จอมนักรบอหังการ - บทที่ 139 ตระกูลถัง ถังจิ่วเชียน
จอมนักรบอหังการ บทที่ 139 ตระกูลถัง ถังจิ่วเชียน!
หญิงงามในชุดที่สง่างาม ไม่ใช่หานเฟิงอี้ยังจะมีใครอีก?
คนที่อยู่ในสถานที่ทั้งหมดล้วนแล้วคิดไม่ถึง หานเฟิงอี้ของตี้ตูตระกูลหาน จะมาที่นี่
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอกลับไม่ได้มาคนเดียว แต่พาคนกลุ่มหนึ่งมา
แต่ถึงแม้ว่าคนที่อยู่ในขบวนรถด้านหลังหานเฟิงอี้จะยังไม่ปรากฏตัว เพียงแค่หานเฟิงอี้คนเดียว……
ก็เพียงพอที่จะทำให้อึดอัดได้แล้ว
เพราะของอย่างออร่า อยากฝึกก็ฝึกไม่ได้ จำเป็นต้องใช้เวลาบ่มเพาะ และใช้พลังอำนาจในการหล่อเลี้ยงมัน
เห็นได้ชัดอย่างมาก ความสำเร็จของหานเฟิงอี้ในด้านนี้ ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ต่อให้เป็นเฉิงโม่หนงผู้บริหารระดับสูงของเทียนจวิน กรุ๊ปมีความโดดเด่นท่ามกลางผู้คนอย่างมาก หลังจากมองเห็นหานเฟิงอี้ ออร่าที่มาพร้อมกับตัวเองอดไม่ได้ที่จะอ่อนลง
ยังคงประโยคนั้น ถ้าหากเปรียบเทียบหานเฟิงอี้เป็นราชินีคนหนึ่ง อย่างนั้นเฉิงโม่หนงเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง
พร้อมกับการลงจากรถของหานเฟิงอี้และเดินมาทางเย่อู๋เทียน หานจื่อหยวนลงจากที่นั่งคนขับของรถที่อยู่ด้านหลังหานเฟิงอี้
วินาทีนี้ ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ
พนักงานหญิงหลายคนของเทียนจวิน กรุ๊ปสาขาเจียงไห่ล้วนแล้วอยู่ในสถานที่ด้วย
แม้แต่ผู้บริหารหญิงระดับสูงบางคนของสำนักงานใหญ่เทียนจวิน กรุ๊ปที่ถูกเฉิงโม่หนงสั่งย้ายมาจากตี้ตูเป็นพิเศษ ก็อยู่ในสถานที่เช่นกัน
พวกเธอทุกคน ล้วนแล้วโดดเด่นที่สุดในบรรดาสาวออฟฟิศทั้งหมด
ตรงกลางของพวกเธอ ต่อให้เป็นผู้หญิงที่ธรรมดาที่สุด เพียงเพราะทำงานในเทียนจวิน กรุ๊ปข้างหลังล้วนแล้วมีคนตามจีบมากมาย!
ตอนนี้ พวกเธอมองเห็นหานเฟิงอี้และหานจื่อหยวนปรากฏตัวพร้อมกันด้วยตาของตัวเอง ทุกคนกลายเป็นคนธรรมดาไปแล้ว
สังเกตเห็นว่าทั้งหานเฟิงอี้และหานจื่อหยวนกำลังเดินไปหาเย่อู๋เทียน พวกเธอยิ่งประหม่าจนพูดไม่ออก
เพราะพวกเธอมีสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นหานจื่อหยวน หรือว่าจะเป็นหานเฟิงอี้ ล้วนแล้วไม่ได้มาดี
ในเวลาเดียวกัน คนที่อยู่ในสถานที่ทั้งหมดต่างงกำลังคาดเดา….
ระหว่างเย่อู๋เทียนกับหานเฟิงอี้และหานจื่อหยวนผู้หญิงสองคนนี้ ตกลงมีความเกี่ยวข้องอะไรกัน!
หานหยุนเซียวมองเห็นหานเฟิงอี้เดินดุ่มๆเข้ามาทางเย่อู๋เทียน สภาพจิตใจไม่มีความแปรปรวนอะไรเป็นพิเศษ แต่วินาทีต่อมา เขาก็ตื่นเต้นเช่นกัน
เพราะว่ามองเห็น ท่ามกลางแถวรถหรูด้านหลังหานเฟิงอี้ มีคนกลุ่มหนึ่งเดินลงมา หนึ่งในนั้นมีชายหนุ่มผมสีแดงคนหนึ่ง สะดุดตาเป็นพิเศษ!
หลังจากเขาลงจากรถ กลับไม่ได้รีบร้อนที่จะเดินตามหานเฟิงอี้ แต่เป็นการยืนอยู่ข้างรถ จุดบุหรี่อย่างช้าๆหนึ่งมวน มองลานจอดรถโดยรอบอย่างเฉยเมย
ถังจิ่วเชียน!
