จอมนักรบอหังการ - บทที่ 151 วิธีกำราบสามีของเสิ่นรั่วชิง
จอมนักรบอหังการ บทที่ 151 วิธีกำราบสามีของเสิ่นรั่วชิง!
เย่อู๋เทียนถูกตบเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง
ในขณะเดียวกัน เฉิงโม่หนงที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงเสร็จแล้ว ก็ยังคงแกล้งทำเป็นจัดแต่งเสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเอง และถึงขนาดที่ยังจงใจใช้มือจัดแต่งทรงผมของตัวเองอีกด้วย ซึ่งลักษณะการกระทำแบบนี้ ชัดเจนว่าเป็นการจงใจที่จะส่งสัญญาณบอกกับคนอื่นว่า ตัวฉันเองได้พลาดพลั้งทำผิดกับเขาไปแล้ว แล้วคุณจะมาทำอย่างไรกับฉันได้อีกล่ะ?
หลังจากนั้น เฉิงโม่หนงก็พูดอย่างจริงจังกับเย่อู๋เทียนว่า: “เรื่องที่นายพูดนั้น ฉันรับปากแล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็ไปที่เมืองเจียงหนานด้วยกัน แต่อย่าได้พาเสิ่นรั่วชิงไปด้วยกันกับพวกเรานะ ถ้าเป็นแบบนั้นจะส่งผลกระทบต่อเรื่องราวที่พวกเราต้องกระทำด้วยกัน! ”
เมื่อพูดจบ เฉิงโม่หนงก็ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น แล้วก็เดินออกไปด้านนอก
เวลานี้ เสิ่นรั่วชิงได้เดินมาถึงที่หน้าประตูห้องทำงานแล้ว พร้อมกับจ้องมองไปยังเสิ่นโม่หนงที่เย่อหยิ่งอย่างกับเป็นหงส์ขาว และเดินผ่านตัวเธอไปอย่างสบายอกสบายใจ
ขณะนั้น เสิ่นรั่วชิงเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นบ้างแล้ว
แม้ว่าเสิ่นรั่วชิงจะยังไม่ทราบว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น แต่ ลำพังแค่คำพูดนั้นของเพื่อนสนิทอ้ายเสี่ยวเตี๋ย ภาพลักษณ์ของเย่อู๋เทียนในใจของเสิ่นรั่วชิง ก็ถูกลดทอนลงไปอย่างมากแล้ว
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเฉิงโม่หนงด้วยความโมโห และดุด่าขึ้นว่า: “เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ! เธอยังจะหน้าด้านไปถึงไหนกัน? ”
เฉินโม่หนงทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน และเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุด โดยหลงเหลือไว้เพียงแค่แผ่นหลังที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลและหยิ่งผยองให้กับพวกหล่อนทั้งสองคน
เย่อู๋เทียนเดินมาถึงหน้าประตู และพูดกับเสิ่นรั่วชิงว่า: “ก็แค่เข้าใจผิดกันเท่านั้น ไม่ต้องไปคิดมาก ในใจฉันมีแต่คุณเพียงคนเดียว ไปกันเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน”
เสิ่นรั่วชิงไม่ได้พูดอะไรกับเย่อู๋เทียน แต่กลับเดินไปยังด้านข้าง แล้วโทรศัพท์ไปหาเกาเม่ยหลิง และพูดว่า: “คุณแม่ จัดเก็บของเถอะ ต่อไปพวกเราจะกลับไปพักอาศัยอยู่กันที่ร้านแล้ว ช่วงนี้ก็อย่าได้ให้คุณพ่อยุ่งเรื่องการย้ายโรงเรียนของจูนหลินอีก ฉันคิดว่าเรียนหนังสืออยู่ในเขตเมืองเก่านั้นก็ดีอยู่แล้ว! ”
เกิดความโมโหแล้ว
เสิ่นรั่วชิงโมโหขึ้นจริง ๆ แล้ว
ความหึงหวง ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
หมดหนทาง ต่อให้ผู้หญิงจะอ่อนโยนขนาดไหน ก็ไม่สามารถที่จะยอมรับกับเรื่องแบบนี้ได้!
นี่มันเกี่ยวเนื่องไปถึงศักดิ์ศรีของความเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเลย!
ไม่ได้แต่งงาน ก็กำเนิดลูกให้กับเย่อู๋เทียนแล้ว โดยคิดว่าจะสามารถฝากฝังทั้งชีวิตของตัวเองให้กับคุณแล้ว แต่คุณนั้น กลับทำต่อหน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่าง ในตอนที่ขอแต่งงาน ยังจะจัดงานใหญ่โต เพื่ออวดให้คนอื่นดูอย่างนั้นล่ะสิ?
