จอมนักรบอหังการ - บทที่ 165 เขาเอ๋อเหมยของฉัน จ่ายค่าเช่าไม่ไหวอย่างนั้นหรือ
จอมนักรบอหังการ บทที่ 165 เขาเอ๋อเหมยของฉัน จ่ายค่าเช่าไม่ไหวอย่างนั้นหรือ?
ทันทีพี่พูดคำเหล่านี้ออกมา พื้นที่ที่นี่ก็เงียบกริบกันหมด
โดยเฉพาะถังเลี่ยน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ผู้อาวุโสที่เปล่งเสียงเมื่อครู่แต่ไม่ปรากฏตัว กลับไม่ใช่ผู้อาวุโสของเขาเออเหมยอย่างนั้นหรือ?
แต่ว่า……
ในโลกปัจจุบันนี้ นอกจากผู้อาวุโสหลังเขาเอ๋อเหมยแล้ว ยังมีใครที่มียาล้างไขกระดูกอีกเหรอ?
ใครกันที่สามารถใช้ยาล้างไขกระดูก ทุบแผ่นศิลาจารึกชุนชิลให้ดูเหมือนใยแมงมุมได้อย่างง่ายดาย
เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?
ในท่ามกลางความสงสัยของทุกคน เย่อู๋เทียนได้หันไปทางประตูใหญ่ในงานประมูลชินชิลเรียบร้อยแล้ว
คนที่ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูใหญ่นั้น เป็นผู้เฒ่าผมเทาที่มีความสูงเกือบสองเมตร โดยทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความดื่มด่ำของพลังที่ไม่ธรรมดา!
และด้วยการปรากฏตัวของผู้เฒ่าผู้นี้ ห้องโถงรับแขกขนาดใหญ่ ก็ส่งเสียงเอิกเกริกขึ้นอีกครั้ง
“ชายชราลึกลับผู้ใช้ยาล้างไขกระดูกยิงบนศิลาจารึกจนแตกผู้นั้น เป็นเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์จากที่ใดกันแน่?”
“นี่คือเขากำลังยั่วยุเขาเอ๋อเหมยอย่างโจ่งแจ้งโดยสิ้นเชิง!”
“เกรงว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้น แต่ทว่าหลังจากที่ผู้อาวุโสตัวจริงจากหลังเขาเอ๋อเหมยปรากฏตัว เหตุใดชายชราลึกลับผู้นั้นถึงไม่พูดอีก?”
“น่าจะเป็นเพราะกลัวแล้ว!”
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดอยู่นั้น ผู้เฒ่าผมเทาที่ปรากฏตัวอยู่ที่ประตูใหญ่ในงานประมูลคนนั้น กำลังกวาดสายตามองที่คนที่อยู่ในที่นี้อย่างเย็นชา
แต่เมื่อกวาดสายตาไปจนทั่วแล้ว กลับไม่พบยอดฝีมือไร้เทียมทานอะไรนั่นอยู่ที่นี่เลย
ท้ายที่สุดผู้เฒ่าผมเทาก็หันความสนใจไปด้านนอกประตูห้องโถงรับแขกแห่งนี้ ซึ่งครวญครางอย่างหนัก และพูดขึ้นว่า:”คนต่ำต้อยก็คือคนต่ำต้อย เหตุใดถึงไม่พูดแล้วเล่ะ? ถ้ากล้าพอ ก็เปิดเผยตัวมาเจอกันสักตั้ง มาทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้ มันคืออะไร หา?”
ทันทีที่เสียงพูดจบลง……
เย่อู๋เทียนก็ได้เดินหันไปทางผู้เฒ่าผมเทา
สีหน้าของหยางเฟยเอ๋อร์ตื่นตระหนกขึ้นมาชั่วขณะ และเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
ชายชราสังเกตเห็นหยางเฟยเอ๋อร์และเย่อู๋เทียน จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถามขึ้นว่า:”พวกท่านเป็นใคร?”
