จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 963 คนส่งสาร
ถังแหวนโม่จัดระเบียบชุดสูท นั่งลงบนเก้าอี้ที่มีอย่างจำกัดในงาน ทำหน้าได้ใจ
เมื่อกี้เขาถือว่าทำได้เท่ห์มาก
คนบ้านตระกูลติงถูกเขาส่งตัวออกไปทั้งหมด ถ้าไม่ถูกขังสักหลายเดือนก็ไม่ต้องคิดที่จะออกมาเลย! เขาจะปล่อยให้ภรรยาของเขาถูกขังอยู่ข้างในคนเดียวหรอก ต้องลากคนเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนด้วย
คิดแล้วก็รู้สึกสะใจ
ระหว่างที่คิดแบบนี้ มือถือของเขาก็ได้ดังขึ้น
เป็นเบอร์ที่ไม่ทราบชื่อ
ถังแหวนโม่ขมวดคิ้ว ทำไมถึงมีเบอร์แปลกโทรมาได้? ใครกัน?
เขาตัดสินใจรับสาย
ฮัลโหล ไม่ทราบว่าใครครับ?
เจียงชื่อ
พอได้ยินสองพยางค์นั้น อารมณ์ของถังแหวนโม่ก็เปลี่ยนไปทันที เขาโกรธแค้นชายคนนี้ถึงขีดสุด แต่เขาก็รู้ดีว่าเจียงชื่อโทรตอนนี้ด้วยเรื่องอะไร
จะเรื่องไหนอีกล่ะ?
ก็ต้องเป็นเรื่องคนในตระกูลติงอยู่แล้ว
และเป็นไปตามคาด เจียงชื่อได้พูดเข้าประเด็นทันที ถังแหวนโม่ เห็นแก่ที่เราเป็นญาติกัน ผมตัดสินใจที่จะให้โอกาสคุณอีกครั้ง คุณรีบไปรับคนในครอบครัวของผมออกมาจากในห้องขังเดี๋ยวนี้ ขอโทษพวกเขา แล้วผมจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น วันนี้เป็นวันพิเศษ ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรมากมาย
ถังแหวนโม่ฟังแล้วก็แอบขำในใจ
ฮึฮึ นี่มันอะไร? ข่มขู่เหรอ?
ต้องรู้ไว้ว่า ถังแหวนโม่นั้นเป็นถึงรองผู้บัญชาการฝ่ายตะวันออกของจ้านยู่ ส่วนเจียงชื่อนั้นเป็นแค่ลูกเขยไร้ค่าที่แต่งเข้าบ้านเท่านั้น ได้ข่าวว่าช่วงนี้ยังตกงานด้วย
ฐานะของทั้งคู่แตกต่างกันถึงขาดนี้ แต่เจียงชื่อยังกล้า ‘ออกคำสั่ง’ กับถังแหวนโม่อีก นี่มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
ถังแหวนโม่พูดพร้อมกับขำออกมาอย่างไม่ชอบใจว่า เจียงชื่อ แกคิดว่าแค่ฉลาดนิดหน่อยแล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามที่แกต้องการแล้วรึไง? ฉันจะบอกอะไรให้นะ วันนี้คนทั้งบ้านของติงฉี่ซานมันออกมาไม่ได้แล้ว และจะบอกด้วยว่า ไม่ใช่แค่วันนี้ที่ออกมาไม่ได้ อีกหนึ่งวัน สองวัน สามวัน ก็ออกมาไม่ได้! สามเดือน ฉันบอกแกได้เลย อย่างน้อยสามเดือนที่พวกมันต้องถูกขังอยู่ในนั้น และฉันยังจะบอกแกด้วยว่า พวกมันจะได้ในนั้นอย่างไม่เป็นสุขแน่! เมียที่หน้าตาสะสวยของแก พอออกมาก็ต้องกลายเป็นยายแก่หนังเหี่ยว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
ถังแหวนโม่หัวเราะออกมาอย่างสะใจ
เมื่อก่อนเขาเคยถูกเจียงชื่อทำให้อับอายมาตั้งหลายครั้ง ครั้งนี้จึงถือโอกาสแก้แค้นให้สาสมซะเลย
อีกฟากของสายไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับ
แกร้ก สายถูกตัดไป
ถังแหวนโม่ขำอย่างไม่ชอบใจอยู่ในสาย กะอีแค่มดปลวก ยังกล้ามาพูดจาแบบนี้กับฉันอีก? ไม่รู้จักเจียมตัวเอาซะเลย
เขาวางแผนเอาไว้แล้ว หลังเสร็จงานพิธีปลดเกษียณในวันนี้ จะรีบไปจับตัวเจียงชื่อที่อยู่ในบ้านตระกูลติง ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นพวกเดียวกับคนบ้านติงฉี่ซาน
ระหว่างที่กำลังได้ใจอยู่นั้นเอง พอเงยหน้า ถังแหวนโม่ก็เห็นคนหลายคนกำลังเดินตรงมาที่ตน
คนที่เป็นหัวหน้านั้นดูไม่ธรรมดา ดูมีราศีมาก
ซึ่งเขาก็คือมู่หยางอี
ใครๆ ต่างรู้ มู่หยางอีนั้นเป็นลูกน้องคนสนิทของผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับสูงมีเรื่องอะไรก็จะทำงานผ่านมู่หยางอีทั้งนั้น
การให้เกียรติเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับการให้เกียรติผู้บริหารระดับสูง
ถึงแม้ตำแหน่งของมู่หยางอีจะต่ำกว่าถังแหวนโม่นิดหน่อย แต่ถังแหวนโม่ก็ไม่กล้าทำอะไรโดยไม่ระวัง เขารีบลุกพร้อมรอยยิ้ม
ท่านผบ.มู่ สวัสดีครับ
มักพูดกันว่าถ้ารับผิดแล้วก็ไม่ควรตบหน้าคนอื่น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าถังแหวนโม่ที่ทำหน้ายิ้มแย้ม มู่หยางอีกลับไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
เขาพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า ถังแหวนโม่ รองผู้บัญชาการถัง คุณนี่มันใจกล้าจริงๆ!