ต่อไปก็คิดแค่ว่าที่บ้านมีภรรยาที่เป็นหลักอยู่แล้ว และก็ยังจะไปมีหญิงอื่นด้านนอกอีกด้วยใช่ไหมล่ะ?
ขอโทษ!
ฉันเสิ่นรั่วชิง ไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น!
จริงที่ว่า
ในเวลานี้ เสิ่นรั่วชิงมีสภาพจิตใจที่บอบช้ำ แตกสลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
ในหัวสมองมีความคิดที่สับสนวุ่นวายผุดขึ้นเต็มไปหมด
เสิ่นรั่วชิงสูดหายใจลึก แล้วพลันหันมองไปที่เย่อู๋เทียน และพูดขึ้นว่า: “ผิดหวัง! ผิดหวังอย่างมาก! ”
เย่อู๋เทียนพูดขึ้นอย่างตกตะลึงว่า: “คุณไม่เชื่อฉันขนาดนี้เลยเหรอ? ”
เสิ่นรั่วชิงส่ายศีรษะอย่างติดตลก และพูดขึ้นว่า: “มันช่างเหมือนกันกับบทคำพูดในละครโทรทัศน์มากเลยทีเดียว จริงอยู่ที่ว่า เรื่องอื่นนั้น ไม่เป็นไร ได้ทั้งนั้น แต่เรื่องแบบนี้ เพียงแค่นายถือว่าฉันเป็นคน นายก็คงจะต้องชี้แจงออกมาสักหน่อย แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้าม ไม่อยากที่จะชี้แจงอธิบายอะไรเลย และก็ไม่อยากที่จะเสแสร้งอะไรด้วย! ช่างเถอะ ฉันเองก็ไม่อยากที่จะทะเลาะเรื่องเหล่านี้กับนาย ฉันจำต้องใจเย็นลงหน่อย! ฉันเป็นผู้หญิงที่ดีมีเกียรติ และยังเป็นแม่คนด้วยแล้วนั้น ยิ่งจำเป็นต้องวางตัวให้เหมาะสม! ”
เย่อู๋เทียนมองไปที่เสิ่นรั่วชิงแล้วก็สงบนิ่งอยู่สักพัก และพลันชี้นิ้วไปยังทิศทางที่เฉิงโม่หนงเดินจากไป พร้อมกับพูดขึ้นว่า: “คุณรออยู่ก่อนนะ ฉันจะไปจัดการกับหล่อนเดี๋ยวนี้! ”
ขณะที่พูด เย่อู๋เทียนก็มุ่งหน้าไล่ตามเฉิงโม่หนงไป พร้อมกับดุด่าขึ้นว่า: “มีพี่สาวแบบนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ หล่อนยังเป็นคนอยู่อีกไหมเนี่ย! หลานของหล่อนเองก็โตขนาดนี้แล้ว ยังจะทำตัวไม่เหมาะสมอีก มาสร้างความวุ่นวายอะไรขึ้นแบบนี้! ”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยมองไปที่เย่อู๋เทียนด้วยความเหยียดหยาม และพูดขึ้นกับเสิ่นรั่วชิงที่อยู่ด้านข้างว่า: “ฮึ เห็นแล้วล่ะสิว่า ผู้ชายก็เป็นแบบนี้! ไม่เป็นไร เธอยังมีฉันอยู่ทั้งคน! เขาเย่อู๋เทียนต่อให้จะมีความเก่งกาจสามารถมากขนาดไหน แต่ผู้หญิงอย่างพวกเราก็อย่าได้ไปติดกับของเขานั้นอย่างเด็ดขาด! ทั้ง ๆ ที่มีภรรยาที่สวยงดงามขนาดนี้อยู่แล้ว ยังจะไปทำตัวย่ำแย่ที่ด้านนอกอีก เขายังเป็นคนอยู่อีกเหรอ? กระต่าย แม้แต่กระต่ายก็ยังไม่กินหญ้าที่อยู่บริเวณโดยรอบตัวของมันเลย! โอ้ว ใช่แล้ว เป็นไปได้ที่เขาคงคิดไม่ถึงว่า เฉิงโม่หนงจะมาหาเขาตั้งไกลขนาดนี้! ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเห็นว่ารอบดวงตาของเสิ่นรั่วชิงนั้นแดงก่ำไปหมด ก็เจ็บปวดใจขึ้น และพูดเสริมขึ้นว่า: “รั่วชิง อันที่จริง พวกเราอย่าได้ไปใส่ใจอะไรกับเขาเลย! หากไม่มีเขาแล้วก็ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างนั้นเหรอ? สังคมในตอนนี้ ผู้ชายต้องการผู้หญิง แต่ผู้หญิงไม่จำเป็นที่จะต้องการผู้ชายก็ได้ คืนนี้ฉันจะพาเธอไปที่เมืองเจียงหนาน ยังจำคนนั้นได้อยู่ไหม