จอมนักรบอหังการ - บทที่ 170 เรื่องน่าสนุก พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 170 เรื่องน่าสนุก พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น!
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป เสียงลุกฮือก็ดังขึ้นทั่วทั้งงาน!
เชิญออกไป?
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?
ก่อนหน้านี้ หัวเฉียนคุนพูดเองไม่ใช่หรอว่า จะให้ผู้กล้าทุกคนที่อยู่ในงานไปล้อมชายหนุ่มผู้มีแก่นเหรียญม่วงในครอบครองหรอ?
จู่ๆทำไมมาขับไล่แขกตอนนี้ล่ะ?
หญิงสาวที่ยืนอยู่บนจุดจัดแสดง มีนามว่าเจี่ยนโล่จู๋
เป็นลูกสาวของโล่ซวนหยวน ธิดาของผู้นำสูงสุดแห่งประเทศหลง
แต่ว่า โล่ซวนหยวนไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้ เขายังมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง……
ทว่า โล่หวางกลับรู้เรื่องนี้ ว่าบนโลกใบนี้ เธอยังมีพี่สาวอยู่อีกคน อีกทั้งพึ่งรู้ไม่กี่วันนี้เอง
เมื่อเห็นว่า หยางเฟยเอ๋อร์ตกตะลึงที่ได้มองเห็นเจี่ยนโล่จู๋ที่อยู่บนจุดจัดแสดง เธอไม่รู้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงได้จู่ๆขับไล่แขกเช่นนี้
เย่อู๋เทียนที่นั่งอยู่ข้างๆกันกับหยางเฟยเอ๋อร์ แน่นอนว่าสงสัยไม่ต่างกัน
ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยกับการกระทำของเจี่ยนโล่จู๋ เธอก็ได้พูดขึ้นมาอีกว่า
“งานประมูลในวันนี้ สามารถใช้ได้แค่ทองแดง ทอง และเขียว ในการเสนอราคา สำหรับแก่นเหรียญม่วง ต้องขอโทษด้วยค่ะ เนื่องจากมีจำนวนจำกัด อีกทั้งยากที่จะแยกแยะของแท้ได้ยาก ดังนั้น จึงไม่ได้ถูกจัดไงในประเภทของการประมูลในวันนี้!”
“นอกจากนี้แล้ว ได้ยินผู้อาวุโสหัวพูดว่า คุณหนูที่แซ่หยางท่านนี้ มาที่นี่เพื่อเก็บค่าเช่ากับเรา……หึๆ ฉันคิดว่า เรื่องนี้ค่อยถกกันวันหลังนะคะ วันนี้ คุณไม่ได้อยู่ภายใต้การเชิญจากการประมูล ขอเชิญมาจากทางไหนกลับไปทางนั่นด้วยค่ะ!”
สิ้นเสียงของเจี่ยนโล่จู๋ ในงานก็……
เกิดเสียงหัวเราะดังลั่นทันที!
“ฮ่าๆๆ การกระทำของหลังภูเขาเอ๋อเหมย ฉันนับถือจริงๆ!แก่นเหรียญม่วงงั้นหรอ?ถึงจะมีค่าแล้วยังไงล่ะ? ไม่ได้รับการยอมรับจากหลังภูเขาเอ๋อเหมยอยู่ดี เป็นแค่ขยะเท่านั้นแหละ!”
“พูดได้ไม่เลว เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนโล่จู๋คนของหลังภูเขาเอ๋อเหมยสงสัยในแก่นเหรียญม่วงว่าเป็นของจริงหรือไม่ ฉันว่า แก่นเหรียญม่วงนั่นต้องเป็นของปลอมแน่ๆ!”
“ใช่แล้ว จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าผู้ชายที่หยางเฟยเอ๋อร์พามาด้วย ชื่อแซ่อะไร แม้แต่ชื่อยังไม่ยอมบอก ไม่รู้ว่าเป็นหนูท่อโผล่มาจากไหน!”
