จอมนักรบอหังการ - บทที่ 182 ฉันเย่อู๋เทียนจะล้างแค้น คงพูดด้วยเหตุผลยาก เทพยดาต้านยาก
- Home
- จอมนักรบอหังการ
- บทที่ 182 ฉันเย่อู๋เทียนจะล้างแค้น คงพูดด้วยเหตุผลยาก เทพยดาต้านยาก
จอมนักรบอหังการ บทที่ 182 ฉันเย่อู๋เทียนจะล้างแค้น คงพูดด้วยเหตุผลยาก เทพยดาต้านยาก!
หานเฟิงอี้เหมือนโดนฟ้าผ่า!
คิดไม่ถึงว่าบทสนทนาของตัวเองกับถังเลี่ยนก่อนหน้านี้บนเวทีแสดงสินค้า เย่อู๋เทียนจะได้ยิน!
อย่างที่เขาพูด ตระกูลหานแห่งตี้ตู มีความลับอยู่ความลับหนึ่งจริงๆ
ความลับนี้ เกี่ยวข้องกับบความสัมพันธ์ของตระกูลหานแห่งตี้ตู กับอำนาจลึกลับอำนาจหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ หลังจากเย่อู๋เทียนปลอมตัว หานเฟิงอี้เข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่มาจากอำนาจลึกลับคนนั้น
เพราะความเข้าใจของหานเฟิงอี้
ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังการต่อสู้ที่ทำให้คนถึงกับหยุดหายใจ ต้องเกี่ยวข้องกับอำนาจลึกลับแน่นอน
แต่ดูเหมือนตอนนี้……
การที่เย่อู๋เทียนแข็งแกร่งขนาดนี้ เป็นเพราะพลังบนแก่นเหรียญม่วง!
เอาเป็นว่าภายใต้เงื่อนไขนี้ ถึงตอนนี้หานเฟิงอี้เอาอำนาจลึกลับคนนั้นที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหานมา จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหานแห่งตี้ตู กับอำนาจลึกลับคนนั้น ไม่ได้พูดให้ชัดเจนได้ด้วยคำพูดแบบรวบรัด
ถ้าต่อมาเย่อู๋เทียนต้องการรู้เกี่ยวกับอำนาจลึกลับนั้น……
งั้น…..
หานเฟิงอี้คงต้องหาที่มุดดินลงไปจริงๆ
เพราะเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับคนลึกลับคนนั้น โดนสักลงบนตัวหานเฟิงอี้ตั้งแต่หลายปีที่แล้ว
อย่าบอกนะว่าต้องถอดเสื้อผ้าให้เย่อู๋เทียนดู
ถ้าเย่อู๋เทียนไม่กลับมามีหน้าตาเหมือนเดิม หานเฟิงอี้ก็ไม่รู้ว่าเขาคือเย่อู๋เทียน ถึงจะหน้าไม่อาย แต่เธอก็เตรียมเอาร่างกายให้เสือกินแล้วเรียบร้อย เป้าหมายคือให้ถังเลี่ยนฝากตัวเป็นศิษย์ของอีกฝ่าย!
ตอนนี้ล่ะ
เขาคือเย่อู๋เทียน!
แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันทางสายเลือด แต่ยังไงเขาก็นับว่าเป็นรุ่นน้องของตัวเอง!
ตัวเองจะหน้าไม่อายถึงขั้นนั้นได้ยังไง
ทันใดนั้น……
หานเฟิงอี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
เย่อู๋เทียนเห็นหานเฟิงอี้ลำบากใจขนาดนี้ จึงพูดอย่างราบเรียบว่า “ดูเหมือนคนลึกลับที่เธอดูแลอยู่ จะสำคัญกว่าชีวิตของลูกชายเธอสินะ”
คำพูดนี้ดังเข้ามาในหูหานเฟิงอี้ เธอเปลี่ยนความคิดทันที
หานเฟิงอี้คิดว่า
ถ้าตัวเองไม่เอาคนลึกลับคนนั้นมาอยู่ต่อหน้าเย่อู๋เทียน เขาอาจฆ่าถังเลี่ยนต่อหน้าทุกคนได้!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หานเฟิงอี้พูดอย่างหวาดกลัวว่า “อย่านะ! อย่าทำร้ายถังเลี่ยน!”