เพื่อนร่วมชั้นเก่าของพวกเรา หยูฉิง ตอนนี้หล่อนเปิดบริษัทสินค้าสำเร็จรูป ถ้าหากเธอยังโมโหเย่อู๋เทียนอยู่ล่ะก็ พวกเราก็บอกให้หยูฉิงช่วยผลิตหุ่นปลอมขึ้นมา ให้เหมือนกับเย่อู๋เทียนอย่างไรอย่างนั้น ในแบบที่เป็นยางพารา เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็ใช้เข็มทิ่มแทงเขา ทิ่มแทงเขาทุกวัน อยากจะทิ่มแทงตรงไหนก็ทิ่มแทงได้เลย หากหุ่นปลอมพังแล้วก็เปลี่ยนตัวใหม่ นวัตกรรมเทคโนโลยี นวัตกรรมเทคโนโลยีสร้างความสุขให้กับพวกผู้หญิง! ”
เสิ่นรั่วชิงไม่ได้พูดอะไร โดยได้แต่มองไปยังเย่อู๋เทียนที่ไล่ตามเฉิงโม่หนงไปอย่างไม่กระพริบตา จนกระทั่งเงาร่างของเย่อู๋เทียนลับหายไปจากสายตาของเธอแล้ว ลักษณะท่าทางของเธอก็เปลี่ยนไปโดยพลัน
ให้ความรู้สึก เหมือนกับว่าไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น บนใบหน้าไม่เพียงแต่จะไม่มีความโกรธแค้นและความสับสนกังวลใจ แต่กลับกลายเป็นเพราะคำพูดของอ้ายเสี่ยวเตี๋ย จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยตะลึงงัน และพูดด้วยความอึ้งว่า: “เธอ……เธออย่าเป็นแบบนี้สิ ฉันกลัว เธอร้องไห้ได้ ฉันเข้าใจดี เพราะมันคือความผูกพันธ์ที่นานตั้งสิบปี และตอนแรกก็ยังรักกันอย่างดูดดื่ม ฉันเข้าใจทั้งหมด แต่เธออย่าหัวเราะสิ! เธอ……เธอทนรับสภาพไม่ได้แล้วจริง ๆ ใช่ไหม? เธอรอก่อนนะ ฉันจะช่วยเธอไปจัดการขอคำชี้แจงจากเขาเดี๋ยวนี้! ”
เสิ่นรั่วชิงก็ยังคงไม่ได้พูดอะไร แต่กลับหันมองไปยังเกาเยว่หลู ด้วยสายตาที่ไม่กระพริบ ถึงขั้นมองจนเกาเยว่หลูตัวสั่นเลยทีเดียว
เกาเยว่หลูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมตัวเองถึงมีความรู้สึกแบบนี้
รู้สึกว่า หวาดผวาขาดความมั่นใจอย่างที่สุด
ในที่สุด เสิ่นรั่วชิงก็เอ่ยปาก ถามเกาเยว่หลูคำหนึ่งว่า: “เมื่อครู่เธอจงใจที่จะยืนขวางอ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่หน้าประตู เธอกังวลว่าอ้ายเสี่ยวเตี๋ยจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นอย่างนั้นใช่ไหม? ”
เกาเยว่หลูเอ่ยปาก พูดขึ้นด้วยความประหม่าว่า: “ฉัน……ฉันเปล่านะ! ฉันเปล่าจริง ๆ เมื่อครู่ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นสักหน่อย ฉันก็แค่รู้สึกว่า……รู้สึกว่าคนที่ชื่ออ้ายเสี่ยวเตี๋ยนี้……ฉันนึกว่าหล่อนเป็นพนักงานทั่วไปคนหนึ่งของเทียนจวิน กรุ๊ป เพราะว่านี่คือห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุด หล่อนจะพุ่งเข้าไปในห้องอย่างนั้น ฉันจึงต้องทำการขัดขวางเอาไว้ก็เท่านั้นเอง”
เสิ่นรั่วชิงถามขึ้นว่า: “แล้วเธอกับเทียนจวินกรู๊ปมีความเกี่ยวข้องอะไรกันล่ะ? เธอเป็นพนักงานของที่นี่อย่างนั้นเหรอ? ”
เกาเยว่หลูพูดอะไรไม่ออก
เสิ่นรั่วชิงถามขึ้นอีกว่า: “ฉันกับเธอ มีความสัมพันธ์อะไรกัน? ”
เกาเยว่หลูยิ้มแหยะ ๆ: “ครอบครัวเดียวกันไงล่ะ เธอคือลูกพี่ลูกน้องแท้ ๆ ของฉัน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยอะไรอย่างแน่นอน”
