จอมนักรบอหังการ - บทที่ 174 กระทืบหัวของถังว่านฉาวลงพื้น!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 174 กระทืบหัวของถังว่านฉาวลงพื้น!
เหล่าผู้กล้ามากมายมารวมตัวกันที่นี่ อีกทั้งแต่ละคนแฝงเลศนัยไว้
อันที่จริงใครๆก็อยากได้แก่นเหรียญม่วงในมือของเย่อู๋เทียนทั้งนั้น แต่ตอนนี้……
ถังว่านฉาวยอดฝีมือระดับนี้ เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้แล้ว ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกลำบากใจ
สิ่งที่ไร้สาระไปกว่านั้นก็คือ ถังว่านฉาวเสนอราคาหนึ่งพันแก่นเหรียญเขียวที่สูงลิ่วขนาดนั้น!
เขามีเงินขนาดนั้นจริงๆหรอ?
ต้องรู้ว่า ถึงแก่นเหรียญเขียวจะด้อยกว่าแก่นเหรียญทองไปหนึ่งระดับ แต่ก็มีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งร้อยล้าน ในโลกแห่งความเป็นจริง!
และเหรียญแก่นเหรียญเขียว มีค่าเท่ากับยี่สิบแก่นเหรียญทอง!
ยิ่งไปกว่านั้นหนึ่งพันเหรียญแก่นเหรียญเขียว?
ดังนั้น……
โดยพื้นฐานแล้ว สกุลเงินที่หมุนเวียนในโลกยุทธจักร สกุลเงินที่หมุนเวียนในโลกปกติ มันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
กระทั่งอาจกล่าวได้ว่า เพราะทรัพยากรในโลกยุทธจักรค่อนข้างขาดแคลน
สกุลเงินที่หมุนเวียนในโลกกับสกุลเงินที่หมุนเวียนในโลกยุทธจักร ได้กลายเป็นช่องว่างที่ผ่านไปไม่ได้ระหว่างสองโลก
ก็เหมือนกับคนธรรมดาปกติอยากจะเข้าสู่สังคมแวดวงไฮโซ ลำพังแค่ค่าสมัครสมาชิกเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้คนธรรมดาไกลเกินเอื้อมไปแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ ยังจะพูดถึงการเข้าร่วมกับคนชั้นสูงได้อย่างไรอีก?
ขอบเขตระหว่างโลกแห่งยุทธจักรและโลกของคนธรรมดาทั่วไป อยู่ตรงนี้!
เมื่อเห็น เจี่ยนโล่จู๋กำลังจ้องมองถังว่านฉาวที่อยู่บนเวทีจุดจัดแสดง เขายิ่งคาดคิดไม่ถึงว่า ตาแก่คนนี้จะมีอู้ฟู่ขนาดนี้!
เจี่ยนโล่จู๋รู้ดี ถังว่านฉาวมีหนึ่งพันเหรียญแก่นเหรียญเขียวจริงๆ
แต่หากนำแก่นเหรียญเขียวออกมาหนึ่งพันเหรียญ ถ้าอย่างงั้นสำหรับถังว่านฉาวแล้ว มันแทบจะเหมือนกับการนำบ้านไปแลกของสิ่งนี้
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ถังว่านฉาวก็ยังคงเลือกที่จะทำแบบนั้น
นี่จึงหมายความว่า แก่นเหรียญม่วงมันล้ำค่ามากมายขนาดไหน ถึงทำให้ถังว่านฉาวยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งนี้มา!
ควรทำอย่างไรต่อไปดี?
เธอยังสามารถเอาแก่นเหรียญเขียวออกมาได้อีกจำนวนหนึ่ง แต่อย่างมาก ก็นำออกมาได้แค่สี่ร้อยเหรียญเท่านั้น!