เย่อู๋เทียนพูดอย่างเฉยเมย:”มาเก็บค่าเช่า และแวะมาซื้อของด้วย”
ผู้เฒ่าผมเทาขมวดคิ้วแน่น และพูดอย่างเบ็นชาว่า:”หรือว่าเป็นคนตระกูลเฉาที่เจียงหนาน?”
เย่อู๋เทียนมองหยางเฟยเอ๋อร์แวบหนึ่ง
หยางเฟยเอ๋อรวบรวมความกล้า แล้วพูดว่า:”ใช่แล้วค่ะ”
ผู้เฒ่าผมเทาพึมพำอย่างเย็นชา และไม่ได้สนใจเย่อู๋เทียนและหยางเฟยเอ๋อร์อีก ยิ่งไม่สนใจ”ชายชราลึกลับ”ที่เขาคิดว่าอยู่ข้างนอกแต่ไม่กล้าเข้ามาคนนั้นอีก
แต่กลับประกาศอย่างเป็นทางการกับตัวเองว่า……
การแข่งขันงานประมูลชุนชิลรอบแรกของปีนี้ ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ทันทีหลังจากนั้น ผู้เฒ่าผมเทาก็ประกาศกฎของการประมูลวันนี้อีกด้วย
สรุปง่ายๆ ด้วยสองประโยค
ประโยคที่หนึ่ง
ประสงค์ซื้อของในงานประมูลชุนชิลวันนี้ สกูลเงินซื้อขายที่ งานประมูลชุนชิลยอมรับมีเพียงชื่อ จิน ชิงและจื่อสี่สกูลเงินนี้เท่านั้น และผู้ที่เสนอราคาสูงก็จะได้รับไป
ประโยคที่สอง
ประสงค์เอาของในงานประมูลชุนชิลวันนี้ไป ก็ได้ ขอเพียงแค่สามารถเอาชนะผู้อาวุโสของเขาเอ๋อเหมยที่ประจำการอยู่ที่นี่ท่านไหนก็ได้ จากนั้นสามารถเอาสินค้าประมูลทั้งหมดในงานประมูลชุนชิลได้ตามต้องการ
เพียงสองประโยคง่ายๆ ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของหลังเขาเอ๋อเหมยนั้นทรงพลังเพียงใด
หลังจากที่ประกาศสิ่งเหล่านี้แล้ว ชายชราผมเทาก็ยังคงเพิกเฉยต่อเย่อู๋เทียนและหยางเฟยเอ๋อร์ จากนั้นเดินตรงไปยังศิลาชุนชิลอย่างเอ้อระเหย
โดยพึ่งสังเกตตอนนี้ว่า รอยแตกของศิลาจารึกเหมือนราวใยแมงมุมนั้นสาเหตุทั้งหมดเป็นเพียงเพราะยาล้างไขกระดูกเพียงเม็ดเดียว!
หลังจากที่มองเห็นอย่างชัดเจนแล้วผู้เฒ่าผมเทาอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าที่ประทับใจ
“ชายชราลึกลับ”เมื่อครู่อยู่ด้านนอกที่ได้ยินเพียงเสียงแต่ไม่เห็นตัวของเขานั้น มาจากมามราไหนกันแน่?
อาศัยเพียงแค่ยาลูกกลอนเม็ดเดียว ก็สามารถยิงศิลาจารึกชุนชิลจนแตกได้หรือ?
ต้องรู้ว่า……
ศิลาจารึกชุนชิลนี้ ถูกสร้างขึ้นจากหินบริสุทธิ์ที่แข็งแรงที่สุดในโลก!
แม้แต่ตัวเอง ก็ยังต้องใช้พลังทั้งหมดโจมตี ถึงจะสามารถทุบศิลาจารึกนี้แตกได้!
ตอนนี้ “ชายชราลึกลับ”คนนั้น กลับอาศัยยาลูกกลอนเม็ดเดียว ก็ทำให้เกิดพลังทำลายล้างแบบนี้แล้วหรือ?