เสิ่นรั่วชิงหัวเราะหึหึ และพูดขึ้นว่า: “โอ้ว ที่จริงแล้วฉันคือลูกพี่ลูกน้องของเธอ……เธอ ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน เป็นคนครอบครัวเดียวกัน! แล้วเธอเคยคิดบ้างไหมว่า ในเมื่อเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ก็สามารถปล่อยผลประโยชน์ให้ตกเป็นของคนอื่นไปได้เหรอ? เธอเคยคิดบ้างไหมว่า พี่เขยของเธอนั้น จะมีความเคารพ ต่อพี่สาวคนนี้ของเธอบ้างหรือไม่? ”
เกาเยว่หลูจึงได้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เสิ่นรั่วชิง เมื่อครู่นั้นกำลังเล่นละคร เสิ่นรั่วชิง เข้าใจและชัดเจนในทุกอย่างเป็นอย่างดี!
คิดแบบนี้แล้ว เกาเยว่หลูจึงเกิดความสงสัยขึ้นว่า เสิ่นรั่วชิงนั้นรับรู้มาก่อนแล้วถึงความสัมพันธ์ระหว่างเย่อู๋เทียนกับเฉิงโม่หนง
เกาเยว่หลูถึงกับสูดหายใจลึก และพูดขึ้นว่า: “พี่สาว คุณอย่าได้มองฉันแบบนี้ กับพี่เขยนั้น ฉันไม่มีความคิดอื่นใดอยู่แล้ว ฉันก็แค่คิดว่า เขากับเฉิงโม่หนงนั้น มีความสัมพันธ์ที่ผิดปกติ ฉันจึงคิดที่จะช่วยพี่สืบเสาะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนให้มากขึ้น ดังนั้น แน่นอนว่าฉันต้องช่วยพี่เขยปกปิดเอาไว้ก่อน”
เสิ่นรั่วชิงหัวเราะและพูดขึ้นว่า: “ฉันไม่อยากที่จะดุด่าใคร แต่เธอนั้นช่างโง่เขลาเกินไปหน่อย และยังจะโง่เขลาในแบบที่ไม่สมควรเลย! หรือเธอคิดว่า ฉันกำลังสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายของฉันกับเฉิงโม่หนงอยู่อย่างนั้นเหรอ? ”
เกาเยว่หลูถูกเสิ่นรั่วชิงทำให้สับสนงุนงงไปหมดแล้ว
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่อยู่ด้านข้างนั้นก็เหมือนกัน โดยจ้องมองไปที่เสิ่นรั่วชิงด้วยความตะลึง และเอ่ยปากพูดขึ้นว่า: “หมายความว่าอย่างไร? เพื่อนรัก เธอกำลังพูดอะไรอยู่เหรอ! ฟังไม่เข้าใจเลยจริง ๆ! ”
เสิ่นรั่วชิงเหลือบตามองไปที่อ้ายเสี่ยวเตี๋ย และพูดขึ้นว่า: “ต่อไปเมื่อเธอได้ยินอะไรก็อย่าได้คิดเตลิด ตื่นตกใจมากเกินไปก่อน ผู้ชายของฉันเป็นคนอย่างไร ฉันไม่ชัดเจนกว่าเธออย่างนั้นเหรอ? การแต่งงานระหว่างเขากับเฉิงโม่หนงนั้น ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว บางทีเฉิงโม่หนงอาจจะเกิดความรู้สึกอะไรอย่างอื่นกับผู้ชายของฉัน แต่ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังอยู่แล้ว! ฉันเสียใจที่เกาเยว่หลูมีความคิดที่แย่ต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันแท้ ๆ แต่กลับทำกับฉันแบบนี้ได้! ”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยอ้าปากค้าง ตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก จวบจนถึงตอนนี้ เธอถึงเข้าใจได้ว่า ลักษณะท่าทางของเสิ่นรั่วชิงที่แสดงออกต่อหน้าเย่อู๋เทียนนั้น ทั้งหมดก็เพื่อต้องการให้เย่อู๋เทียนจัดการเรื่องนี้ลงให้เรียบร้อย ต้องการให้เย่อู๋เทียน ไปบอกปฏิเสธเพื่อตัดความคิดอื่นใดของเฉิงโม่หนงกับเย่อู๋เทียนด้วยตัวของเขาเอง……
ล้ำเลิศ!