ถังเลี่ยนที่ยืนอยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงประชดประชัน ใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กระทั่งจ้องมองไปที่เย่อู๋เทียนด้วยแววตาดูหมิ่น ซึ่งมันชัดเจนมาก
ถ้าพูดจากสิ่งที่ถังเลี่ยนกำลังคิด
ไม่ว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน วันนี้ ถึงแกจะเป็นมังกร ก็ต้องขดตัว เป็นเสือ ก็ต้องหมอบศิโรราบ!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้มีอิทธิพลของภูเขาเอ๋อเหมยที่อยู่ที่นี่มากมาย
ลำพังแค่ผู้กล้านับร้อยที่กำลังนั่งกันอยู่ ผู้กล้าจากหลายสำนัก หากจู่โจมเขาพร้อมกัน เขาก็ต้องตายอยู่ที่นี่
เสียงเย้ยหยันสารพัดรูปแบบพุ่งมาทางเย่อู๋เทียนกับหยางเฟยเอ๋อร์พร้อมๆกัน
ทันใดนั้น ทั้งสองก็กลายเป็นตัวประหลาดในงานทันที
หยางเฟยเอ๋อร์หน้าแดงก่ำ
จนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยได้รับความอับอายเช่นนี้มาก่อน
เย่อู๋เทียนกลับไม่รีบไม่ร้อน เขานั่งข้างหยางเฟยเอ๋อร์ราวกับกำลังนั่งตกปลาอยู่ก่อนไม่ปาน
ราวกับว่าเสียงประชดประชันบริเวณโดยรอบถึงจะมากมายขนาดไหน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
เหตุผลง่ายมาก เจี่ยนโล่จู๋ที่ยืนอยู่บนจุดจัดแสดงกำลังคิดอะไรอยู่ เขามองออกในทันที
เย่อู๋เทียนได้ทดสอบ แก่นเหรียญม่วงมาก่อนแล้ว
เป็นของจริง
ไม่ใช่ของปลอม
เย่หวู่เทียนรู้แล้วว่า ทำไมเหรียญเนื้อดีสีม่วงถึงมีความสำคัญในบรรดาเหรียญเนื้อดีทั้งสี่ชนิดในหวู่หลิน
ในบรรดาทุกแก่นเหรียญม่วง ล้วนมีพลังงานลึกลับในตัว
หากใช้วิธีสูดดมเพื่อซึมซับเข้าสู่ร่างกาย จะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ……
มีรอยสลักไว้บนพื้นผิวของแก่นเหรียญม่วง ไม่ธรรมดาเช่นกัน เหมือนกับเครื่องรางของขลังของลัทธิเต๋า ซึ่งสามารถช่วยให้นักรบเพิ่มพูนการบ่มเพาะพลังของพวกเขาได้
หลายปีที่ผ่านมา เหตุผลที่พื้นฐานการบ่มเพาะของเย่อู๋เทียน พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็คือ นอกจากพรสวรรค์ของเขาเองแล้ว เขายังเกี่ยวข้องกับแก่นเหรียญม่วงอีกด้วย
เหตุผลที่เย่อู๋เทียนสามารถเป็นเจ้าของของแก่นเหรียญม่วงได้ เป็นเพราะเคยประสบกับการสู้รบทางทะเลในปีนั้น
เขาได้มาจากใต้ทะเลลึก
หลังจากผ่านการวิจัยมานานหลายปี ก็พบว่าแก่นเหรียญม่วงความจริงแล้วมีความพิเศษบางอย่าง
เวทโบราณ จะใช้มันเพื่อการเล่นแร่แปรธาตุ
เพื่อความสะดวกในการเก็บรักษา พ่อมดโบราณได้สร้างมันขึ้นมาเป็นแก่นเหรียญม่วงไว้
แก่นเหรียญม่วงแบบนี้ มีแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้ของเวทโบราณ
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุด
สิ่งที่มีค่าที่สุดเกี่ยวกับแก่นเหรียญม่วง คือหลังจากบดขยี้ จะพบว่ามีน้ำอมฤตอยู่ภายใน
สำหรับว่าคือยาอะไร เย่อู๋เทียนก็ไม่อาจรู้ได้
แต่หลังจากผ่านการทดลองต่างๆ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าหลังจากรับประทานยาอายุนี้ไปแล้ว จะช่วยยกระดับความสามารถในการต่อสู้ได้เป็นอย่างมาก
อาจกล่าวได้ว่า หลังจากกินยาชนิดนี้ที่อยู่ในแก่นเหรียญม่วง จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ยาชำระล้างหลายร้อยเท่า!!
อีกทั้ง มันไม่เป็นอันตราย!
และอาจกล่าวได้ว่า หากแก่นเหรียญม่วงเปลี่ยนไป มันก็เป็นอย่างน้อยหนึ่งร้อยเท่าของยาชำระล้าง!
ล้ำค่าขนาดนี้ ตอนนี้กลับถูกเจี่ยนโล่จู๋พูดซะไร้ค่าเลย จะไม่สามารถนำมาประมูลในงานด้วย?
มันไร้สาระมาก!