ผู้เฒ่าผมเทาสูดลมหายใจเย็นเยือกเข้าไปลึกๆ และอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวขึ้นมาในใจ
โชคดีที่”ชายชราลึกลับ”คนนั้น ไม่ได้ปรากฏตัวมาเผชิญหน้ากับตนที่ฝีมือต่ำต้อย มิฉะนั้นตัวเองจะรอดกลับมาได้ยาก!
ในเวลานี้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ล้อมรอบผู้เฒ่าผมเทาไว้แล้ว
ใบหน้าของทุกคนนั้น เต็มไปด้วยความสงสัย
“ชายชราลึกลับ”ที่ได้ยินแต่เสียงของเขาเมื่อครู่นั้น ตอนนี้ทำไมเงียบไปแล้วล่ะ?
หรือว่าจะกลัวท่านอาวุโสจากหลังเขาเอ๋อเหมยท่านนี้จริงอย่างนั้นหรือ?
แล้วก็……
ยาไขกระดูกที่ฝังอยู่บนศิลาจารึกชุนชิล สุดท้ายแล้วจะตกเป็นของตระกูลไหนหรือ?
เมื่อครู่ผู้เฒ่าผมเทาที่รับผิดชอบเปิดประกาศกฏท่านนี้ ได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว!
งานประมูลวันนี้ จะยอมรับแค่สกุลเงินชื่อ จิน ชิงและจื่อ สี่สกุลเท่านั้น!
และเหริญสี่สกุลเงินนี้ได้แก่ เหรียญชื่อจิง เหรียญจินจิง เหรียญชิงจิง และเหรียญจื่อจิง!
ซึ่งในยุทธภพสมัยใหม่ เหรียญชื่อจิงได้รับความนิยมมากที่สุด และราคาถูกที่สุด
รองลงมาคือเหรียญ จิน ชิง และจื่อ สามอย่างนี้ตามลำดับ
ในสามสกุลเงินนี้ เหรียญจื่อจิงถือว่ามีค่าที่สุด แต่เหรียญจื่อจิงได้หายสาบสูญไปได้หลายร้อยปีแล้ว!
ปัจจุบัน จำนวนที่เหลืออยู่บนโลกสามารถใช้นิ้วนับจำนวนได้เลย
แล้วก็……
ปรมาจารย์บู๊การต่อสู้ที่แท้จริงบางคน เคยเห็นแต่รูปแบบของเหรียญจื่อจิงเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเหรียญจื่อจิง
แต่ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นเพียงแค่รูปแบบของเหรียญจื่องจิงเท่านั้น แต่ก็ได้รับผลประโยชน์จากสิ่งนี้ไม่น้อยเหมือนกัน
เพราะแบบของเหรียญจื่อจิงนั้น ก็เหมือนกับวิชายุทธ์ล้ำเลิศอย่างหนึ่ง ขอเพียงแค่ฝึกฝนตามลายลึกลับข้างบน ก็จะสามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว!
และเหรียญชั้นดีทั้งสี่ชนิดนี้ได้รับการยอมรับจากวงการบู้การต่อสู้ว่า เป็นหนึ่งเดียวโดยไม่มีข้อยกเว้น และทั้งหมดล้วนสร้างจากหินวิจิตรประหลาดที่ตกลงบนพื้นโลกในสมัยโบราณ!
โดยในโลกนี้มีจำนวนจำกัด!
สิ่งสำคัญที่สุดคือ แม้แต่เหรียญชื่อจิงที่สลักลายลึกลับข้างบนที่ถูกที่สุดนั้น ก็มีประโยชน์มากมายโดยไม่มีผลเสียแม้แต่อย่างเดียว สำหรับนักบู้การต่อสู้!
