จอมนักรบอหังการ - บทที่ 122 ท่านฉาวและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง
จอมนักรบอหังการ บทที่ 122 ท่านฉาวและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง !
แต่ในขณะที่ฉาวซิงสงสัยอยู่นั้น โจวฉินก็แสยะยิ้มออกมา หันไปต่อว่าเย่อู๋เทียนว่า “นายเป็นใครกัน ? ถึงกล้าพูดกับปู่เฉาอย่างนี้ได้ ! ที่คุณหยางมาชอบนาย ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของนายมากขนาดไหนแล้ว แต่นายกลับไม่รู้จักแยกแยะอันไหนดีอันไหนชั่ว !”
โจวฉินพูดแบบนี้ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลของเธออยู่
เธอเป็นเมียน้อยของฉาวซิง และยังอุ้มท้องลูกของฉาวซิงอยู่ด้วย
แม้ว่าเธอเพิ่งจะทราบว่าหยางเฟยเอ๋อร์คือลูกสาวของฉาวซิง และในสายตาของเธอนั้น ยังเห็นว่าหยางเฟยเอ๋อร์มีแนวโน้มที่จะเข้ามาเป็นอุปสรรคสำหรับเธอที่จะเข้างานวิวาห์ของตระกูลฉาวในอนาคต แต่จากการคำนวณในวันนี้ เธอทำได้เพียงยืนอยู่ข้างเดียวกันกับฉาวซิง เท่านั้น ถึงจะสามารถรักษาตำแหน่งของเธอให้มั่นคงได้
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เกาเยว่หรูเพิ่งจะสร้างความอับอายให้แก่เธอ เธอย่อมต้องการที่จะรีบแสดงจุดยืน โดยมุ่งหวังว่าฉาวซิงจะช่วยสั่งสอนนังผู้หญิงต่ำต้อยอย่างเกาเยว่หรูที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้ !
ส่วนเสิ่นรั่วชิงนั้น ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเลยสักนิด
คำพูดนี้ เสิ่นรั่วชิงตอนนี้ไม่เพียงแค่เป็นคู่แข่งความรักของหยางเฟยเอ๋อร์เท่านั้น แต่ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของนังผู้หญิงต่ำต้อยอย่างเกาเยว่หรูด้วย สมควรถูกเธอสั่งสอนสักที !
แต่ที่ทำให้โจวฉินคิดไม่ถึงก็คือ เมื่อครู่เธอเพิ่งจะช่วยฉาวซิงต่อว่าเย่อู๋เทียน แต่ทันใดนั้นหยางเฟยเอ๋อร์ก็เงียบไป ง้างมือตบไปยังใบหน้าของเธอ !
ป๊าบ !
เสียงตบดังสนั่น
หยางเฟยเอ๋อร์มองโจวฉินด้วยสายตาที่เย็นชา ต่อว่าเธอว่า “คุณเป็นใครกัน ? ถึงกล้ามาพูดจาแบบนี้กับพี่เทียนของฉันแบบนี้ !”
โจวฉินถูกตบจนมึนงง
เสิ่นรั่วชิงและอ้ายเสี่ยวเตี๋ยเองต่างก็ตกตะลึง
เกาเยว่หรูดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพล่ง !
ส่วนฉาวซิงนั้น……
เขาคิดไม่ถึงว่าหยางเฟยเอ๋อร์จู่ ๆ จะลงมืออย่างนี้ !
ฉาวซิงอธิบายด้วยความอึดอัดว่า “เฟยเอ๋อร์ ช่วยใจเย็นลงก่อน เธอมีชื่อว่าโจวฉิน เป็น….เป็นเพื่อนของพ่อ และตอนนี้ก็กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ! กำลังอุ้มเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลฉาวของพวกเรา !”
ใครจะคิดว่าเมื่อพูดคำนี้ออกมา หยางเฟยเอ๋อร์กลับตบโจวฉินไปอีกหนึ่งครั้ง และด่าอีกว่า “หน้าไม่อายจริง ๆ !”
