จอมนักรบอหังการ - บทที่ 296 ทำชั่วเลวทรามมา อยากตาย ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 296 ทำชั่วเลวทรามมา อยากตาย? ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!2
เย่เฉินหวาดกลัวถึงขีดสุด
ลมปราณแล่นไปทั่วร่าง!
ตัดเส้นชีพจรเอง!
เลือดไหลออกจากเจ็ดทวารของเขา
เย่เฉินมองเย่ซีด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว สุดท้ายเหลือไว้หนึ่งคำ “ล้างแค้นให้พี่ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม!”
เย่ซีปรากฏตัวข้างกายเย่เฉิน ประหวั่นพรั่นพรึงและทำอะไรไม่ถูกจนถึงขีดสุด
แต่พอคำพูดสุดท้ายของเย่เฉินจบลง ดวงตาเย่เฉินหม่นหมองลงฉับพลัน!
เย่เฉินขาดใจตาย!
เย่อู๋เทียนไม่เพียงไม่สงสารเลย ยังแค่นเสียงหยัน
“เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา ฆ่าคนอื่นได้ พอตนเองเจอคนจริง ก็ทำได้แค่ทำลายตันเถียนของตนเอง ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตคุณจริงๆสักหน่อย แต่กลับตายเพราะตัดเส้นชีพจรเอง เห็นได้ชัดว่า น่าเศร้าใจอย่างนี้เอง!”
“น่าขันนัก!”
เย่ซีได้ยินคำนี้ สองตาแดงก่ำทันที เธอหันกลับไปเย่อู๋เทียนฉับพลัน
เสียงนั้นราวกับมาจากนรก
“เย่อู๋เทียน! ฉันจะฆ่าแก!”
พอพูดจบ เย่ซีหายตัวจากที่นั่นและพุ่งเข้าหาเย่อู๋เทียนทันที
รวดเร็วดุจสายรุ้ง!
เย่อู๋เทียนกลับเบี่ยงตัวหลบ พลางยื่นมือไปจี้จุดที่หลังเย่ซี
พูดให้ชัดๆคือ จิ้มนิ้วไปที่ตำแหน่งด้านหลังหัวใจของเย่ซี
ปึ้ง!
เย่ซีรับแรงและล้มลง!
แต่ยังไม่รอเย่ซีได้สติ เย่อู๋เทียนก็เดินไปทางเย่เฉินที่หมดลมแล้ว และกดมือบนไหล่เขา
“ทำชั่วเลวทรามมา อยากตาย? ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!”
พูดจบ ลมปราณรุนแรงสายหนึ่งเข้าสู้เจ็ดเส้นประสาทแปดสัญญาณชีพของเย่เฉิน
เย่เฉินกลับฟื้นคืนชีพจากความตาย!
พลันลืมตาขึ้น!
เย่อู๋เทียนหัวเราะมองเย่เฉิน พลางเอ่ยเสียงเนิบช้า
“ตาย แบ่งเป็นสามระยะ ครั้งหน้าถ้าจะตัดเส้นชีพจรเอง ให้หาที่ที่ไม่มีคน แน่นอนว่าตอนนี้คุณจะตายก็ได้ เพียงแต่คุณกลายเป็นคนที่แย่เสียยิ่งกว่าคนธรรมดาเสียอีก ยังมีแรงหยิบกระบี่ไหม?”
เย่เฉินหน้าซีดเหมือนปลาตาย
ยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่า ตนพึ่งหมดลมหายใจไปเมื่อครู่ ตอนนี้กลับตายแล้วฟื้นใหม่เสียอย่างนั้น!
ที่น่ากลัวก็คือ…
ตอนนี้ตนกลายเป็นคนพิการคนหนึ่งเหมือนที่เย่อู๋เทียนบอกเลย!
มันทำให้เขาทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าฆ่าเขาอีก!
