จอมนักรบอหังการ - บทที่ 199 เทียนหลงเอ๋อร์แห่งตระกูลเทียนพันธมิตรมังกร
จอมนักรบอหังการ บทที่ 199 เทียนหลงเอ๋อร์แห่งตระกูลเทียนพันธมิตรมังกร!
คนที่นั่งรถคันเดียวกับเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิง แน่นอนว่ายังมีหยูฉิงกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ย
ตอนนี้หยูฉิงกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง
และรถคันที่เย่อู๋เทียนขับอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่รถสปอร์ตรุ่นราคาถูกสุดแล้ว แต่เป็นรถของโล่หวาง
เป็นรถฮัมเมอร์ระดับไฮคลาส
รถสปอร์ตที่เย่อู๋เทียนขับออกมาจากตระกูลฉาว ถูกโล่หวางขับพาจ้าวโย่วหลิงไปหน่วยสืบราชการลับเจียงหนาน
ด้านในรถฮัมเมอร์ ค่อนข้างกว้างขวาง
แต่บรรยากาศตอนนี้ รู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าตอนที่ทั้งสี่คนเบียดกันอยู่ในรถสปอร์ตคันนั้น!
เหตุผลแท้จริง แน่นอนว่าต้องเป็นโทรศัพท์สายที่เย่อู๋เทียนรับสายเมื่อครู่
ผู้หญิงที่โทรมาเป็นใครกันแน่
ทำไมถึงเรียกเย่อู๋เทียนว่า……
ที่รัก
ที่สำคัญคือ
จากการพูดของผู้หญิงที่โทรมา เย่อู๋เทียนเคยแช่อ่างน้ำกับเธองั้นเหรอ
อีกทั้งยังเป็น……
อ่างยาที่แช่ด้วยกันสองคนด้วย
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
ตอนนี้เย่อู๋เทียนวางสายไปแล้ว
ตลก!
ถ้าไม่วางสายตอนนี้ จะให้โอกาสผู้หญิงที่โทรมาได้พูดอีกเหรอ
ไม่มีทาง
เย่อู๋เทียนไม่ได้โง่ขนาดนั้น!
ส่วนผู้หญิงคนที่โทรมา
แน่นอนว่าเย่อู๋เทียนรู้จัก
แปดปีก่อน เย่อู๋เทียนไปปฏิบัติหน้าที่ที่ต่างประเทศ ตอนกลับมาผ่านเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ทั้งสองคนรู้จักกันบนเกาะเล็กๆ แห่งนั้น
อีกฝ่ายชื่อเทียนหลงเอ๋อร์ การที่เธออยู่บนเกาะเล็กๆ ในตอนนั้น ก็เพราะเธอเก็บตัวศึกษาสูตรการกลั่นยาสูตรหนึ่ง
เพราะบนเกาะเล็กๆ แห่งนั้น มีสมุนไพรระดับล้ำค่าและหายากเติบโตอยู่ทุกที่!
การที่เทียนหลงเอ๋อร์ศึกษาสูตรการกลั่นยาบนเกาะเล็กๆ แห่งนั้น เพราะเทียนหลงเอ๋อร์เป็นคนที่ชีพจรหยุดเต้น ซึ่งพบได้ยากมาก!
ตอนนั้นเย่อู๋เทียนรักษาโรคชีพจรหยุดเต้นของเธอจนหายด้วยความราบรื่น
แต่ระหว่างการรักษา……
เกี่ยวข้องกับอ่างยา
พูดง่ายๆ คือจะรักษาโรคชีพจรหยุดเต้นของเทียนหลงเอ๋อร์ให้หาย ต้องใช้อ่างยา……
อีกทั้งเย่อู๋เทียนต้องอยู่ในนั้นด้วย!
ใช้ปราณหยางบริสุทธิ์ของตัวเอง เป็นตัวนำยาให้เทียนหลงเอ๋อร์!