แต่ทว่าพอเย่อู๋เทียนได้ย้อนคิด
ไม่ควรนำเจ้านี่มาใช้ประมูลในงานจริงๆด้วยนั่นแหละ เพราะว่า……
มันล้ำค่าเกินไป
เสียงหัวเราะถากถางของคนในงาน ยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย
หยางเฟยเอ๋อร๋เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?
เมื่อเห็นรู้สึกอับอายไร้ที่ยืน เธอแทบจะอยากหารูหมุดเข้าไปเลยก็ว่าได้
หยางเฟยเอ๋อร์ถามเย่อู๋เทียนอยากร้อนใจ“ไม่งั้น เราไปกันเถอะ?ฉันคิดว่าพวกเขากำลังเล่นตุกติก!อีกทั้งผู้มีอิทธิพลที่เขามากมายรวมตัวอยู่ที่นี่ เราควรจะหลบเลี่ยงสักหน่อยนะ!”
เย่อู๋เทียนยิ้มเล็กน้อย “พนันกันหน่อยเป็นไง?”
หยางเฟยเอ๋อร์ตกตะลึง“นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังมีกะจิตกะใจเดิมพันกับฉันอีก!”
เย่อู๋เทียนหัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไร
หยางเฟยเอ๋อร์พูดอย่างไม่เข้าใจ“เดิมพันอะไร?”
เย่อู๋เทียนกล่าว“ที่หญิงสาวที่ยืนอยู่บนจุดจัดแสดงไล่เราก็เป็นเพราะว่า ความจริงแล้วไม่ได้อยากจะไล่เราหรืออะไร แค่อยากจะให้เราอยู่ต่อ?”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดอย่างงุนงง“หมายความว่ายังไงคะ?”
เย่อู๋เทียนพูดอย่างยิ้มๆ“ทำให้ผมโกรธ แล้วให้ผมลงมือจัดการคนพวกนี้ พวกเขาจะได้มีเหตุผลดักล้อมผมไง”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดอย่างหน้าถอดสี“งั้นก็ยิ่งต้องรีบออกไปใหญ่เลย หนึ่งต่อหนึ่ง ฉันยังมั่นใจว่าคุณทำได้ แต่ในนี้มีคนนับร้อยแน่ะ แต่ละคนก็ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ ไปๆๆ รีบไปกันเถอะ!”
เย่อู๋เทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะกล่าวว่า“ได้ เราไปกัน”
พูดน่ะมันพูดง่าย แต่หลังจากที่เย่อู๋เทียนลุกขึ้นยืนกับหยางเฟยเอ๋อร์แล้วเดินไปทางประตู เย่อู๋เทียนก็คิดในใจเงียบๆ
“หนึ่ง……”
“สอง……”
“สาม……”
ตอนนี้ บรรยากาศในงานไปถึงจุดสูงสุดแล้ว
ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่า เย่อู๋เทียนไม่ได้เก่งกาจอะไร ยอมแพ้ง่ายๆ และยังคิดอยากจะออกไปอีก!
ดูท่า การรุมโจมตี จะไม่เป็นปัญหาอะไร
ในตอนที่เย่อู๋เทียนนับถึงสิบนั้น จู่ๆเสียงของเจี่ยนโล่จู๋ก็ดังมาจากด้านหลัง
“ช้าก่อน!”
เมื่อเย่อู๋เทียนได้ยินเสียงนี้ ก็แอบหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วหรอ?
หลังภูเขาเอ๋อเหมย ก็เป็นได้แค่นี้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่อู๋เทียนก็หันกลับไปมอง ด้วยรอยยิ้มอย่างแจ่มแจ้งบนใบหน้าของเขา แต่ดวงตาของเขาเย็นชาราวกับคมมีด
มองไปที่สายตาของคนที่อยู่ในงาน ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูกลุ่มอาชญากรที่กำลังจะตาย
หยางเฟยเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆกลับไม่สังเกตสายตาของเย่อู๋เทียน เธอจับมือของเย่อู๋เทียนแน่น แล้วพูดว่า“ซวยแล้วๆ ตายแน่ๆๆ คราวนี้ เรามาผิดที่แล้วจริงๆ ยังจะมาเก็บค่าเช่าอีก เก็บบ้าอะไรเนี่ย!”
เย่อู๋เทียนไม่ได้สนใจหยางเฟยเอ๋อร์ แต่มองไปที่เจี่ยนโล่จู๋ที่ยืนอยู่บนจุดจัดแสดง พลางถามอย่างเย็นชาว่า“มีเรื่องอะไร?”
เจี่ยนโล่จู๋มองไปที่เย่อู๋เทียนอย่างเย่อหยิ่ง แล้วกล่าวว่า“คุณคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่อะไร?คิดอยากจะมาก็มาคิดอยากจะไปก็ไป?”