น้ำเสียงซื่อตรง แฝงด้วยความดุดัน
ต่อให้เป็นถังแหวนโม่ ก็ยังต้องตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ เขาถึงกับก้าวถอยหลังก้าวหนึ่งโดยอัตโนมัติ
เขากลืนน้ำลาย ถามด้วยใบหน้าที่ยังคงยิ้มแย้มว่า ท่านผบ.มู่ ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ?
มู่หยางอีจ้องเขม็งไปที่ถังแหวนโม่ ฮึๆ ยังจะถามอีก? คุณทำอะไรไปไม่รู้สึกเอะใจบ้างเหรอ?
ถังแหวนโม่รู้สึกจนใจ
เขาทำอะไรไป? เขาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยนี่
เขาไปเคยพบหน้ากับผู้บริหารระดับสูง ตามหลักแล้ว จึงไม่มีทางไปล่วงเกินผู้บริหารระดับสูงเลย แล้วทำไมตอนนี้มู่หยางอีถึงมาถามหาความผิดด้วยตนเองได้ล่ะ?
คิดไม่ตกจริงๆ
มู่แหวนอีพูดต่อ ผมถามคุณ ทำไมคนบ้านตระกูลติงถึงถูกตำรวจจับตัวไป?
ถังแหวนโม่เข้าใจในทันที จึงรีบตอบไปว่า ประชาชนไร้ค่าอย่างพวกมันปลอมแปลงบัตรเชิญของผู้บริหารระดับสูงต้องการแฝงตัวเข้าไปในงาน โชคดีที่ผมจับได้ก่อน จึงรีบจับตัวไป
เหลวไหล!
มู่หยางอีจ้องเขม็งไปที่ถังแหวนโม่ คนบ้านตระกูลติงเป็นแขกคนสำคัญของผู้บริหารระดับสูง เป็นแขกที่สำคัญที่สุดของแขกผู้มีเกียรตินับร้อยที่มาร่วมงานในวันนี้! ถ้าไม่มีพวกเขา งานพิธีปลดเกษียณในวันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องจัดต่อแล้ว!
ถังแหวนโม่ฟังจนงงไปหมดแล้ว
คนบ้านตระกูลติงมีความสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?
ถ้าลองถามแขกที่มาร่วมงานในวันนี้คนไหนก็ได้ ใครบ้างที่ไม่ใช่คนใหญ่คนโตที่มีหน้ามีตา?
ถ้าไม่รวยก็มียศ
กวาดตามองไป ทุกคนต่างก็มีฐานะที่สูงกว่าคนบ้านตระกูลติงทั้งนั้น
แต่มู่หยางอีกลับบอกว่าคนบ้านตระกูลติงเป็นแขกที่สำคัญที่สุดในงานประชุมของวันนี้ นี่มันกำลังล้อเล่นกับเขาอยู่ใช่มั้ย?
ถ้าคนอื่นเป็นคนพูดแบบนี้ ถังแหวนโม่ก็คงตบหน้ามันไปแล้ว ล้อเล่นอะไรกัน? แต่พอมันถูกพูดออกมาจากปากของมู่หยางอี น้ำหนักมันก็เพิ่มขึ้นทันที
มู่หยางอีเป็น ‘คนส่งสาร’ ของผู้บริหารระดับสูง คำพูดของเขาก็คือคำพูดของผู้บริหารระดับสูง
มีค่าเป็นอย่างมาก
ถังแหวนโม่เริ่มร้อนใจแล้ว เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคนบ้านติงฉี่ซานจะสำคัญขนาดนี้
ตอนนี้ควรทำยังไงดี?