ในขณะที่เจี่ยวโล่จู๋กำลังลำบากใจอยู่นั้น จู่ๆหัวเฉียนคุนก็เดินมาอยู่ข้างๆของเธอ แล้วกระซิบเตือนว่า“ที่ฉันยังมีหนึ่งร้อยเหรียญ อีกทั้งจากที่ฉันรู้มา ผู้อาวุโสคนอื่นๆ สามารถเอาออกมาได้อีกบางส่วน เรา……ลองลงขันกันไหม ดูสิว่าจะสามารถเอาออกมาได้หนึ่งพันเหรียญไหม?ถึงเวลานั้น แค่รอฉันทำความเข้าใจกับวรยุทธเกี่ยวกับแก่นเหรียญม่วงก็พอแล้ว เธอดูสิ ว่าจะจัดการอย่างไร ?”
เจี่ยนโล่จู๋ตาเป็นประกาย รู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดี
แต่ในขณะที่เจี่ยนโล่จู๋กำลังจะตอบตกลงนั้น เย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวท่ จู่ๆก็พูดกับถังว่านฉาวหนึ่งประโยค“หนึ่งพันแก่นเหรียญเขียว น้อยไปหน่อย อีกอย่างสิ่งที่ผมมีเยอะมากที่สุดก็คือแก่นเหรียญเขียว เจ้าสิ่งนั้นกับแก่นเหรียญแดง ในสายตาของผม มันไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงด้วยซ้ำ!”
ถังว่านฉาวถึงกับหน้ากระตุก
คนที่อยู่ด้านล่างเวที ล้วนพากันเบิกตากว้าง
ในสายตาของไอ้สารเลวนี่ แก่นเหรียญเขียว ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงงั้นหรอ?
เคยเห็นเศรษฐี แต่ไม่เคยเห็นคนที่รวยขนาดนี้มาก่อน
ถังว่านฉาวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหัวเราะเหอะๆ“ไม่เป็นไร!คุณเย่ เอาอย่างงี้ดีไหม นอกจากหนึ่งพันแก่นเหรียญเขียว ผมจะเป็นคนจัดการให้เอง ของที่นำมาประมูลในงานทั้งหมดจะเป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียว ผมแค่ต้องการแก่นเหรียญม่วงที่อยู่ในมือของคุณ!”
เย่อู๋เทียนทำท่าลังเล
และในเวลานี้เอง หัวเฉียนคุนที่อยู่ด้านล่างก็อดที่จะก่นด่าไม่ได้ “ถังว่านฉาว!ฉันเห็นแก่ที่แกมีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าสำนักหลังภูเขาเอ๋อเหมย ถึงได้เรียกแกว่าผู้อาวุโสถัง แต่แกต้องรู้ว่า แกเป็นแค่คนนอกของหลังภูเขาเอ๋อเหมยสำหรับพวกเรา เป็นแค่คนที่ทำงานให้!แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดแทนหลังภูเขาเอ๋อเหมยของฉันห้ะ?”
เสียงดุจสายฟ้าฟาด สะเทือนไปทั้งงาน
นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นว่าหัวเฉียนคุนฉุนเฉียว หลังจากที่พวกเขาเข้าร่วมการประมูล
ลำพังแค่ฟังเสียงของเขา ก็สามารถบอกได้แล้วว่า อิทธิพลของเขา สามารถกดข่มเหล่าผู้กล้าบางส่วนได้
ทว่า ถังว่านฉาวที่ยืนอยู่บนเวที เพียงแต่มองหัวเฉียนคุนแวบหนึ่ง หัวเฉียนคุนราวกับถูกสายฟ้าฟาด หลังจากนั้นถังว่านฉาวก็พูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉยว่า“ขืนแกยังกล้าพูดอีกคำเดียว ฉันจะกวาดล้างทุกคน แทนหลังภูเขาเอ๋อเหมย!”
หัวเฉียนคุนถึงกับเงียบไม่กล้าพูดต่อ
เจี่ยนโล่จู๋ขมวดคิ้วมองไปยังถังว่านฉาว แล้วพูดอย่างเย็นชา“ผู้อาวุโสถัง ในฐานะที่คุณเป็นคนนอกที่ทำงานให้กับหลังภูเขาเอ๋อเหมย ตอนนี้กลับกำลังแย่งของกับหลังภูเขาเอ๋อเหมย คุณไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม หรือคิดว่า ฉันไม่มีเส้นสายอยู่ในหลังภูเขาเอ๋อเหมย?”