เย่อู๋เทียนค่อยๆเอ่ยถามว่า“คุณจะเอายังไง?”
เจี่ยนโล่จู๋หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วเดินลงมาจากเวที จ้องมองดูเย่อู๋เทียนไปด้วย พลางพูดไปด้วย
“ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ หลังภูเขาเอ๋อเหมยของฉัน ใช้เหตุผลและศีลธรรมตลอด เอาแบบนี้นะคะ กว่าคุณจะมาที่นี่ได้ มันก็ไม่ง่าย สู้คุณใช้แก่นเหรียญม่วงในมือให้ฉันตรวจดูหน่อย ถ้าเป็นของจริง ฉันก็จะอนุญาตให้คุณออกไปอย่างปลอดภัย อีกทั้ง จะขอแลกแก่นเหรียญเขียวยี่สิบเหรียญ กับแก่นเหรียญม่วงที่อยู่ในมือของคุณ !”
เมื่อพูดจบ
ตุ้ม!
เสียงกระหึ่มทั้งงานทันที
ทุกคนถึงได้เข้าใจว่า เป้าหมายของหลังภูเขาเอ๋อเหมย ความจริงแล้วคือแก่นเหรียญม่วง สำหรับคนที่มีแก่นเหรียญม่วงในครอบครอง……
จะเป็นหรือจะตาย ก็ไม่สำคัญ
เย่อู๋เทียนมองเจี่ยนโล่จู๋อย่างยิ้มๆ แล้วพูดเบาๆว่า “อ๋อหรอ ที่แท้คุณก็จะใช้เงินซื้อของของผมนี่เอง และคุณก็เหมือนคนค้าขายอีกด้วยสิ”
เจี่ยนโล่จู๋หรี่ตาแล้วพูดอย่างยิ้มๆ“ไหนว่ามาสิ?”
พูดจบ เจี่ยนโล่จู๋ก็เตรียมพร้อมฆ่าเย่อู๋เทียนทุกเมื่อ
ชื่อเสียงโส่วจั่วอันดับหนึ่งของหลังภูเขาเอ๋อเหมย ไม่ใช่ได้มาเปล่าๆ
ผู้หญิงอย่างเจี่ยนโล่จู๋ จิตใจโหดเหี้ยม อีกทั้ง ฝึกวิทยายุทธ อยู่อันดับหนึ่งในสิบของภูเขาเอ๋อเหมย!
เย่อู๋เทียนกวาดสายตามองเจี่ยนโล่จู๋ขึ้นลง แล้วพูดว่า“ค้นหาข้อผิดพลาด ถึงจะเป็นผู้ค้าขายที่ดี และยังทำท่ารังแกคนอื่นอีกด้วย มืออาชีพจริงๆ”
เจี่ยนโล่จู๋ได้ปฏิเสธ เธอแสร้งแก่นเหรียญม่วงที่อยู่ในมือหยางเฟยเอ๋อร์อย่างไม่สนใจ แล้วถามเย่อู๋เทียนว่า “คุณมีแก่นเหรียญม่วงเท่าไร?”
เย่อู๋เทียนมีนับร้อยเหรียญ ครั้งนี้เขาพกมาสิบเหรียญ ล้วนถูกเหน็บไว้ในเข็มขัด แต่เมื่อได้ยินเจี่ยนโล่จู๋ถามเช่นนี้ จึงตอบกลับไปว่า “แค่สองเหรียญเท่านั้น”
พูดจบ เขาก็จงใจหยิบเหรียญในมือของหยางเฟยเอ๋อร์ไป หลังจากนั้นก็ใช้แรงบดขยี้ ต่อหน้าสายตาของทุกคน จนกลายเป็นผง
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ใบหน้าสะสวยของเจี่ยนโล่จู๋ เปลี่ยนไป
แต่สีหน้าของเย่อู๋เทียนกลับไม่เปลี่ยนแปลง เขาค่อยๆพูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้ ยังเหลืออีกหนึ่งเหรียญ คุณยังอยากซื้ออยู่อีกไหม?”
พูดจบ เย่อู๋เทียนก็หยิบอีกเหรียญที่ซ่อนไว้ในเข็มขัดออกมาอีกเหรียญ
ในตอนนี้เอง ทั่วทั้งงาน……
หยุดความเคลื่อนไหว!
เย่อู๋เทียนมองไปที่ทุกคนที่อยู่ในงานอย่างยิ้มๆ โดยแอบคิดในใจว่า
เรื่องสนุก พึ่งเริ่มสินะ!