋ยวพ่อก็ทำตัวแปลกๆ ฉันละไม่รู้จริงๆ ว่าช่วงนี้พวกคุณเป็นอะไรกันแน่
ซูฉินเรียก ตาแก่ กินข้าวได้แล้ว
ติงฉี่ซานไม่แม้แต่จะสนใจ เงยหน้าขึ้นมามองนาฬิกาที่อยู่บนกำแพง อีกสิบนาทีก็จะเที่ยงแล้ว เขารีบไปเปิดทีวี
ซูฉินไม่ค่อยพอใจ ฮึ เรียกให้มากินข้าวก็ไม่มา แล้วยังจะไปเปิดทีวีดูอีก? นี่ตาแก่ นี้คุณตั้งใจกวนโอ๊ยใช่มั้ย?
ชู่ว เงียบไปเลย!
วันนี้ติงฉี่ซานทำตัวแปลกมาก
ติงเมิ่งเหยนกับซูฉินหันมามองหน้ากัน ต่างก็สังเกตถึงความผิดปกติแล้ว ไม่ใช่ว่าตาแก่ไปก่อเรื่องอะไรไว้หรอกนะ?
ติงเมิ่งเหยนถามอย่างระมัดระวัง พ่อคะ พ่อก่อเรื่องอะไรไว้ข้างนอกใช่มั้ยคะ?
ติงฉี่ซานมองบนใส่เธอ เอาอะไรมาพูด? ฉันกำลังกังวลเรื่องของผู้บริหารระดับสูงต่างหาก
ผู้บริหารระดับสูงเหรอคะ? เกิดอะไรขึ้นกับเขา? หรือต่อให้เกิดอะไรขึ้นกับเขา มันก็ไม่เรื่องที่พ่อต้องกังวลนี่คะ พ่อจะทำอะไรให้เขาได้? พ่อเป็นแค่ผู้อำนวยการเล็กของสำนักงานทรัพยากรน้ำเท่านั้น
ติงฉี่ซานพูด แกจะไปรู้อะไร? เช้านี้ฉันได้รับเรื่องมาจากวงใน ว่า…..
เขายังไม่ทันได้พูดจบ ข่าวในทีวีก็เด้งขึ้นมา
ข่าวเที่ยงวัน ข่าวใหญ่ข่าวด่วน
พิธีกรใส่สูทที่เรียบร้อย และพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า : ตรงนี้มีข่าวสำคัญที่ต้องประกาศให้ประชาชนทุกท่านคนในเขตเจียงหนานทราบว่า ผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนานตัดสินใจลาออกแล้ว ส่วนแถลงการณ์เรื่องรายละเอียดในการลาออกจะถูกจัดขึ้นในตอนเที่ยงของวันมะรืนครับ…….
พอได้ฟังขาวแบบนี้ ติงฉี่ซานก็เอาแต่ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง
เขาพูดปนถอนหายใจไป เฮ้อ! ตอนเช้าที่ฉันไปรับข่าวจากวงในก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ แล้ว ดูแล้วตอนนี้ เรื่องนี้น่าจะเป็นจริงแล้ว ผู้บริหารระดับสูงที่มาใหม่คนนี้คงต้องลงจากตำแหน่งจริงๆ แล้ว
ติงเมิ่งเหยนขมวดคิ้วอย่างแรง แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจว่า เวลาปีกว่าที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงที่มาใหม่ก็ทำได้ไม่เลวเลย ระบบระเบียบของเขตเจียงหนานดีขึ้นอย่างมาก GDPก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รายได้ของประชาชนน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ผู้นำที่น่ายกย่องแบบนี้ จู่ๆ บอกว่าจะลาออกก็ลาออกไปได้เหรอ? หรือว่า เขาจะถูกใจเบื้องบน แล้วถูกเลื่อนตำแหน่งรึเปล่า?
ติงฉี่ซานส่ายหน้า ไม่ จากข้อมูลวงในที่ฉันได้มา ผู้บริหารระดับสูงคนนั้นเขาขอลาออกเอง เขาไม่ได้ถูกเลื่อนขั้น และเบื้องบนก็ปวดหัวกับเรื่องนี้มาก แถมยังได้ยินว่าจะมีการลงโทษอย่างหนักกับผู้บริหารระดับสูงคนนี้ด้วย ซูฉินพูดด้วยความเป็นห่วงว่า ช่วงนี้ผู้บริหารระดับสูงได้สร้างผลงานไว้มากมาย ไม่ตบรางวัลยังพอว่า นี่ยังคิดจะลงโทษอีกอย่างนั้นเหรอ?