และก็เห็นเย่ซีในตอนนี้ที่โดนเย่อู๋เทียนจิ้มนิ้วโจมตีล้มลงพื้นพลันเบิกตากว้างเช่นกัน
ในดวงตาแดงก่ำคู่นั้นเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ!
คาดไม่ถึงเลย!
เย่อู๋เทียนช่วยคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้!
หลงรั่วหานเองก็ตะลึงแทบลืมหายใจแล้ว เธอเบิกตากว้างมองทุกอย่างเบื้องหน้าอย่างตะลึง
เหมือนจะสูญเสียความสามารถในการครุ่นคิดไปแล้ว
เมื่อครู่ถึงเย่อู๋เทียนจะบอกว่า ตนไม่คู่ควรประมือกับเขา แต่ตนเองไม่เชื่อเลยสักนิด!
เพราะคนที่แย่งมีดสั้นไปจากมือเธอเมื่อครู่ไม่ใช่เย่อู๋เทียน แต่เป็นผู้หญิงคนนั้นที่ติดตามเย่อู๋เทียนมา!
ตอนนี้ดูแล้ว….
ตนเองมิคู่ควรที่จะประมือกับเย่อู๋เทียนเลยจริงๆ!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
เขาทำอย่างนี้ได้ยังไงกัน?
ผู้หญิงคนนั้นที่พึ่งแย่งมีดสั้นจากมือเธอไป ผนวกตันไปแล้วเกือบร้อยครั้ง…
หรือว่าเย่อู๋เทียนเองก็….
พอคิดถึงจุดนี้ หลงรั่วหานถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว
สายตาที่มองไปทางเย่อู๋เทียน
เต็มไปด้วยความหวาดระแวง!
“เป็นไปไม่ได้!”
หลงรั่วหานพูดออกมา
เย่อู๋เทียนมองหลงรั่วหานพลางแค่นเสียงบอก
“อะไรเป็นไปไม่ได้?”
หลงรั่วหานพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“ผนวกตันร้อยครั้ง เป็นไปไม่ได้!”
เย่อู๋เทียนส่ายหัว ขี้เกียจถือสาหลงรั่วหาน แต่กลับเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นว่า
“ช่วยคุณจัดการตัวปัญหาอย่างเย่เฉินไปได้นี่ คุณ หลงรั่วหาน เป็นหนี้ผมครั้งหนึ่งนะ!”
หลงรั่วหานอ้าปาก อยากจะพูดแต่พูดไม่ออก
เย่อู๋เทียนหันมองมีดสั้นในมืออีกครั้ง พลางถามหลงรั่วหาน,
“มีดนี้เรียกว่าอะไร?”
หลงรั่วหานตอบอย่างฉับพลัน
“เฟิ่งเหมย!”
เย่อู๋เทียนอึ้งเล็กน้อย ก่อนตอบเสียงเยาะว่า
“ดูผู้หญิ๊งผู้หญิง ไม่ชอบ”
พอคำพูดนี้จบ เย่อู๋เทียนพลันสั่นมือเล็กน้อย
ชิ้ง!
กระบี่เฟิ่งเหมย…
พุ่งไปทางประตูสองบานชั้นสองของห้องน้ำชาทันที!
จากนั้นเห็นปลายกระบี่แทงเข้าไปที่ห้องน้ำชาตรงกลางห้องนั้น ประตูสองบานแตกร้าวประดุจใยแมงมุม!
แตกละเอียดตกลงบนพื้น
คนทั้งหมดในชั้นหนึ่งพากันมองไปที่ชั้นสองโดยพร้อมเพรียง
และได้เห็นว่าในประตูห้องที่แตกละเอียดชั้นสองนั่นมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่
หล่อนสูงราวสองเมตร ใส่ชุดคลุมยาวสีดำ
นั่นคือ…
เย่หวงเย!