แน่นอนว่า…….
ไม่มีอะไรสองแง่สองง่ามเลย เป็นแค่การรักษาเพื่อช่วยคนเท่านั้น
อีกทั้งตอนทั้งสองคนแช่อ่างยาในตอนนั้น……
เย่อู๋เทียนก็ใส่เสื้อผ้าอยู่
ส่วนเทียนหลงเอ๋อร์……
ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
หลังจากเสร็จเรียบร้อย เทียนหลงเอ๋อร์ก็เห็นเย่อู๋เทียนเป็นผู้ชายของเธอ
จากการพูดของเทียนหลงเอ๋อร์ เธอเป็นทายาทของตระกูลเทียน ผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่พันธมิตรมังกร
เย่อู๋เทียนได้เป็นผู้ชายของเธอ เป็นเกียรติอย่างสูงสุด!
แต่สำหรับเรื่องนี้……
เย่อู๋เทียนไม่ได้สนใจ
ต่อมาเพราะงานที่กรมทหารยุ่งมาก เย่อู๋เทียนจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้
ไม่คาดคิดว่า……
แปดปีต่อมาในวันนี้ คิดไม่ถึงว่าเทียนหลงเอ๋อร์จะโทรหาเย่อู๋เทียน!
ขณะที่เย่อู๋เทียนกำลังย้อนนึกถึงเรื่องในอดีต ในที่สุดเสิ่นรั่วชิงที่นั่งข้างคนขับ ก็อดถามออกมาไม่ได้
“อีกฝ่ายเป็นใคร”
เย่อู๋เทียนครุ่นคิด แล้วตอบว่า
“ไม่สนิท”
เสิ่นรั่วชิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง อ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่นั่งอยู่เบาะหลังพูดแซะเย่อู๋เทียนหนึ่งประโยค
“ไม่สนิทเหรอ ฉันว่าพวกนายสนิทกันมากนะ นายไม่สนิทกับเธอ เธอจะเรียกนายว่าที่รักเหรอ อีกทั้งยังเคยแช่อ่างด้วยกันอีก นี่เรียกไม่สนิทเหรอ โอ้ๆๆๆ เย่อู๋เทียน นายนี่ผ่านอะไรมาโชกโชนสินะ!”
เย่อู๋เทียนมองอ้ายเสี่ยวเตี๋ยผ่านกระจกมองหลังแวบหนึ่ง
“อย่าพูดไร้สาระ ไม่ใช่เรื่องของเธอ!”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเบะปาก
“ทำไมถึงไม่ใช่เรื่องของฉัน ตอนนี้ถือว่าฉันเป็นญาติฝ่ายเสิ่นรั่วชิงแล้ว อ้อ ตอนนี้เธอโทรหานายด้วย มาหาถึงที่แล้ว จะไม่ใช่เรื่องฉันได้ยังไง”
“เนี่ย ใช่สิ นายรีบวางสายขนาดนั้นทำไมเหรอ ดูก็รู้ว่าทำผิดแล้วร้อนตัว!”
“แฟนเก่าสินะ เข้าใจแหละ เหงาก็เลยคิดถึงนาย แปดปีต่อมาในวันนี้ คงอยากกลับมาดีกันเหมือนเก่า อาบน้ำด้วยกัน ชิชิ แฟนเก่าคนนี้ช่างดีสุดยอดไปเลย!”