เย่อู๋เทียนยังไม่ได้พูดอะไร
หานเฟิงอี้กัดฟันจนหน้าแดง ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น พูดเสียงสั่นว่า “คุยกันที่นี่ไม่สะดวก นาย……นายฉันมาหลังเวทีหน่อย!”
เย่อู๋เทียนพูดว่า “พูดที่นี่สะดวกมาก พูดออกมาเลย ไม่เป็นไร!”
หน้าหานเฟิงอี้แดงจนจะบิดออกมาเป็นเลือดได้
ขณะนั้นสายตาของทุกคนมองมายังหานเฟิงอี้
คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก……
“ตระกูลเล็กๆ” อย่างตระกูลหานแห่งตี้ตู จะมีความลับอะไรให้พูดถึงได้
หานเฟิงอี้จ้องเย่อู๋เทียนเขม็ง
เกลียด!
เกลียดสุดขีด!
ขณะเดียวกันก็วุ่นวายไปหมด
ไม่รู้จะทำยังไงดี
อย่าบอกนะว่าต้องบอกไอ้เลวเย่อู๋เทียน ว่าความลับอยู่บนตัวฉันต่อหน้าทุกคน นายมาสิ นายมาดูสิ……
ไม่จำเป็น!
หานเฟิงอี้สูดหายใจลึก ลงจากเวทีเดินไปหาเย่อู๋เทียน ท่ามกลางสายตาของทุกคน
หานเฟิงอี้มาด้านหลังเย่อู๋เทียน แล้วพูดเบาๆ ว่า “นายปล่อยถังเลี่ยนก่อน แล้วตามฉันไปหลังเวที ฉันขอร้องล่ะ!”
เสียงของเธอเต็มไปด้วยการอ้อนวอนและจนปัญญา
หานเฟิงอี้ตระกูลหานแห่งตี้ตู เคยนอบน้อมแบบนี้กับคนที่ไหนกันล่ะ
เธอเป็นแม่ของถังเลี่ยนนะ!
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงเป็นสายตาคนนอก เธอก็เป็นผู้หญิงของถังเจิ้งเฟิง ผู้บัญชาปกครองชายแดนของประเทศหลง!
ตอนนี้กลับมีสภาพน่าเวทนา เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่อู๋เทียน!
โดยเฉพาะถังจิ่วเชียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากถังเลี่ยน!
แม้เขามองถังเลี่ยนเป็นเจ้านายของตัวเองมาตลอด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมองหานเฟิงอี้เป็นเจ้านายของตัวเองเหมือนกัน!
หลายปีมานี้ หานเฟิงอี้มองเขาเป็นทาสมาตลอด ทำให้เขาไม่พอใจมานานแล้ว!
ตอนนี้เห็นหานเฟิงอี้ดูต้อยต่ำต่อหน้าเย่อู๋เทียนขนาดนี้ ในใจถังจิ่วเชียนอดรู้สึกดีใจอย่างประหลาดขึ้นมาไม่ได้
ตอนนี้เย่อู๋เทียนดึงเท้ากลับมาแล้ว
ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่หานเฟิงอี้กำลังขอร้องเขา แต่เพราะจู่ๆ เขารู้สึกว่า……
ถังเลี่ยนไม่คู่ควรให้เขาเหยียบอยู่ใต้เท้าแล้ว คนที่เห็นแม่ตัวเองโดนกลั่นแกล้ง แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ ไม่มีค่าให้เขากลั่นแกล้งอีก
หานเฟิงอี้เห็นเย่อู๋เทียนดึงเท้ากลับไป ก็มองไปที่ถังเลี่ยนทันที แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหมือนใจสลาย
หานเฟิงอี้จะไม่รู้ข้อคิดโบราณที่ว่า ลูกกตัญญูมาจากพ่อแม่เข้มงวด ลูกล้มเหลวมาจากพ่อแม่ใจดีเกินไปเหรอ
แต่เป็นลูกชายแท้ๆ……
เธอจะทำอะไรได้อีก
สิ่งสำคัญที่สุด แม้กระทั่งถึงตอนนี้แล้ว เธอก็ยังเข้าใจว่า!
บนโลกนี้……
ไม่มีใครเทียบเธอกับลูกชายได้!
ลูกชายเธอคืออัจฉริยะที่หาได้แค่ไม่กี่คนในหมื่นคน มีจำนวนน้อย มีโอกาสแค่ครั้งเดียว!