มีคนตั้งชื่อเล่นให้ จิ่วเชียนซุ่ย(จิ่วเชียนซุ่ย ในจีนหมายความว่าอายุยืนยาวเก้าพันปี)!
เขาเป็นคนที่ลึกลับที่สุดนอกเหนือจากถังเลี่ยนของตระกูลถังในตี้ตู
หานหยุนเซียวเคยได้ยินมาว่า นี่เป็นชายที่ดุร้ายเพียงคนเดียวที่สามารถต่อสู้กับถังเลี่ยนได้ อายุไล่เลี่ยกับถังเลี่ยน เป็นเด็กคนหนึ่งที่ถูกตระกูลถังเก็บมาเลี้ยง จุดประสงค์ของการดำรงอยู่ เป็นหินลับมีดที่คู่ควรให้กับถังเลี่ยน
และในฐานะที่เป็นหินลับมีดให้กับถังเลี่ยน ถังจิ่วเชียนสามารถปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยสุขภาพที่ดี สิ่งนี้ได้อธิบายปัญหาบางอย่างแล้ว
ในตี้ตู ยกเว้นบรรพบุรุษของตระกูลถังและตระกูลหาน ถังจิ่วเชียนก็เป็นคนเดียวที่สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหานหยุนเซียว
ตอนนั้นหานหยุนเซียวประลองฝีมือกับหานจิ่วฉอง หลังจากการพ่ายแพ้จอมปลอม ถังจิ่วเชียนเคยพูดกับหานหยุนเซียวหนึ่งประโยค ยังคงทำให้ความทรงจำของหานหยุนเซียวชัดเจนเหมือนเดิม
สิ่งที่ถังจิ่วเชียนพูดในตอนนั้น : “ถ้าหากฉันเป็นนาย ฉันไม่มีทางสู้กับหานจิ่วฉอง เพราะว่าไม่มีความหมาย ถ้าหากจะสู้ แน่นอนต้องสู้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง!”
ในความทรงจำของหานหยุนเซียว ถังจิ่วเชียนนอกจากเคยสู้กับถังเลี่ยน ก็ไม่เคยต่อสู้กับใครอีกเลย
ตอนนี้ หานเฟิงอี้ติดตามถังจิ่วเชียนมาถึงอาคารเทียนจวิน หลังจากลงรถไม่มองเย่อู๋เทียนแม้แต่นิดเดียว เอาแต่สูบบุหรี่อยู่ตรงนั้น สิ่งนี้เพียงพอที่จะพูดได้ว่า ถังจิ่วเชียนไม่เห็นเย่อู๋เทียนอยู่ในสายตา
สำหรับเฉียนเป่ยเฉินศิษย์รักของเย่อู๋เทียน แน่นอนก็ไม่อยู่ในสายตาของถังจิ่วเชียนเช่นกัน
ในเวลานี้ หานเฟิงอี้เดินมาอยู่ต่อหน้าเย่อู๋เทียนแล้ว พูดอย่างเย็นชา : “ไม่ได้เจอกันหลายปี แม้แต่มารยาทก็ลืมแล้วเหรอ?”
เย่อู๋เทียนยิ้มเบาๆ : “เข้าไปคุยกันดีกว่า”
หานเฟิงอี้หึอย่างเย็นชาหนึ่งที เตรียมจะเดินเข้าไปในอาคารเทียนจวิน สังเกตเห็นเฉียนเป่ยเฉินที่อยู่ด้านหลังเย่อู๋เทียน ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถาม : “นายกับเย่อู๋เทียนรู้จักกัน?”
เฉียนเป่ยเฉินมองหานเฟิงอี้ด้วยความตะลึง นึกไม่ถึงว่า หานเฟิงอี้มุ่งเป้ามาที่อาจารย์เย่อู๋เทียนของเขา ดูจากสถานการณ์ ยังเป็นผู้อาวุโสของเย่อู๋เทียน
นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่สนามบิน เฉียนเป่ยเฉินอึดอัดจนไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี
เย่อู๋เทียนแนะนำให้หานเฟิงอี้รู้จักด้วยรอยยิ้ม : “นี่เป็นศิษย์รักของผม เฉียนเป่ยเฉิน”
สีหน้าของหานเฟิงอี้ตะลึงเล็กน้อย กลับหายไปในพริบตา ยิ้มและพูด : “นายทำให้ฉันประหลาดใจเล็กน้อยนะ”
เย่อู๋เทียนยักไหล่ หันตัวเดินไปทางอาคารเทียนจวิน
หานจื่อหยวนที่อยู่ข้างหลังหานเฟิงอี้ เหลือบมองเฉียนเป่ยเฉินอย่างเย็นชา ในดวงตามีความโกรธ มีความตกใจมากกว่า ยากที่จะจินตนาการได้ เจ้าหมอนี่ที่ต่อยหนึ่งหมัดจนหานหยุนเฟยบินออกไป คาดไม่ถึงว่าจะเป็นลูกศิษย์ของเย่อู๋เทียน!