เมื่อพูดจบ หยูฉิงที่นั่งข้างเธอเหงื่อไหลทั้งตัว
เย่อู๋เทียนเป็นใคร
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยไม่รู้เหรอ
เธอไม่กลัวเย่อู๋เทียนอับอายจนโกรธ แล้วตบเธอตายด้วยฝ่ามือเดียวเหรอ
เมื่อคิดเช่นนี้ หยูฉิงรีบดึงชายเสื้ออ้ายเสี่ยวเตี๋ย แล้วพูดอย่างอกสั่นขวัญแขวนว่า “เสี่ยวเตี๋ย นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของคุณเย่กับรั่วชิง เธออย่าเข้าไปก้าวก่ายดีกว่า!”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดว่า “ยัยนี่ นี่เรียกว่าสร้างความผาสุก! อีกอย่างความสัมพันธ์ของฉันกับเสิ่นรั่วชิงคือยังไง คนที่เคยนอนคลุมโปงด้วยกัน ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงของฉันไปครึ่งหนึ่งแล้ว ตอนนี้เราสองคนแม้ไม่ใช่ญาติ แต่ก็เหมือนญาติกันแล้ว แบบว่าพี่น้องคนละพ่อคนละแม่ อ้อ มีคนคิดแย่งผู้ชายของเธอ จะให้ฉันนิ่งดูดายไม่ทำอะไรเหรอ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยตบไหล่เสิ่นรั่วชิง แล้วถามว่า “ที่รัก เธอบอกมาว่าฉันควรยุ่งเรื่องนี้ไหม ถ้ามีหญิงร่านมาแย่งผู้ชายของเธอจริงๆ ฉันก็ควรอยู่แนวหน้าไม่ใช่เหรอ”
เสิ่นรั่วชิงเล่นมือถือของเย่อู๋เทียน ไม่ได้ตอบอ้ายเสี่ยวเตี๋ยทันที แต่มองเย่อู๋เทียนแล้วเรียกว่า “ที่รัก……”
ไม่รอให้เสิ่นรั่วชิงพูดจบ
เย่อู๋เทียนพูดตัดบทว่า “เปลี่ยนสรรพนามเรียกเลย ตอนนี้ได้ยินคำว่าที่รักแล้วปวดหัว”
เสิ่นรั่วชิงยิ้มงดงามเหมือนดอกไม้ แล้วพูดว่า “ที่รัก นายคิดว่าจากความสัมพันธ์ของเรา ฉันตรวจดูมือถือนายสักหน่อย ไม่ถือว่าทำเกินไปใช่ไหม แต่ตรวจดูมือถือนายต่อหน้าเพื่อนสนิทของฉัน ทำให้นายอายหรือเปล่า”
เย่อู๋เทียนพูดอย่างราบเรียบว่า “คนเป็นของคุณแล้ว ตรวจดูมือถือได้เลย ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว! อีกอย่าง เพื่อนสนิทของคุณก็เหมือนครอบครัวผม คนครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรต้องปิดบัง”
เสิ่นรั่วชิงมีรอยยิ้มมากขึ้น เอามือถือวางบนคอนโซลรถ แล้วพูดว่า “ท่าทีนี้ให้คะแนนเต็ม!”
เย่อู๋เทียนยืนมือมาลูบขาที่สวมถุงน่องบางของเสิ่นรั่วชิง แล้วพูดว่า “ใช่ไหม ระหว่างสามีภรรยา สิ่งสำคัญที่สุดคืออะไร ก็คือการเชื่อใจไม่ใช่เหรอ!”
เสิ่นรั่วชิงมองบนใส่เย่อู๋เทียนด้วยอารมณ์รักใคร่ แต่ไม่ได้ดันมือเย่อู๋เทียนออก
ของของตัวเอง
จะลูบยังไงก็ลูบไปเถอะ
ขณะนั้น จู่ๆ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเอามือถือของเย่อู๋เทียนไป แล้วพูดว่า “ในเมื่อนายบอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว งั้นฉันจะเป็นคนเลว ช่วยเสิ่นรั่วชิงสุดที่รักของฉัน ถามผู้หญิงที่เพิ่งโทรมาเมื่อกี้ว่ารู้ไหมว่านายทำผิดหรือเปล่า”
“……”
“……”
“……”
เย่อู๋เทียน เสิ่นรั่วชิง และหยูฉิง หมดคำจะพูดอยู่ครู่หนึ่ง
เสิ่นรั่วชิงกำลังจะหันไปพูดกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยว่าอย่าก่อกวน รีบเอามือถือให้ฉัน แต่คิดไม่ถึงว่าเธอยังไม่ทันพูด เสียงมือถือของเย่อู๋เทียนดังขึ้นอีกครั้ง ก็ยังเป็นเทียนหลงเอ๋อร์ที่โทรมา
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ยัยนี่ดื้อมากนะ ดูเหมือนว่าคงคิดถึงผู้ชายจริงๆ!”