ทันใดนั้นหน้าของโจวฉินก็เกิดรอยแดง สีหน้าเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว กำหมัดแน่น จ้องหยางเฟยเอ๋อร์เขม็ง แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกสาวของฉาวซิง แม้ว่าเธออยากจะฉีกเธอให้เป็นชิ้น ๆ แค่ไหน ก็ทำได้เพียงอดทนไว้เท่านั้น
แต่ว่า ต่อให้ไม่กล้าสวนกลับ ยังไงก็ต้องพูดอะไรสักอย่าง
โจวฉินพูดด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวออกมาว่า “ฉันหน้าไม่อายงั้นหรือ ? ต่อให้ฉันหน้าไม่อาย ฉันกับปู่เฉาก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างถูกต้อง เธอล่ะ ? ต่อให้อยากเป็นเมียน้อยของคนอื่น ยังไร้คุณสมบัติเลย แถมผู้ชายที่เธอเลือกนี้ ยังเป็นแค่คนไร้ชื่อเสียงเรียงนามคนหนึ่ง สร้างความอับอายให้แก่ตระกูลฉาวของพวกเราจริง ๆ !”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดไม่ออก
ฉาวซิงมองโจวฉินด้วยสีหน้ำดำคล้ำ จากนั้นด่าออกมาว่า “คุณหยุดพูดได้แล้ว ! ผมไม่ได้บอกให้คุณสงบจิตสงบใจอยู่ที่บ้านหรือไง ? ทำไมถึงได้…..”
ไม่รอให้ ฉาวซิงพูดจบ โจวฉินก็กัดฟันพูดสวนกลับมาว่า “ปู่เฉา ตอนนี้ฉันกำลังอุ้มท้องลูกของคุณอยู่ และได้ตรวจดูแล้ว พบว่าเด็กคนนี้เป็นลูกชาย ตอนนี้คุณจะปล่อยให้นังหยางเฟยเอ๋อร์ตบฉันงั้นหรือ ?”
ฉาวซิงลำบากใจทั้งสองฝั่ง
แต่ในขณะนั้นเอง หยางเฟยเอ๋อร์ก็ง้างมือตบโจวฉินอีกครั้งจนเกิดเสียงดังลั่น จากนั้นตะโกนออกมาเสียงดังว่า “เธอเรียกใครว่านังกัน ?”
ในครั้งนี้ โจวฉินไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ยกมือขึ้นตั้งใจจะสวนกลับไปบ้าง
ทว่า ในขณะที่ฝ่ามือของเธอกำลังจะโดนใบหน้าของหยางเฟยเอ๋อร์นั้น จู่ ๆ เย่อู๋เทียนก็คว้าจับข้อมือของเธอเอาไว้
หยางเฟยเอ๋อร์ที่เห็นดังนั้น ดวงตาของเธอก็เบิกโพลง อ้าปากพูดขึ้นมาว่า “ฉันรู้ดีอยู่แล้ว ในใจของนายจะต้องมีฉันอยู่ !”
เย่อู๋เทียนไม่ได้พูดอะไรออกมา
ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเรื่องราวจะยิ่งวุ่นวายขึ้นไปอีก
ฉาวซิงเห็นว่าจู่ ๆ เย่อู๋เทียนก็จับข้อมือของโจวฉินไว้ จึงด่าออกมาว่า “ไอ่สารเลว ! แกรีบปล่อยมือจากโจวฉินเดี๋ยวนี้ !”
บอดี้การ์ดของโจวฉินสองคนต่างกระโจนเข้ามาต่อต้านเย่อู๋เทียน
หนึ่งในนั้นใช้กำปั้นต่อยเข้าที่ศีรษะของเย่อู๋เทียน ทำให้เย่อู๋เทียนทำได้แค่เบี่ยงตัวหลบออกไปด้านข้างเท่านั้น
ปัง !
หมัดพุ่งเข้าหาหน้าอกของ โจวฉิน
กำปั้นเท่าชามข้าวต่อยถูกหน้าอกของโจวฉินอย่างจัง
แค่ดูก็รู้แล้ว ว่านี่จะต้องเกิดผลลัพธ์ที่รุนแรงแน่นอน
โจวฉินส่งเสียงร้องออกมา ราวกับเป็นปฏิกิริยาตอบสนอง นำมือยกขึ้นมาปิดจุดที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้ สีหน้าเจ็บปวดราวกับว่ากำลังจะตาย
ในขณะนั้น เย่อู๋เทียนได้สวนหมัดกลับไปหาบอดี้การ์ดทั้งสอง แต่ไม่ทันได้เห็นว่าเขาใช้การเคลื่อนไหวใด ๆ มากมาย ก็พบว่าบอดี้การ์ดทั้งสองได้กระเด็นออกไปด้านหลังราวกับเส้นเชือกขาดแล้ว !