เมื่อสิ้นเสียงของเจี่ยนโล่จู๋ เหล่าผู้กล้าของหลังภูเขาเอ๋อเหมย ก็ฮึกเหิมขึ้นทันที
ราวกับพอเจี่ยนโล่จู๋สั่งการ พวกเขาก็พร้อมจู่โจมถังว่านฉาวทันที !
เมื่อกลับมาดูเย่อู๋เทียนอีกครั้ง เขากวาดตามองดูคนอย่างสนุก ราวกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย
นั่งดูเสือต่อสู้ เป็นท่าทีของเย่อู๋เทียนในตอนนี้
ถังว่านฉาวเป็นปีศาจเฒ่า เขามองดูเย่อู๋เทียนแวบหนึ่ง ก็ดูออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงพูดกับคนที่อยู่ด้านล่างว่า“แก่นเหรียญม่วงยังเอามาไว้ในมือไม่ได้เลย พวกคุณคิดอยากเป็นศัตรูกับผมงั้นหรอ น่าขันจริงๆ!”
เจี่ยนโล่จู๋เดินไปยังจุดแสดงอย่างมั่นใจ แล้วกล่าวว่า“ผู้อาวุโสถัง วันนี้ ถ้าคุณได้รับแก่นเหรียญม่วงนั้นไป ถ้าอย่างงั้น ฉันหวังว่าคุณอย่าทำเป็นโง่ไปหน่อยเลย ไม่อย่างงั้น ฉันสามารถเป็นตัวแทนของหลังภูเขาเอ๋อเหมย ฆ่าคุณได้นะ!”
ถังว่านฉาวหัวเราะและส่ายหัวไปมา พลางกล่าวว่า “เด็กน้อย เธอน่ะยังเด็กยังเล็ก ฉันจะไม่ถือสาหาความเธอแล้วกัน”
พูดจบ ถังว่านฉาวก็มองไปยังเย่อู๋เทียน พลางเอ่ยถามว่า “หนึ่งพันสองร้อยแก่นเหรียญเขียว กับของประมูลที่อยู่ในงาน สหายพอจะมอบแก่นเหรียญม่วงให้ฉันได้ไหม?”
เย่อู๋เทียนครุ่นคิด แล้วพูดอย่างลำบากใจ “ก็ได้ งั้นก็ตามนี้แล้วกัน”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ถังว่านฉาวก็รู้สึกดีใจมาก เขารีบเรียกคนที่อยู่ด้านหลังเวที ให้คนนำแก่นเหรียญเขียวออกมา
หยางเฟยเอ๋อร์ได้ยินคำพูดของเย่อู๋เทียน ก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเธอรู้ดีว่า เพียงแค่เย่อู๋เทียนขายแก่นเหรียญม่วงออกไป นั่นก็หมายความว่าศึกนองเลือดก็จะเริ่มต้นขึ้น!
คนที่อยู่ในงานทุกคน ไม่มีทางปล่อยให้เย่อู๋เทียนก้าวออกจากที่นี่ไปได้อย่างแน่นอน
และในเวลานี้เอง คนที่อยู่ด้านหลังเวที ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมา
ด้านหน้ามีกล่องไม่เล็กไม่ใหญ่ใบหนึ่ง และด้านในกล่องใบนี้ ก็คือแก่นเหรียญเขียวนับพันเหรียญ อีกทั้งด้านบนของแก่นเหรียญเขียว ยังมีของคล้ายใบสั่งยาหลายใบ
เห็นได้ชัดว่า หนึ่งใบใบสั่งยานั้น ก็คือใบสั่งยาของยาชำระล้าง
คนที่อยู่ด้านล่างเวที ต่างพากันเงียบกริบ!
ทุกคนอิจฉาตาร้อนกันขึ้นมาทันที!