เสิ่นรั่วชิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “วางไปเลย น่ารำคาญจริงๆ!”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็ยังหัวเราะคิกคัก จากนั้นพูดว่า “เล่นหน่อยเหอะ ยังไงก็เบื่ออยู่พอดี อ้อ เหล่าเย่ ฉันไม่ได้ไม่เชื่อนายนะ แต่ฉันไม่เชื่อผู้หญิงที่โทรหานาย! ผู้หญิงเป็นเสือ นายรู้หรือเปล่า นี่ฉันหวังดีกับนายนะ! อีกอย่างถึงนายคิดจะเด็ดดอกไม้ริมทาง นายก็ควรเด็ดดอกไม้อย่างฉันกับหยูฉิง เพราะมีคนสวยที่สมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว ทำไมต้องให้เงินทองรั่วไหลออกไปข้างนอกล่ะ!”
เย่อู๋เทียนพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “อ้ายเสี่ยวเตี๋ย เธอจะเกินไปแล้ว!”
เสิ่นรั่วชิงก็หันไปมองอ้ายเสี่ยวเตี๋ย แล้วพูดว่า “เธอรอก่อนเหอะ เดี๋ยวกลับเมืองเจียงไห่ คอยดูเลยว่าฉันจะจัดการเธอยังไง! หน้าไม่อายจริงๆ! ไม่มีความละอาย! กล้าพูดซะทุกอย่าง!”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยขบริมฝีปาก ขยิบตาให้เสิ่นรั่วชิง พูดอย่างออดอ้อนว่า “จัดการสิ จะจัดการยังไงก็จัดการเลย ฉันรอไม่ไหวแล้ว!”
หยูฉิงที่อยู่ข้างๆ ใบหน้ากระตุก คิดไม่ถึงว่าอ้ายเสี่ยวเตี๋ยจะทำตัวไม่เหมาะสมขนาดนี้
ตอนนี้เสียงมือถือของเย่อู๋เทียนก็ยังดังอยู่ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยยังไม่รับสาย รอจนเสียงมือถือเงียบไป จึงกลอกตาไปมา แล้วส่งข้อความไปหาเทียนหลงเอ๋อร์ด้วยเจตนาที่ไม่ดี
เนื้อหาธรรมดามาก
“ไม่ได้เจอกันแปดปี เธอสบายดีไหม”
หยูฉิงที่อยู่ข้างๆ เห็นอ้ายเสี่ยวเตี๋ยทำตัวแบบนี้ จึงถามด้วยใบหน้าสงสัยว่า “เธอจะทำอะไร”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ผู้หญิงที่มีโอกาสอาบน้ำกับคุณเย่ของเรา ต้องมีที่มาไม่ธรรมดาแน่นอน ฉันขอเป็นแนวหน้าก่อน! ดูสิว่าเธอเป็นนังจิ้งจอกที่มาจากไหน! รู้เขารู้เราไง รั่วชิงของเราจะได้รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง!”