เมื่อก่อนเย่อู๋เทียนเคยมอบเหรียญจินจิงให้กับเฉินเมิ่งเฉี่ยนตระกูลเฉินแห่งเมืองหนานกั่งเหรียญหนึ่งเช่นกัน
และตอนนี้เฉินเมิ่งเฉี่ยนก็อยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน
แต่เนื่องจากพกเหรียญจินจิงติดตัว ดังนั้นจึงทำตัวไม่ให้เป็นที่สนใจ
อีกทั้งยังสวมหน้ากาก เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะจำเธอได้ อย่างไรก็ตาม การครอบครองสิ่งของล้ำค่าเกินไป อาจกระตุ้นความริษยาของคนอื่นได้จนเป็นภัยให้ตัวเอง!
และตอนนี้ยาล้างไขกระดูกที่กำลังฝังอยู่กลางใจศิลาจารึกชุนชิลนั้น หากซื้อด้วยเหรียญชื่อจิง ต้องใช้ทั้งหมดยี่สิบเหรียญ หรือเหรียญจินจิงหนึ่งเหรียญอย่างเสียไม่ได้!
จะเห็นได้ว่ายาล้างไขกระดูกนั้นล้ำค่าเพียงใด!
ในขณะนี้ นอกจากเย่อู๋เทียนและหยางเฟยเอ๋อร์แล้ว สายตาของที่คนไม่ว่าใครก็จดจ้องไปที่ยาล้างไขกระดูกบนศิราจารึกนั่นเป็นตาเดียวกัน!
แต่กลับไม่มีคนกล้าลงมือ!
ผู้เฒ่าผมเทาจ้องมองยาล้างไขกระดูกเป็นเวลาเนิ่นนาน และไม่อาจห้ามปรามความโลภใจได้ แต่ก็ไม่กล้าลงมือ
เพราะไม่วว่าอย่างไรผู้อาวุโสลึกลับที่ยิงยาล้างไขกระดูกเข้าใส่ศิลาจารึกนั้น ก็ไม่ยอมที่จะปรากฏตัว
ใครจะรู้ว่าถ้าแตะต้องยาล้างไขกระดูกนี้โดยพลการ ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร?
ผู้เฒ่าผมเทานิ่งอยู่นาน จากนั้นมองดูทุกคนอย่างเย็นชา และกล่าวขึ้นว่า:”พวกคุณเข้าไปเถอะ!”
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ไม่มีแม้แต่คนเดียวเดินเข้าไปในงานประมูล
น่าขำ!
วันนี้ทุกคนมางานประมูลชุนชิล เพื่อทำอะไร?
ก็เพื่อยาล้างไขกระดูกไม่ใช่หรือ!
ซึ่งตอนนี้ยาล้างไขกระดูกได้ปรากฏขึ้นแล้ว และเป็นไปได้สูงอาจจะได้มาโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท ใครจะอยากเข้าไปเสียเงินในสนามประมูลเล่า?
เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ยอมขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ใบหน้าของผู้เฒ่าผมเทากระตุกขึ้น เหมือนกับเอาใบหน้าไปกวาดพื้น
และในเวลานี้เอง เย่อู๋เทียนได้ปรากฏตัวมาอยู่ต่อหน้าของผู้เฒ่าผมเทาอีกครั้ง โดยพูดเตือนขึ้นว่า:”ผมมาเก็บค่าเช่าครับ”
ซึ่งยิ่งเป็นการไม่ไว้หน้าผู้เฒ่าผมเทาเสียเลย
หลังเขาเอ๋อเหมย
ค่าเช่าแค่นี้คิดว่าจ่ายไม่ไหวเช่นนั้นหรือ?
ในขณะที่ผู้เฒ่าผมเทาจะพูดขึ้น และแล้วก็มีเสียงนายหญิงคนหนึ่งดังพรวดพราดมาจากฝูงชน
“เลี่ยนเอ๋อร์ ขึ้นไปช่วยผู้เฒ่าท่านนี้จัดการแมวกับสุนัขสองตัวของตระกูลเฉานั่นให้หน่อย ที่นี่คือที่ไหน พวกมันกล้าดียังไงมาโวกเวกโวยวายที่นี่!
คนที่พูดนี้ นอกจาอกหานเฟิงอี้แล้วจะเป็นใครไปได้?