ติงฉี่ซานยักไหล่ อันนี้ผมก็ไม่รู้แล้ว เหมือนจะยึดตำแหน่งทั้งหมดของเขาคืน รวมถึงยศที่เขาเคยได้รับในอดีตด้วยส่วนรายละเอียดผมเองก็ไม่รู้
ทั้งสามคนพูดคุยหารือกันอย่างดุเดือด
กับคนที่กำลังเป็นประเด็น—-เจียงชื่อกลับเดินมาข้างๆ ด้วยความจนใจ ตักข้าวอย่างเงียบๆ
เขาไม่ชอบเข้าร่วมในบทสนทนาแบบนี้
ผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนานอย่างนั้นเหรอ? เทพแห่งสงครามชูร่า? คืนก็คืนไปสิ สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือคนในครอบครัวได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ต้องการให้พ่อของเขากลับมาอย่างปลอดภัย
อำนาจหรือชื่อเสียง มันไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลย
ระหว่างที่คนในบ้านกำลังหรือกัน ข้างนอกก็มีเสียงแตรดังขึ้น หืม? ใครมาน่ะ?
ติงฉี่ซานมองไปข้างนอก แล้วเห็นรถตำรวจคันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าประตู ตำรวจที่ถือจดหมายไว้ในมือกำลังวิ่งมาที่ประตู
ไม่ทราบว่าเป็นบ้านของคุณติงฉี่ซานรึเปล่าครับ?
ใช่ครับ ติงฉี่ซานรู้สึกกลัวนิดๆ อยู่ดีๆ ตำรวจมาทำอะไรที่นี่นะ?
นี่เป็นจดหมายของคุณที่ส่งมาจากในเมืองครับ โปรดรับไว้ด้วย
ในเมือง? จดหมาย?
ติงฉี่ซานรับจดหมายไว้ด้วยความมึนงง นั่งลงบนโซฟา แล้วเปิดออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ในซองจดหมายมีบัตรเชิญอยู่สามใบ
เขาหยิบมันออกมาหนึ่งใบ และอ่านออกเสียงว่า ขอเรียนเชิญคุณติงฉี่ซานเข้าร่วมงานพิธีปลดเกษียณของผู้บริหารระดับสูงประจำเขตเจียหนาน!
ด้านล่างยังบอกเวลาและสถานที่ไว้อย่างชัดเจน
ติงฉี่ซานถึงกับงงไปเลย เขาที่เป็นแค่ผู้อำนวยการเล็กๆ ของสำนักงานทรัพยากรน้ำ จะความสามารถมากพอที่จะไปร่วมงานพิธีใหญ่โตได้ที่ไหน?
ยังมีอีกสองฉบับ แบ่งเป็นของติงเมิ่งเหยนกับซูฉิน
นี่มันยิ่งน่าแปลกเข้าไปใหญ่
ไม่ว่ายังไงติงฉี่ซานก็ยังเป็นข้าราชการ การที่เธอได้ออกงานก็ยังพอเข้าใจได้ แต่กับติงเมิ่งเหยนและซูฉินล่ะมีคุณสมบัติอะไรที่จะเข้าร่วมด้วย?
ซูฉินพูดขึ้นว่า บางทีอาจเป็นเพราะตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของเมิงเหยนในเครื่องประดับดาวฤกษ์รึเปล่า?
ติงฉี่ซานส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง เลิกเหลวไหลได้แล้ว ถ้าเกิดว่าจะเชิญ ก็ต้องเชิญฉีเจิ้น ไม่ใช่มาเชิญเมิ่งเหยนแบบนี้! ที่สำคัญคือทั้งเมืองมีบริษัทใหญ่อยู่ตั้งเท่าไหร่ ถ้าเชิญทั้งหมด มันจะพอนั่งเหรอ? ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าเมิ่งเหยนออกงานในฐานะผู้จัดการใหญ่ แล้วยายแก่อย่างคุณล่ะออกงานในฐานะอะไร? คุณนั้นเป็นแค่ป้าที่ซักผ้าทำกับข้าวอยู่ในบ้านว่างๆ ก็ออกไปเต้นแอโรบิคเท่านั้น คุณว่าคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะไปเข้าร่วมพิธีปลดเกษียณของผู้บริหารระดับสูงอย่างนั้นเหรอ?
คำถามนี้ก็ทำให้ซูฉินถึงกับงงไปเลย