ล้ำเลิศเสียจริง!
การกระทำระดับนี้ มันช่างยอดเยี่ยมซะเหลือเกินจริง ๆ!
ก่อนอื่นแกล้งทำเป็นก่อเรื่องต่อหน้าของเย่อู๋เทียน ทำว่าเกิดความหึงหวงอะไรขึ้น เพื่อให้เย่อู๋เทียนรับรู้ว่า ตัวเธอนั้นกำลังเกิดความหึงหวง และไม่ต้องการที่จะเห็นเย่อู๋เทียนมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนอื่นมากเกินไป!
จากนั้น เธอก็อาศัยช่วงจังหวะที่เย่อู๋เทียนไม่อยู่ ทำเป็นพูดปลุกเร้าเกาเยว่หลู!
แม่งเอ้ย!
นี่มันคือวิธีกำราบสามีตามที่ล่ำลือกันใช่ไหม?
ก่อนหน้านี้ตัวเองทำอย่างกับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักอย่างไรอย่างนั้น และยังจะแนะนำพูดสอนเสิ่นรั่วชิงอย่างไม่หยุดอีก!
มันช่างน่าอับอายขายหน้าเป็นยิ่งนัก!
เกาเยว่หลูเองก็เพิ่งจะเข้าใจได้ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าของเสิ่นรั่วชิง ตัวเองนั้นก็แค่คนโง่เขลาคนหนึ่ง เมื่อครู่ตัวเองยังทำเป็นกระหยิ่มยิ้มย่อง นึกว่าตัวเองได้จับผิดความลับระหว่างเย่อู๋เทียนกับเฉิงโม่หนงเอาไว้ได้แล้ว!
แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า……
เรื่องราวทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเสิ่นรั่วชิงทั้งหมด!
ในขณะนั้นเอง เย่อู๋เทียนที่เมื่อครู่วิ่งไล่ตามเฉิงโม่หนงไปนั้น ก็ได้กลับมาแล้ว และเดินเข้ามาหาเสิ่นรั่วชิงอย่างยิ้มแย้ม พร้อมกับพูดขึ้นว่า: “คุณนี่เยี่ยมยอดเสียจริง! ”
เมื่อเห็นว่าเย่อู๋เทียนกลับมาแล้ว เกาเยว่หลูกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็ตะลึงงันไปหมด
แม้ว่าเสิ่นรั่วชิงเองจะแปลกใจเล็กน้อย แต่สีหน้าก็ยังคงเป็นปกติ พร้อมกับเหลือบตามองไปที่เย่อู๋เทียน และพูดขึ้นว่า: “ต่อไปทำอะไรก็อย่าวางตัวโดดเด่นโอ้อวดเกินไปนัก นายยอดเยี่ยมมีความสามารถมากแค่ไหนนายไม่รู้ตัวเหรอ แม้นายจะไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ห้ามไม่ได้ที่ผู้หญิงคนอื่นจะโผเข้ามาหานาย ต่อไปจะต้องถ่อมตัวลงหน่อย อย่าได้แสดงเสน่ห์อันน่าหลงใหลในตัวของนายให้กับผู้หญิงอื่นอีก! ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หัวใจของเย่อู๋เทียนนั้น
เหมือนกับถูกปลุกกระตุ้นเร่งเร้า จนร่างกายสั่นเทาไปหมด
ใบหน้ายิ้มแย้มหวานฉ่ำราวกับดื่มน้ำผึ้งอย่างไรอย่างนั้น
เกาเยว่หลูกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยต่างก็ตะลึงกับวิธีกำราบสามีของเสิ่นรั่วชิงอีกครั้ง ต่อหน้าคนอื่น เสิ่นรั่วชิงถึงกับเอ่ยปากชื่นชมเย่อู๋เทียนอย่างน่าสะอิดสะเอียน แล้วแบบนี้ผู้ชายคนไหนจะไปทนไหวล่ะ?