ถังเลี่ยนขมวดคิ้วมองไปทางหานเฟิงอี้แวบหนึ่ง และผู้เฒ่าท่านนี้ก็ขมวดคิ้วมองมาทางถังเลี่ยนแวบหนึ่งเช่นกัน
คนอื่นๆ ก็ส่งสายตามองมายังใบหน้าของหานเฟิงอี้เช่นกัน
ผู้เฒ่าผมเทาตอกกลับหานเฟิงอี้อย่างไม่แยแส
“หลังเขาเอ๋อเหมย ไม่เคยใช้อำนาจรังแกผู้อื่น และตอนนี้พวกเราใช้ที่ของตระกูลเฉา ก็สมควรที่จะจ่ายค่าเช่า แต่ตอนนี้คุณมาพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? คุณคิดว่าหลังเขาเอ๋อเหมยของเราจ่ายค่าเช่าไม่ไหวอย่างนั้นหรือ?”
หานเฟิงอี้สตั้นไปทันที
คิดไม่ถึงว่าเธอ พูดออกหน้าแทนหลังเขาเอ๋อเหมย แต่ทำไมถึงถูกตำหนิได้เสียอย่างนั้น?
ชายชนาผมเทาพึมพำอย่าเย็นชา และมองไปยังเย่อู๋เทียนอีกครั้ง โดยหรี่ตาขึ้นและพูดว่า:”เด็กหนุ่ม ช่างกล้าหาญยิ่งนัก ไม่รู้วิทยายุทธ์ด้วยซ้ำ แต่กลับกล้ามาเก็บค่าเช่าที่นี่ น่านับถือ”
พูดพลางหยิบเหรียญชื่อจิงออกมาจากกระเป๋าออกมาอันหนึ่ง และพูดว่า:” นี่คือเงินค่าเช่าของเธอ ต่อไปอย่ามาแบบไม่เกรงกลัวความตายแบบนี้อีกนะ!”
เย่อู๋เทียนของเหรียญชื่อจิงในมือของผู้เฒ่าผมเทาอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง และกล่าวว่า:”ของสิ่งนี้ เอาไปซื้อน้ำจากร้านค้าข้างนอกเขายังไม่รับเลย ผมต้องการเงิน”
ผู้เฒ่าผมเทาอึ้งไปอย่างจัง
และตอนนี้ทุกคนก็หัวเรากันอย่างสนุก
มีคนเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เด็กกนุ่ม นายรู้ไหมว่าเหรียญชื่อจิงนี้หมายความว่าอย่างไร? หากนายต้องการเงิน ฉันเอาให้นายสิบล้านแล้วกัน เพื่อเซื้อเหรียญชื่อจิงเหรียญนี้ แต่ตอนนี้ นายรับเหรียญชื่อจิงนี้ แล้วไสหัวไปรอฉันข้างนอกก่อน หลังจากที่ร่วมงานประมูลวันนี้เสร็จแล้ว ตอนนี้ออกไปเราค่อยมาแลกเปลี่ยนกัน!”
เย่อู๋เทียนไม่แม้แต่จะสนใจคนที่พูดคนนั้นแม้แต่น้อย แต่กลับหยิบเหรียญหินสีม่วงขนาดเท่าฝานิ้วหัวแม่มือออกมาจากเอว และพูดกับผู้เฒ่าผมเทาว่า:”ถ้าจะให้ ก็ให้เหรียญแบบนี้มา ของที่อยู่ในมือของท่าน ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงด้วยซ้ำ”
พอพูดจบลง……
พื้นที่ตรงนั้นกลับเงียบกริบราวกับป่าช้า
ผู้อาวุโสผมเทาเบิกตากว้างอย่างแรง และมองเหรียญหินสีม่วงในมือของเย่อู๋เทียนอย่างไม่กะพริบตา พูดด้วยเสียงสั่นเล็กน้อยว่า:”เหรียญจื่อ……จื่อจิง?”