หยูฉิงกำลังจะพูดอะไรออกมา เสียงมือถือดังขึ้นอีกครั้ง
เป็นข้อความที่เทียนหลงเอ๋อร์ตอบกลับมา
หลังจากอ้ายเสี่ยวเตี๋ยเห็นข้อความ จู่ๆ เธอถึงกับตกใจจนตาค้าง ถึงขั้นที่หลุดด่าออกมาว่า “บัดซบ! นี่มันอะไรกัน”
เย่อู๋เทียนกับเสิ่นรั่วชิงมองอ้ายเสี่ยวเตี๋ยพร้อมกัน
ไม่เพียงแค่อ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่ตกใจจนตาค้าง หยูฉิงที่อยู่ข้างเธอก็เบิกตาโตทั้งสองข้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ!
เย่อู๋เทียนถามว่า “ทำไมเหรอ”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยจับมือถือด้วยมือข้างหนึ่ง จากนั้นอ่านข้อความที่เทียนหลงเอ๋อร์ส่งมา
“นังผู้หญิงสมควรตายนี่ชื่ออะไร กล้าบอกฉันไหม เมื่อกี้กล้าด่าฉันว่านังร่าน! เธอตายแน่! เธอตายทั้งครอบครัวแน่!”
หลังอ่านข้อความนี้จบ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยกรี๊ดออกมาอย่างตกใจ
“กรี๊ด!”
“เจอผีใช่ไหม เจอผีหรือเปล่าเนี่ย เธอรู้สิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้ได้ยังไง”
เพิ่งพูดจบ มีข้อความส่งมาอีกครั้ง
“เธอสิเป็นผี เป็นผีทั้งตระกูล ไม่สิ เธอกับตระกูลเธอยังไม่ใช่ผี ภายในสองวัน พวกเธอถึงจะเป็นผีได้!”
ดูข้อความบนมือถือ
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
โยนมือถือของเย่อู๋เทียนออกไป เหมือนโยนเผือกร้อนๆ ทิ้ง
เย่อู๋เทียนยกมือขึ้นมารับไว้ ดูข้อความบนมือถือแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเบาๆ แล้วพูดใส่มือถือว่า “เธอกล้าดักฟังมือถือฉันเหรอ!”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา จู่ๆ มีเสียงเทียนหลงเอ๋อร์ดังออกมาจากมือถือ “จัดการผู้หญิงที่ไร้มารยาทใส่ฉันเมื่อกี้ ไม่งั้นฉันจะทำให้มือถือนายเป็นระเบิด!”
เสิ่นรั่วชิง อ้ายเสี่ยวเตี๋ย และหยูฉิง เริ่มมีใบหน้าเหลือเชื่อ
ขณะนั้น จู่ๆ เย่อู๋เทียนเปิดหน้าต่างรถ แล้วโยนมือถือตัวเองออกไป
มือถือหล่นลงบนถนนด้านนอก
ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ มือถือระเบิด ควันหนาลอยขึ้นมาเป็นกลุ่มก้อน
ตอนนี้เย่อู๋เทียนหยุดรถลงแล้ว มองมือถือที่ระเบิดอยู่ไม่ไกล ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาฉายแววความโกรธ
ทันใดนั้น เย่อู๋เทียนหันไปมองอ้ายเสี่ยวเตี๋ย แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “รู้หรือยังว่าอะไรคือปลาหมอตายเพราะปาก”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยตกใจจนงงไปหมด
เสิ่นรั่วชิงกับหยูฉิงก็งงเหมือนกัน
ผู้หญิงที่โทรหาเย่อู๋เทียน เป็นใครมาจากไหนกันแน่
เธอ……
ทำให้มือถือระเบิดอย่างกะทันหันจากระยะไกลได้ยังไง
ในเวลาเดียวกัน
ในวิลล่าแห่งหนึ่ง แถวทะเลสาบชุนชิวเมืองเจียงหนาน ผู้หญิงหน้าเด็กในชุดกี่เพ้า สวมแว่นไร้กรอบคนหนึ่ง จ้องคอมพิวเตอร์ด้านหน้า แล้วหัวเราะเสียงดังออกมาทันที!
“กล้าด่าฉัน! ไม่รู้ที่เป็นที่ตายจริงๆ!”