จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 971 สารภาพตามความจริง
บรรยากาศในสถานการณ์อึดอัดเล็กน้อย
ติงเฟิงเฉิงยังคิดอยากจะพูดอะไรที่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย แต่ถูกติงฉี่ซานใช้สายตาทำให้กลัวไม่กล้าเปิดปากพูด
ติงฉี่ซานสูดหายใจเข้าลึกๆหลายครั้ง จ้องมองเจียงชื่อเป็นเวลานาน ถึงจะค่อยๆเปิดปากพูดว่า เจียงชื่อ นายปิดบังได้มิดชิดจริงนะ ทั้งๆที่ฐานะสูงส่งแต่กลับยินยอมมาเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้าน ถูกพวกเราตระกูลติงดูถูกเยาะเย้ยมานานขนาดนี้ เหอๆ นายคิดจะทำอะไร? นายถือตัวเองเป็นแบทแมนเหรอ? กล้ำกลืนต่อการว่ากล่าว เป็นฮีโร่ในที่มืดเหรอ?
เจียงชื่อยิ้มอย่างขมขื่นไม่พูดอะไรสักคำ
ที่ควรพูดเขาก็พูดในงานหมดแล้ว ที่ควรอธิบายก็อธิบายหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดอีก
ติงเฟิงเฉิงมองท่าทางเจียงชื่อแล้วรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย รีบช่วยไกล่เกลี่ยทันที อาสาม เจียงชื่อก็เคยพูดแล้วไม่ใช่เหรอ? เขากลัวพวกคุณ..
กลัวพวกเราอะไร? ติงฉี่ซานพูดด้วยความโกรธ กลัวพวกเราอาศัยบารมีแล้วมาอวดเก่ง? ยืมชื่อเสียงของเขาไปทำเรื่องไม่ดีเหรอ? เหอๆ เห็นพวกเราเป็นอะไร?
ไม่ใช่ อาสาม คุณคิดมากเกินไปแล้ว
ซูฉินก็เตือนอยู่ข้างๆว่า ตาแก่ นิสัยเจียงชื่อคุณก็รู้ ที่เขาไม่พูดก็เพื่อพวกคุณ กลัวพวกคุณจะเจอเรื่องอันตราย เพียงแต่เจียงชื่อไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ อยู่ที่บ้านก็แค่อยากได้ความอบอุ่นจากบ้านเท่านั้น
ผ่านการอธิบายจากติงเฟิงเฉิงกับซูฉิน ติงฉี่ซานก็รู้สึกหายโกรธไปเกือบครึ่ง
เดิมเจ้าตัวเขาก็ไม่ได้เกลียดอะไรในตัว เจียงชื่อ เพียงแต่ถูกปิดบังไว้นานขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
สุดท้าย ติงฉี่ซานก็พูดว่า ไม่ใช่ฉันว่านาย เจียงชื่อเอ้ย จากนี้ต่อไปมีเรื่องอะไรนายต้องบอกพวกเราล่วงหน้า ให้พวกเราเตรียมใจไว้หน่อย ฉันกับแม่นายอายุมากแล้ว รับแรงกระตุ้นขนาดนี้ไม่ไหว วันนี้ตอนอยู่ที่งานฉันเกือบจะตกใจจนเกือบช็อกตายไปแล้ว!
ติงเฟิงเฉิงกับซูฉินต่างแอบหัวเราะ
วันนี้ตอนอยู่ที่งานติงเฟิงเฉิงไหนจะถูกทำให้ตกใจแทบช็อกอย่างนั้น? เขาตื่นเต้นที่สุดในหมู่ผู้ชม ตบมือดังที่สุด ตกตะลึงจนจะขึ้นสวรรค์แล้ว
ชะงัก เขาพูดต่อว่า แต่ ผู้บริหารระดับสูงเนี่ยนายทำได้ดีนะ เอาความสามารถก็มีความสามารถเอาผลงานก็มีผลงาน ทำไมต้องลาออกถอนตัวล่ะ?