ทั่วทั้งห้องเกิดความโกลาหลขึ้น ร่างสูงใหญ่ของสองบอดี้การ์ดกระแทกเข้ากับตู้เสื้อผ้าจนล้มลง
ในตอนนั้น ฉาวซิงและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้แต่อ้าปากค้าง
โดยเฉพาะฉาวซิง เนื่องจากคนอื่น ๆ ไม่ทราบถึงพลังของบอดี้การ์ดทั้งสอง แต่ว่าเขานั้นรู้ดี เพราะว่าโจวฉินกำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ เขาจึงตั้งใจเชิญสองบอดี้การ์ดที่มีพลังแข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่มรักษาความปลอดภัยประเทศหลงมา
บอดี้การ์ดทุกคน ล้วนมีพลังสว่างระดับชั้นยอด
บอดี้การ์ดทุกคน ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์สิบถึงยี่สิบคน เพียงไม่กี่นาทีก็สามารถจัดการได้หมดแล้ว
แต่ตอนนี้ กลับรับการโจมตีครั้งนี้ไม่ได้ ?
เย่อู๋เทียนไม่ได้สนใจบอดี้การ์ดทั้งสองคนเลยสักนิด แถมยังสะบัดมือของโจวฉินที่กำลังจะตบหยางเฟยเอ๋อร์ทิ้ง จากนั้นเขาก็มองไปที่หยางเฟยเอ๋อร์ และพูดกับเธอว่า “ฉันไม่อยากให้เขาตบเธอ ก็เพราะเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน ความสัมพันธ์ของพวกเรา คงเป็นได้เพียงเท่านี้ หวังว่าเธอจะรักตัวเองมาก ๆ !”
หยางเฟยเอ๋อร์ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้เศร้าเสียใจ กลับกันเธอเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “นายปฏิเสธฉัน ฉันกลับยิ่งรักนายขึ้นอีก ถ้านายไม่ปฏิเสธฉัน แต่ทำเป็นไม่สนใจฉัน แบบนั้นฉันถึงจะรู้สึกเจ็บปวดใจ ! เรื่องนี้ได้รับการยืนยันแล้ว ว่าฉันไม่ได้เลือกคนผิด !”
เย่อู๋เทียนไม่รู้จะพูดอะไร
ฉาวซิงได้สติกลับมาแล้ว ตำหนิหยางเฟยเอ๋อร์ไปว่า “เฟยเอ๋อร์ ไม่ว่าจะดีจะเลวยังไงลูกก็เป็นลูกสาวของพ่อ พ่อได้ทำพินัยกรรมเอาไว้แล้ว หลังจากที่พ่อตาย ลูกก็จะกลายเป็นผู้สืบทอดทรัพย์สินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของฉาวซื่อ กรุ๊ปคนต่อไป ดังนั้น ลูกถือว่ามีสินทรัพย์อยู่หลายแสนล้าน ลูกจะมาจมปลักอยู่กับคนแบบนี้ทำไม ?”
เกาเยว่หรูและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึง
โดยเฉพาะโจวฉิน ในหัวของเธอมีแต่ความว่างเปล่า
ฉาวซิง นำทรัพย์สินทั้งหมดแปดสิบเปอร์เซ็นต์ไปให้กับหยางเฟยเอ๋อร์แล้วหรือ ?
นี่มัน…..
หยางเฟยเอ๋อร์แทบไม่ได้สนใจไยดีเรื่องนี้เลย เธอสบถออกมาว่า “ฉันไม่สนใจเงินสกปรกพวกนั้นของคุณหรอก !”
ฉาวซิงพูดอะไรไม่ออก
สีหน้าเคร่งเครียดจนถึงขีดสุด
คุณหมอบอกว่าเขากำลังเป็นโรคร้าย และเป็นระยะสุดท้าย
ช่วงเวลาก่อนที่เขาจะตายนี้ แม้แต่เศษเสี้ยวโอกาสให้ชดใช้บาปกรรมก็ไม่มีเลยหรือ ?
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ มันเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงทำให้หยางเฟยเอ๋อร์ลุ่มหลงได้ขนาดนี้ !
ในขณะนั้นเอง ชายวัยกลางคนสวมชุดสูทและรองเท้าหนังคนหนึ่ง จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก บนปกเสื้อกลัดเข็มธงมังกรประเทศหลงเอาไว้ เพียงแค่มองก็รู้ได้ทันทีว่ามีสถานะไม่ธรรมดา
ฉาวซิงที่เห็นชายวัยกลางคนคนนั้น ก็ค่อย ๆ แสดงอาการตกใจออกมา นี่มันเลขาของฝ่าบาทไม่ใช่หรือ ?