วินาทีที่เห็นเย่หวงเย คนทุกคนในชั้นหนึ่งนอกจากเย่อู๋เทียนแล้ว ล้วนมีสีหน้าตะลึงอึ้ง
โดยเฉพาะหลงรั่วหาน
ไม่คิดเลยว่า เย่หวงเยจะมาปรากฏตัวที่ชั้นสองในเวลานี้
เย่เฉินและเย่ซีต่างมองไปทางเย่หวงเยเช่นกัน
มีประกายอึ้งตะลึงวาบผ่านในสายตาของทั้งคู่ และไม่คิดเลยว่า เย่หวงเยจะมาอยู่ชั้นสอง
เสิ่นรั่วชิงเคยเห็นเย่หวงเยมาก่อนหน้านี้ที่ภัตตาคารหมิงจู เลยไม่รู้สึกแปลกหน้าหล่อน แต่ก็ยังสงสัยมากว่า ทำไมผู้หญิงคนนี้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้!?
ส่วนหานตี้ซือ สายตาที่มองเย่หวงเยเต็มไปด้วยความสงสัย
เห็นได้ชัดว่า หานตี้ซือไม่รู้จักเย่หวงเย
แต่กลับเห็นว่าเย่หวงเยในเวลานี้ เธอที่ยืนอยู่ด้านหลังขอบประตูชั้นสองกลับไม่กล้าขยับแล้ว
เหมือนไม่คิดว่าตนจะโดนเย่อู๋เทียนจับได้!
เห็นได้ชัดว่า เย่หวงเยมายืนหลังประตูห้องชั้นสองนานพอดูแล้ว
พูดได้เลยว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นชั้นหนึ่งเมื่อครู่เธอเห็นอยู่ในสายตาผ่านทางช่องประตูหมดแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่าเย่อู๋เทียนเก่งมาก แต่ไม่คิดว่า เย่อู๋เทียนจะร้ายกาจถึงเพียงนี้!
เย่หวงเยคิดมาตลอดว่า ต่อให้เย่อู๋เทียนผนวกตันมาเป็นร้อยครั้ง แต่ถ้ามาเผชิญหน้าหลงรั่วหานซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งพันธมิตรมังกร เขาต้องแพ้แน่!
เพราะเธอรู้ว่า ที่หลงรั่วหานฝึกเป็นวิทยายุทธ์สุดยอดชนิดที่ไม่ถ่ายทอดให้คนนอกของพันธมิตรมังกร!
ในใต้หล้านี้ไม่มีวิทยายุทธ์อื่นใดที่จะเหนือไปกว่าวิทยายุทธ์ที่หลงรั่วหานฝึกฝน!
ต่อให้เป็นวิชาชี่จักรพรรดิของตระกูลหาน ต่อให้เป็นพลังแก่นม่วงก็เทียบไม่ติดเลย!
ตอนนี้ดูแล้ว….
เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่อู๋เทียน หลงรั่วหานกลับมิคู่ควรแม้แต่จะประมือด้วย!
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?
แต่ในตอนที่เย่หวงเยกำลังคิดอย่างนี้ เย่อู๋เทียนพลันตะคอกเสียงเย็นว่า
“ยังไม่ลงมาอีก?”
เย่หวงเยถึงได้สติกลับมา และเดินมายืนหน้าเย่อู๋เทียนอย่างประหวั่นพรั่นพรึง
ปึ้ง!
เธอคุกเข่าลงกับพื้น
เย่อู๋เทียนมองเย่หวงเยอย่างผู้ที่อยู่สูงกว่า พลางยิ้มเย็น
“เย่หวงเย เธอนี่สันดานเปลี่ยนยากจริงนะ ผมมาที่นี่ ที่หน้าประตูไม่เห็นหมาตัวหนึ่งและป้าที่เป็นเฉพาะของเย่อู๋เทียนแล้ว แต่กลับเจอหลิงเซียวเสียในทางเดินด้านนอกนั่น และยังมาเจอหลงรั่วหานที่นี่อีก ดูท่าเธอจะเป็นคนเตรียมการพวกนี้ไว้ล่ะสิ?”