แก่นเหรียญม่วง……
แก่นเหรียญม่วง……
กำลังจพตกไปอยู่ในมือของตาเฒ่าถังว่านฉาว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเย่อู๋เทียนหันกลับไปมองผู้หญิงที่ถือกล่องที่มีแก่นเหรียญเขียวอยู่ในนั้น เขาก็เปลี่ยนใจทันที
เพราะผู้หญิงคนนี้ แท้จริงแล้วผู้หญิงคนนี้คือโล่หวางที่ถูกเย่อู๋เทียนส่งไปยังหลังเขาเอ๋อเหมยเพื่อสอดแนม!
ไม่ได้มีท่าทางเหมือนนายพลหญิงอันดับหนึ่งของประเทศหลง แต่กลับดูเหมือนสาวใช้คนหนึ่ง เธอวางตัวลดลงมาจากแต่ก่อนมาก
เย่อู๋เทียนคิ้วขมวดด้วยความสงสัย
โล่หวาง……
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ในเวลานี้เอง เจี่ยนโล่จู๋ที่อยู่ด้านล่างเวที มองโล่หวางตาไม่กะพริบ แล้วถามอย่างเยือกเย็นว่า“โล่หวาง ทำไมถึงกล้าไปเป็นศิษย์ของถังว่านฉาว!”
เมื่อโล่หวางได้ยินนี้ ก็ตกใจเล็กน้อย แต่กลับมองดูเจี่ยนโล่จู๋ที่อยู่ข้างล่างแวบหนึ่ง แล้วก็ไม่มีสีหน้าท่าทางอย่างอื่นอีก
ใช้คำพูดสุดใจของโล่หวาง
ไปสอดแนมหลังภูเขาเอ๋อเหมยเพื่อผู้ชายที่ตัวเองรักที่สุด โดยเฉพาะการสอดแนมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลถังแห่งตี้ตูกับหลังภูเขาเอ๋อเหมย ฉันควรทำอย่างไรถ้าไม่ไปขอกราบเป็นศิษย์บรรพาจารย์อาวุโสถังว่านฉาว?
ถังว่านฉาวมองดูเจี่ยนโล่จู๋แวบหนึ่ง แล้วหัวเราะ“เจี่ยวโส่วจั่ว อย่าพึ่งใจร้อน โล่หวางคนนี้ ตอนนี้เป็นแค่ทาสคนหนึ่งของผมเอง จากที่ผมรู้มา เธอกับคุณเหมือนจะมีความแค้นกันส่วนตัวนะ วางใจเถอะ หลังจากที่ผมกับคุณเย่เจรจากันเสร็จ ผมจะช่วยคุณฆ่าเธอเอง!”
สิ้นเสียง โล่หวางก็งงเป็นไก่ตาแตกทันที
เจี่ยนโล่จู๋ที่อยู่ด้านล่างเอง ก็ตกตะลึงเช่นกัน หลังจากนั้นก็พูดกับถังว่านฉาวว่า“นี่คือเรื่องภายในครอบครัวของฉัน ไม่ต้องให้ผู้อาวุโสถังแทรกแซงหรอก!”
เย่อู๋เทียนที่อยู่ด้านล่าง สีหน้าเคร่งขรึมลงเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น ภายใต้สายตาของสาธารณชน เย่อู๋เทียนจู่ๆก็ไปโผล่ข้างๆประชิดตัวถังว่านฉาว โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกมือขึ้นตบหน้าเขาทันที
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
ตบหน้าเขาติดต่อกันสามครั้ง จนทำให้ถังว่านฉาวล้มตัวกระแทกกับพื้น จนใบหน้าแก่เฒ่าของถังว่านฉาวบวมแดงเป็นหัวหมู
นี่ยังไม่จบ ในวินาทีที่ถังว่านฉาวล้มลงพื้น
เย่อู๋เทียนก็กระทืบหัวของถังว่านฉาวลงกับพื้นอย่างจัง ศีรษะขนาดใหญ่ ถูกเหยียบกระแทกกับพื้นแข็งๆของเวที
ทั่วทั้งงาน ต่างพากันเงียบกริบ!