เจียงชื่อตอบ เหนื่อยแล้ว
ติงฉี่ซานถอนหายใจ ใช่สิ ใครก็ตามที่อยู่ในสถานะของเจียงชื่อจะเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ซูฉินพูดอยู่ข้างๆ เห้ ลาออกก็ลาออกไปแล้ว อาศัยความสามารถและมนุษยสัมพันธ์ของชื่อเอ๋อ ต่อไปต้องกลัวด้วยเหรอว่าจะไม่สามารถหาเงินได้แล้ว? ไม่เป็นไร พักผ่อนอยู่บ้านสักระยะหนึ่งค่อยว่ากัน
ติงฉี่ซานส่ายศีรษะ จริงๆผมไม่ได้อะไร แต่เมิ่งเหยน…
เขามองไปทางเจียงชื่อ พวกคุณเป็นสามีภรรยา คุณปกปิดเธอมานานขนาดนี้ เยอะขนาดนี้ ยากที่จะเลี้ยงต่อการมีปัญหาความรู้สึกระหว่างสามีภรรยา เดิมเธอก็เคยภูมิใจในตัวคุณ แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ที่ถูกคุณปั่นหัว เมิ่งเหยนอยู่ในห้องนอน เข้าไปข้างในแล้วอธิบายให้เธอฟังด้วยตัวเองเถอะ
เจียงชื่อพยักหน้า ก้าวเดินเข้าไปถึงประตูห้องนอน
ผลักประตูเข้าไป
สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาคือรูปร่างที่สง่างามของติงเมิ่งเหยน ทุกครั้งที่เขากลับบ้านจะเห็นติงเมิ่งเหยน เจียงชื่อจะรู้สึกมีความสุข
เขาหันมือไปปิดประตู
ที่รัก…
ติงเมิ่งเหยนมองก็ไม่มองเขา หันหน้าหนีไป
เจียงชื่อชะงัก เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะทำให้ผู้หญิงมีความสุขด้วยวาทศิลป์ เขามีอารมณ์เคอะเขินและเป็นผู้ชายตรงไปตรงมาเกินไป
ดังนั้น วันนี้ตอนเรื่องแบบนี้ที่อยู่ตรงหน้า เขาก็วุ่นวายสับสนจนทำอะไรไม่ถูก
ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร และก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไร
เหมือนไอ้โง่ยืนอยู่ตรงนั้น แค่ยืนก็5-6นาที
ติงเมิ่งเหยนนั่งอยู่บนเตียงขมวดคิ้วแน่น กระแทกเตียงอย่างแรง แล้วทำปากมุ่ยและพูดอย่างออดอ้อนว่า:
ถึงตอนนี้แล้ว คุณยังไม่กอดฉัน ปลอบฉันเหรอ?!
หมดทางเยียวยาจริงๆ
เจียงชื่อถึงจะรู้ตัว รีบถอดรองเท้า ปีนขึ้นเตียงอย่างกระวนกระวายกอดติงเมิ่งเหยนไว้
ติงเมิ่งเหยนยังแกล้งทำเป็นขัดขืนทีสองที ครั้งนี้เจียงชื่อไม่โง่ปล่อยมือ แต่กอดไว้แน่นๆ
ที่รัก ขอโทษที่ปกปิดคุณมานานขนาดนี้
ตลอดเวลาผมก็อยากจะหาโอกาสคุยกับคุณ แต่ทุกครั้งพอคำพูดติดอยู่ที่ปากก็ไม่รู้จะเปิดปากพูดยังไง ถึงได้ปกปิดมาตลอด
นี่ยังไม่แปลกใจ ด้วยนิสัยของเจียงชื่อ หากพูดออกมานั่นถึงจะเรียกว่าแปลก
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจอย่างเย็นชา ถามด้วยความโกรธว่า นี่ก็คือสิ่งที่คุณบอกฉันเมื่อสามวันก่อน ถึงเวลาฉันก็จะรู้เรื่องทั้งหมด?
ใช่
ยังใช่อีก? เจียงชื่อ คุณนี่ร้ายจริงๆ!
ติงเมิ่งเหยนทุบตีไปที่หน้าอกของเจียงชื่อ สักพักก็จี้ถามต่อว่า บอกความจริงมา นอกจากเรื่องนี้ที่โกหกฉัน ยังมีเรื่องอะไรที่โกหกฉันอีกไหม?
ผมไม่เคยโกหกคุณนะ เพียงแต่ไม่ได้บอกคุณเท่านั้น
นั่นแหละที่เรียกว่าโกหก!
เอ่อ…
ติงเมิ่งเหยนทำปากจู๋ ดูท่าทางคุณน่าจะเป็น’ผู้กระทำผิดซ้ำซากจนชิน’แล้ว ยังมีเรื่องอะไรโกหกฉันอีก บอกมาตั้งแต่ต้น!
เจียงชื่อก้มศีรษะคิด ไม่มีเรื่องที่โกหกคุณแล้วนะ อ้อใช่แล้ว ที่เครื่องประดับดาวฤกษ์ผมยังมีหุ้นสามส่วนนั่นถือว่าเป็นเรื่องปิดบังคุณไหม?
ห้ะ? ติงเมิ่งเหยนตกใจ ฉันก็ว่าทำไม ฉีเจิ้นถึงสุภาพกับคุณขนาดนั้น? ที่แท้คุณเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นนิ? พูดสิ ยังมีอะไรอีกไหม?
เจียงชื่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง อืม… ผมเป็นลูกศิษย์ของนายท่านที่คลินิกเหรินจื้อ ดูเหมือนคุณจะรู้แล้ว? นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งเป็นของผมมานานแล้ว และคนที่กลับมาอยู่เบื้องหลังก็คือผม ยังมีอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ ผมก็เป็นคนลงทุนสร้าง ‘อี้โม่’ ก็คือเพื่อระลึกถึงความทรงจำที่มีต่อน้องชาย… (อี้โม่แปลว่าไว้อาลัยต่อเจียงโม่)