นั่นก็หมายความว่า…..
ความแข็งแกร่งของเย่อู๋เทียน น่ากลัวยิ่งกว่าเฉียนเป่ยเฉินคนนี้?
ช่วงเวลาที่หานจื่อหยวนคิดแบบนี้ หานหยุนเซียวยิ้มออกมาหนึ่งที ส่งสายตาให้กับหานจื่อหยวนหนึ่งที หลังจากนั้นส่งสายตาให้กับหานเฟิงอี้อีกหนึ่งที
หานจื่อหยวนไม่สนใจหานหยุนเซียว
หานเฟิงอี้ขมวดคิ้วแล้วมองไปยังสถานการณ์โดยรอบ ถามด้วยความสงสัย : “หานหยุนเซียว ลานจอดรถแห่งนี้ เกิดอะไรขึ้น?”
หานหยุนเซียวพูดด้วยความเขินอาย : “เมื่อกี้ต่อสู้กับเฉียนเป่ยเฉินหนึ่งรอบ”
หานเฟิงอี้หรี่ตาลง พูดอย่างจริงจัง : “นายชนะหรือแพ้?”
หานหยุนเซียวพูด : “เสมอ”
หานเฟิงอี้เงียบลงมา เป็นเวลานาน จากนั้นค่อยมองไปทางเย่อู๋เทียนที่กำลังจะเดินเข้าไปประตูอาคาร พูดอย่างเย็นชา : “ฉันเพิ่งมาจากโรงพยาบาล ทราบว่า หานหยุนเฉ่า ก็คือเย่อู๋เทียนเป็นคนทุบตีจนพิการ”
หานหยุนเซียวยิ้มอย่างขมขื่น : “ผมไม่แปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว”
หานเฟิงอี้เตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง หานจื่อหยวนมองไปทางเย่อู๋เทียนหนึ่งที กัดฟันพูด : “ไอ้ชาติหมา มันคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของของที่นี่จริงๆเหรอ!”
หานเฟิงอี้เหลือบมองหานจื่อหยวนอย่างไม่แยแส จากนั้นมองไปทางถังจิ่วเชียนที่อยู่ไม่ไกล พูดอย่างเย็นชา : “มีเขาอยู่ คุณสามารถครอบครองที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว!”
หานจื่อหยวนไม่พูดอะไรอีกต่อไป
ในเวลานี้ เย่อู๋เทียนเดินเข้าไปในอาคารเทียนจวินแล้ว ด้านหลังมีคนกลุ่มหนึ่งเดินตาม ล้วนแล้วเป็นผู้บริหารระดับสูงของเทียนจวิน กรุ๊ปและคนที่เดินตามเย่อู๋เทียนใกล้ที่สุด แน่นอนเป็นเสิ่นรั่วชิงและเฉิงโม่หนง
แม้ว่าเสิ่นรั่วชิงจะไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น อารมณ์กลับสงบอย่างมาก เพราะว่าเธอรู้ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้น เย่อู๋เทียนก็ไม่มีทางเป็นอะไร
เฉิงโม่หนงก็ไม่เหมือนกันแล้ว เดินตามเย่อู๋เทียนอยู่ข้างกาย สีหน้าเคร่งเครียด สุดท้ายอดไม่ได้ที่จะพูด : “เย่อู๋เทียน ทางที่ดีอีกเดี๋ยวอย่าพยายามอย่ายั่วยุหานเฟิงอี้ ผู้ชายผมแดงที่เธอพามาด้วยในวันนี้ เป็นเด็กรับเลี้ยงของตระกูลถัง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาฝึกฝนอยู่เคียงข้างถังเลี่ยน น่ากลัวอย่างมาก!”
เย่อู๋เทียนยิ้มเล็กน้อย : “ก็เป็นเพราะว่า เขาเป็นคู่ฝึกของถังเลี่ยนเหรอ?”
เฉิงโม่หนงลังเลสักพักหนึ่ง ถามกลับ : “หรือว่านี่ยังไม่เพียงพออีกเหรอ?”
เย่อู๋เทียนเงียบสักพักหนึ่ง ยิ้มและพูด : “ก็พอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ถ้าจะพูดว่าน่ากลัว ผมยังมองไม่ออกจริงๆ”
เฉิงโม่หนงถอนหายใจอย่างเงียบๆ จู่ๆก็พูด : “นายไปห้องประชุมชั้นสิบหกก่อนแล้วกัน ฉันจะรอหานเฟิงอี้ที่นี่ เธอเป็นผู้หญิงเอาหน้าคนหนึ่ง”
จู่ๆเย่อู๋เทียนนึกถึงอะไรบางอย่าง ยิ้มและถาม : “หานหยุนเซียวบอกว่า ความสัมพันธ์ของหานเฟิงอี้กับถังเลี่ยนไม่ธรรมดา คุณรู้ไหมว่าพวกเขาสองคนเกี่ยวข้องอะไรกัน?”