ขอแค่ลูกชายเธอสามารถเข้าหลังภูเขาเอ๋อเหมยได้อย่างราบรื่น ต้องก้าวหน้าอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน!
เมื่อถึงตอนนั้น ถึงเป็นเย่อู๋เทียน ก็ต้องโดนลูกชายเธอเหยียบไว้ใต้เท้า!
เธอรู้จักสถานที่น่าหวาดผวาหลังภูเขาเอ๋อเหมยดีกว่าใคร!
ตอนนี้เจี่ยนโล่จู๋ยืนอยู่บนเวที อีกทั้งผู้อาวุโสหลังภูเขาเอ๋อเหมยอีกมากมายหลายท่านในที่นี้!
อันที่จริงไม่สามารถแทนกำลังของหลังภูเขาเอ๋อเหมยได้เลย!
สาเหตุที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง……
หลังภูเขาเอ๋อเหมย กับอำนาจลึกลับที่เธอรู้จักคนนั้น มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแนบแน่น!
หานเฟิงอี้ตั้งสติ จ้องเย่อู๋เทียนอยู่อย่างนั้น แล้วพูดว่า “ไปหลังเวทีกันเถอะ ฉันจะทำให้นายพอใจ!”
เย่อู๋เทียนอึ้งเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ทำไมคำพูดของเธอ เหมือนโสเภณีให้คำสัญญากับชายที่มาซื้อบริการเลยล่ะ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นนะ!”
คำพูดนี้มีแรงโจมตีไม่มาก แต่การเหยียดหยามถึงขั้นสุด!
หานเฟิงอี้สีหน้าอึมครึม
มองถังเลี่ยนที่อยู่บนพื้นอีกครั้ง ก็ยังคงไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง
หานเฟิงอี้กัดฟันพูดว่า “เย่อู๋เทียน นายจะบีบฉันให้ตายเลยใช่ไหม”
เย่อู๋เทียนพูดว่า “เธอทำกับฉันยังไง ฉันก็ทำกับเธออย่างนั้น ตอนนั้นเธอพูดฉีกหน้าแม่ฉัน ต่อหน้าคนตระกูลหาน ได้เหลือที่ยืนให้เราบ้างหรือเปล่า อีกทั้งตอนนั้นฉันพูดไปแล้ว ตอนนั้นเธอทำให้แม่ฉันอับอายยังไง คนอย่างเย่อู๋เทียน จะคืนให้เธอเป็นร้อยเท่าพันเท่า!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่อู๋เทียนหัวเราะเย็นชา แล้วพูดเสริมอีกประโยค “อย่าคิดว่าเธอเป็นผู้หญิง แล้วฉันจะเกิดความเมตตา น่าเสียดายมาก คนอย่างเย่อู๋เทียนจะล้างแค้น ยากที่จะพูดกันด้วยเหตุผล เทพยดายากที่จะขวาง!”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนพากันเงียบกริบ
ไม่ว่าใครในที่นี้พูดแบบนี้ออกมา ทุกคนคงรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำเริบเสิบสาร
แต่คำนี้ออกมาจากปากเย่อู๋เทียน
ทุกคนในที่นี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในนรกอันเยือกเย็น!
โดยเฉพาะโล่หวางที่อยู่บนเวที จู่ๆ ก็คิดถึงเย่อู๋เทียนที่อยู่ในกรมทหารตอนนั้น ท่าทางการพูดอบรมสั่งสอนคนอื่น
“เป็นทหารของฉันเย่อู๋เทียน มีเพียงเงื่อนไขเดียวเท่านั้น ก็คือต้องมีความกล้าหาญที่ต่อต้านกับทุกคน อันดับแรกพวกนายต้องมีกำลังและร่างกายที่แข็งแกร่ง เข้าใจไหม?!”
ตอนนี้หานเฟิงอี้สิ้นหวังแล้ว
วางแผนตามสถานการณ์ตรงหน้า!
จะทำอะไรได้อีก
หานเฟิงอี้รวบรวมความกล้าทั้งหมด พูดน้ำตาคลอว่า “ความลับของตระกูลหานแห่งตี้ตู เกี่ยวข้องกับยันต์มังกรแผ่นหนึ่ง ยันต์มังกรแผ่นนั้น โดนคนสักไว้บนตัวฉัน!”