เมื่อเวลาผ่านไปเขาจะต้องกลายเป็นบุคคลระดับสูงแห่งประเทศหลงแน่นอน !
ทำไมถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่กัน ?
หลังจากที่ชายวัยกลางคนเดินเข้าประตูมา เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า เขาก็มีอาการตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเดินตรงไปหาเย่อู๋เทียน ในขณะเดียวกันก็ยื่นจดหมายไปให้เขา จากนั้นพูดขึ้นด้วยความเคารพว่า “คุณชายเย่ ฝ่าบาทได้กลับมาที่ตี้ตูแล้ว นี่คือสิ่งที่ท่านสั่งให้ผมนำมามอบให้คุณ !”
เย่อู๋เทียนรับจดหมายมา ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “นี่คืออะไรหรือ ?”
ชายวัยกลางคนลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นพูดด้วยความเคารพว่า “น่าจะเกี่ยวกับตระกูลถัง”
เย่อู๋เทียนใส่ซองจดหมายเข้าไปในกระเป๋า จากนั่นโบกมือเบา ๆ พูดขึ้นว่า “ฉันรู้แล้ว นายกลับไปก่อนเถอะ”
ชายวัยกลางคนตอบรับอย่างสุภาพ “ขอรับ คุณชายเย่ !”
พูดจบ ชายวัยกลางคนก็เดินจากไป
ทุกคนในนั้นยกเว้นเสิ่นรั่วชิง ต่างก็พากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
โดยเฉพาะฉาวซิง ที่เพิ่งจะเข้าใจได้ ถึงว่าทำไมเย่อู๋เทียนถึงรู้ที่มาที่ไปของเขา ชายคนนี้ เป็นคนรู้จักของฝ่าบาท !
ในทันใดนั้น สีหน้าของฉาวซิงก็คล้ายกับสีของตับหมู ยังไงเขาก็ไม่มีทางคิดออก ว่าชายที่ลูกสาวของเขาหลงรัก จะน่าหวาดกลัวมากขนาดนี้ !
ในตอนนี้คนที่ตกใจที่สุดคงไม่เกินเลยอ้ายเสี่ยวเตี๋ย
เธอยังคงไม่ได้สติกลับมา
เย่อู๋เทียน ทำไมถึงมีความสนิทสนมกับฝ่าบาทได้ ?
แต่ในขณะนั้นเอง ชายวัยกลางคนที่เพิ่งจะเดินไปได้ย้อนกลับมา เดินตรงเข้ามาอยู่ตรงหน้าเสิ่นรั่วชิง ประสานมือด้วยความเคารพและพูดว่า “คุณนายเย่” ฝ่าบาทยังฝากมาบอกคุณอีกด้วยว่า ตอนนี้…คุณคือน้องสาวร่วมสาบานของท่านแล้ว ถ้าเด็ก ๆ ตระกูลโล่ไม่ให้ความเคารพแก่คุณล่ะก็ ให้คุณทำการตักเตือนได้เลย รวมถึงโล่หวางด้วย !”
พูดมาถึงตรงนี้ ชายวัยกลางคนก็พูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “แล้วก็ ฝ่าบาทได้รับสั่งเอาไว้ โล่หวางเป็นคนไม่รู้เรื่องรู้ราว ถึงกล้าไม่สนใจกฎและมารยาท หวังอยากได้อาจารย์ของตนเองมาครอบครอง คุณเป็นคุณนายของคุณชายเย่ เมื่อถึงเวลาสั่งสอนควรสั่งสอน ถึงเวลาด่าก็ควรด่า ไม่ต้องสนใจ ! ทุกคนต่างก็เป็นคนในครอบครัว อย่าเป็นเพราะว่าเด็ก ๆ ที่ไม่รู้จักมารยาทพวกนี้ มาทำลายความสงบสุขของครอบครัวได้ ! ”
คำพูดนี้ออกมา ฉาวซิงและคนอื่น ๆ เกือบจะเป็นอัมพาตลงไปกับพื้น
เสิ่นรั่วชิง…..
เป็นน้องร่วมสาบานของฝ่าบาท ?
ด้วยเงื่อนไขนี้ หยางเฟยเอ๋อร์ยังจะสารภาพรักกับผู้ชายของเสิ่นรั่วชิงอีกงั้นหรือ ?
สำหรับเย่อู๋เทียนแล้ว แม้แต่ลูกสาวของฝ่าบาท ยังมีความคิดที่จะทำตัวไร้มารยาทกับเขาอีกหรือ ?